อิสราเอลเดินหน้าทำสงครามในกาซาเพื่อขยายการยึดดินแดน

3-4-2025

    อิสราเอลได้ขยายการรุกรานทางบกในฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม โดยพยายามยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกทำลายจากสงคราม   อิสราเอลทวีความรุนแรงในการโจมตีเมื่อวันพุธ โดยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล คัตซ์ ประกาศแผนการ "ยึดครองดินแดนกว้างขวาง" เพื่อจัดตั้งสิ่งที่เขาอ้างว่าเป็นเขตความปลอดภัยใหม่  การขยายดินแดนนี้ เขากล่าวว่า มีเป้าหมายเพื่อรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของฮามาสและเพิ่มแรงกดดันให้ปล่อยตัวเชลยชาวอิสราเอลที่ถูกกลุ่มในกาซาควบคุมตัว

     กองทัพอิสราเอลได้จัดตั้ง "เขตกันชน" ภายในกาซาแล้ว โดยขยายพื้นที่ที่เคยมีอยู่รอบขอบเขตก่อนสงคราม และเพิ่มพื้นที่ขนาดใหญ่ในสิ่งที่เรียกว่า "ระเบียงเน็ตซาริม" ผ่านกลางดินแดน  เมื่อวันจันทร์ กองทัพอิสราเอลสั่งให้ผู้อยู่อาศัยทั้งหมดในราฟาห์ทางใต้ของกาซาอพยพออกไป และในวันอังคาร ได้ขยายคำสั่งอพยพบังคับไปยังเบต ฮานูน เบต ลาฮิยา และพื้นที่ใกล้เคียงทางตอนเหนือของดินแดน 

     ตามรายงานของ The Times of Israel กองทัพได้ส่งกองพลที่ 36 ไปยังกาซาเพื่อการโจมตีที่ขยายออกไป โดยทหารเริ่มเข้าสู่ฉนวนในเช้าวันพุธ  นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ต้องการให้ฮามาสปล่อยตัวเชลยชาวอิสราเอล 59 คนที่ยังคงอยู่ในกาซาเพื่อแลกกับชาวปาเลสไตน์ที่ถูกคุมขังในเรือนจำอิสราเอล แต่ไม่ยอมรับที่จะยุติสงครามและถอนทหารออกจากดินแดนที่ถูกปิดล้อม   ครอบครัวของเชลยชาวอิสราเอลออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ โดยวิพากษ์วิจารณ์การประกาศของอิสราเอลเกี่ยวกับการขยายการรุกรานทางทหาร ตามรายงานของ The Times of Israel  ครอบครัวอิสราเอล "รู้สึกหวาดกลัวที่ตื่นขึ้นมาเช้านี้" ต่อการประกาศว่าการโจมตีในกาซาจะขยายเพื่อ "ยึดครองดินแดนกว้างขวาง" แถลงการณ์ระบุ "มีการตัดสินใจที่จะเสียสละเชลยเพื่อผลประโยชน์ทางดินแดนหรือไม่?" ครอบครัวถามในแถลงการณ์ร่วม   พวกเขากล่าวว่า แทนที่จะรักษาความปลอดภัยให้เชลยผ่านข้อตกลงและยุติสงคราม รัฐบาลอิสราเอล "กำลังส่งทหารเพิ่มเข้าไปในกาซาเพื่อสู้รบในพื้นที่เดียวกันที่การต่อสู้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า" 

    การโจมตี ซึ่งรวมถึงการอพยพครั้งใหญ่โดยเฉพาะในราฟาห์และข่านยูนิส ได้นำไปสู่การพลัดถิ่นของพลเรือนอย่างมีนัยสำคัญ   ตั้งแต่รุ่งสางของวันพุธ การโจมตีของอิสราเอลในกาซากลางและใต้ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 21 คน แหล่งข่าวทางการแพทย์ระบุ  ในข่านยูนิส มีผู้เสียชีวิต 12 คนเมื่อกองกำลังอิสราเอลโจมตีบ้านในข่านยูนิส ขณะที่อีก 2 คนถูกสังหารในการโจมตีด้วยโดรนในพื้นที่ทางเหนือของราฟาห์ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 10 คน 

    การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใกล้ศูนย์การแพทย์ UNRWA ในค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลียได้คร่าชีวิตผู้คน 8 คน รวมถึงเด็ก 3 คน องค์กร NGO Hostages Families Forum ซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร ระบุว่าการขยายการรุกรานในกาซาจะลดโอกาสในการรักษาความปลอดภัยให้กับการปล่อยตัวเชลยผ่านช่องทางทางการทูต   องค์กรกล่าวว่าสิ่งที่เทลอาวีฟกำลังทำอยู่ในกาซาขณะนี้บ่งบอกว่าการรักษาความปลอดภัยให้กับการปล่อยตัวเชลยไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับแรกของคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูอีกต่อไป  

    เมื่อเร็วๆ นี้ ฮามาสยอมรับข้อเสนอหยุดยิงที่อียิปต์เป็นคนกลางโดยตกลงที่จะปล่อยตัวเชลยชาวอิสราเอลที่ยังมีชีวิตอยู่ 5 คน รวมถึงพลเมืองสหรัฐ-อิสราเอล พร้อมกับร่างของเชลยที่เสียชีวิตหลายคน เพื่อแลกกับการหยุดการสู้รบเป็นเวลา 50 วัน   อย่างไรก็ตาม อิสราเอลปฏิเสธข้อเสนอนี้และยื่นข้อเสนอตอบโต้ของตนเอง ไม่นานหลังจากนั้น เนทันยาฮูประกาศว่าอิสราเอลกำลังเข้าสู่ "ระยะสุดท้าย" ของสงคราม 

ที่มา Press TV