กองทัพสหรัฐไม่พร้อมทำสงครามที่ยืดเยื้อกับจีน

3-4-2025

   "กองทัพสหรัฐจะไม่พร้อมสำหรับสงครามที่ยืดเยื้อกับจีน เนื่องจากการขาดตกบกพร่องของฐานอุตสาหกรรมทางทหาร” ผู้ที่ได้รับเลือกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้เป็นผู้นำคณะเสนาธิการร่วมกล่าว ในการให้การเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมาธิการบริการด้านอาวุธของวุฒิสภาเมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยืนยัน พลโทจอห์น เคน (เกษียณ) เน้นย้ำว่าการแข่งขันกับจีนยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นเร่งด่วนที่สุดที่สหรัฐเผชิญอยู่ 

   'ภัยคุกคามที่จีนก่อขึ้นต่อผลประโยชน์ของอเมริกาในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกนั้นมีจริงและกำลังเพิ่มขึ้น สหรัฐจำเป็นต้องทำงานร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนเพื่อยับยั้งการรุกรานของจีนในภูมิภาคนี้' เขากล่าวอ้าง   อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าสหรัฐในปัจจุบันไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะตอบสนองต่อภัยคุกคามที่รับรู้ได้

   'น่าเสียดายที่ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ กองกำลังร่วมกำลังเผชิญกับกระบวนการจัดซื้อและฐานอุตสาหกรรมกลาโหมที่ไม่เหมาะสมสำหรับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ สหรัฐขาดความสามารถในการผลิต ความรวดเร็ว หรือความคล่องตัวที่จำเป็นในการยับยั้งศัตรูของเรา' เคนกล่าว 

    เมื่อระบุว่าอินโด-แปซิฟิกเป็นโรงละครสำคัญสำหรับสหรัฐ นายพลผู้นี้กล่าวว่ากองทัพจีน 'ได้พัฒนาการทหารอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการปรับโครงสร้างกองทัพ นำระบบที่พัฒนาเองที่ทันสมัยมาใช้' และเสริมว่า 'ในเชิงตัวเลข จีนมีกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก'   อย่างไรก็ตาม เขาเสริมว่าปักกิ่ง 'ยังคงมีข้อบกพร่องในความเชี่ยวชาญของผู้บัญชาการ โลจิสติกส์ระยะไกล การสงครามในเมือง และ… ประสบการณ์การสงครามสมัยใหม่โดยรวม’

    เคนยังกล่าวถึงภาพรวมภูมิรัฐศาสตร์ที่กว้างขึ้น โดยโต้แย้งว่าในขณะที่จีน รัสเซีย และเกาหลีเหนือมีการร่วมมือกันอย่างจำกัด 'ประเทศเหล่านี้ไม่ได้ปฏิบัติเป็นกลุ่ม และไม่ได้มุ่งไปสู่พันธมิตรแบบนาโต้'   สหรัฐและจีนขัดแย้งกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะความตึงเครียดสูงเกี่ยวกับเกาะไต้หวันที่ปกครองตนเอง ผู้นำจีน สี จิ้นผิง กล่าวว่าในขณะที่ปักกิ่งต้องการ 'การรวมชาติอย่างสันติ' กับสิ่งที่ถือว่าเป็นจังหวัดที่แยกตัวออกไป แต่ก็ไม่ได้ตัดการใช้กำลังทิ้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

   ปักกิ่งได้กล่าวหาวอชิงตันว่า 'หมกมุ่นกับการกดขี่จีน' และเตือนว่านี่จะทำร้ายสหรัฐเองเท่านั้น" 

ที่มา RT