.

Thailand
Apple วางแผนย้ายสายการประกอบ iPhoneจากจีนไปยังอินเดีย
26-4-2025
Apple วางแผนย้ายสายการประกอบ iPhone ทั้งหมดที่ส่งไปยังสหรัฐฯ จากจีนไปยังอินเดีย ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ตามรายงานของ Financial Times เมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้กำหนดอัตราภาษีศุลกากรครั้งใหญ่กับหลายประเทศ โดยสินค้าจีนต้องเผชิญกับภาษีสูงถึง 145% เขาให้เหตุผลว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูการผลิตภายในประเทศและแก้ไขความไม่สมดุลด้านการค้า ฝ่ายจีนจึงตอบโต้ด้วยการกำหนดภาษีและข้อจำกัดการส่งออกของตนเอง
สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายชื่อสินค้าที่ได้รับการยกเว้น ซึ่งจะถูกเก็บภาษีในอัตราแยกต่างหากที่ 20% และรวมถึงคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป สมาร์ตโฟน และอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนเทคโนโลยีอื่นๆ ทั้งนี้ ทำเนียบขาวแถลงว่าการยกเว้นภาษีเหล่านี้มีขึ้นเพื่อให้บริษัทต่างๆ มีเวลาปรับฐานการผลิตมาสู่ภายในสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ Financial Times รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า Apple หวังจะย้ายสายการประกอบทั้งหมดไปยังอินเดียให้เสร็จภายในสิ้นปี 2026 ซึ่งจะส่งผลต่อ iPhone กว่า 60 ล้านเครื่องที่ขายในสหรัฐฯ ต่อปี
จีนระงับการส่งออกวัตถุดิบสำคัญ ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐฯ – NYT
ตามรายงาน Apple ได้เร่งแผนการกระจายความเสี่ยงจากเดิมที่มีอยู่แล้ว เนื่องจากสงครามการค้ารุนแรงขึ้น และในขณะนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการผลิต iPhone ในอินเดียเป็นสองเท่า แม้ว่า Apple จะย้ายสายการประกอบบางส่วนไปยังอินเดียและเวียดนามแล้ว แต่จีนก็ยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตหลักของ iPhone ทั่วโลก โดย Apple ได้ลงทุนในจีนมาเกือบสองทศวรรษ
Financial Times ระบุว่า ส่วนประกอบจำนวนมากที่ใช้ในกระบวนการประกอบนั้นยังคงจัดหามาจากจีน เมื่อต้นเดือนนี้ Times of India รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า Apple ได้ขนส่ง iPhone และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวน 5 เที่ยวบินจากอินเดียไปยังสหรัฐฯ ภายในระยะเวลา 3 วันในช่วงปลายเดือนมีนาคม การขนส่งนี้เกิดขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับภาษีตอบโต้ 10% สำหรับสินค้าจากอินเดียที่ทรัมป์ประกาศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน
iPhone 16 รุ่นที่ถูกที่สุดเปิดตัวในสหรัฐฯ ที่ราคา 799 ดอลลาร์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นถึง 43% เป็น 1,142 ดอลลาร์ หาก Apple ตัดสินใจผลักภาระค่าใช้จ่ายไปยังผู้บริโภค ตามการคำนวณของ Reuters โดยอ้างอิงจากบทวิเคราะห์ของบริษัท Rosenblatt Securities
ที่มา อาร์ที
© Copyright 2020, All Rights Reserved