.
36 0C
Thailand
Thailand
เปิดตัวขีปนาวุธและโดรนอิหร่านที่สามารถดจมตีฐานทัพสหรัฐในตะวันออกกลางได้
2-4-2025
"ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ข่มขู่ที่จะทิ้งระเบิดอิหร่านในลักษณะ 'ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน' เว้นแต่จะมีการตกลงข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ นี่คือเหตุผลที่กลยุทธ์การข่มขู่เช่นนี้ไม่ใช่ความคิดที่ดีเมื่อพูดถึงอิหร่าน สหรัฐมีฐานทัพ กองทหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ร่วมกันกว่า 60 แห่งกระจายอยู่ทั่วตะวันออกกลาง ตั้งแต่ Naval Support Activity Bahrain (ที่ตั้งของกองเรือที่ห้าของกองทัพเรือสหรัฐ) และฐานทัพอากาศ Al Udeid (สำนักงานใหญ่ส่วนหน้าของ CENTCOM) ไปจนถึงฐานทัพเรือ อากาศ และภาคพื้นดินอื่นๆ ในอ่าวโอมาน ซาอุดีอาระเบีย อิรัก จอร์แดน ซีเรีย และตุรกี”
"ในกรณีที่เกิดสงคราม ฐานทัพของสหรัฐจะอยู่ในระยะของขีปนาวุธและโดรนของอิหร่าน
พลังยิงขีปนาวุธ
Qiam-1/2: ระยะ 800-1,000 กม., หัวรบ 750 กก.
Haj Qasem: ระยะ 1,400 กม., หัวรบ 500 กก.
Kheibar Shekan: ระยะ 1,450 กม., หัวรบ 500 กก.
Emad: ระยะ 2,000 กม., น้ำหนักบรรทุก 750 กก.
Ghadr-110: ระยะ 1,600-2,000 กม., น้ำหนักบรรทุก 1,000 กก.
Khorramshahr: ระยะ 2,000 กม., น้ำหนักบรรทุก 1,800 กก., รองรับ MIRV
ขีปนาวุธล่องเรือภาคพื้นดิน
Abu Mahdi: ระยะ 1,000 กม., หัวรบ 410 กก.
Paveh: ระยะ 1,650 กม., น้ำหนักบรรทุกไม่ทราบ
Soumar: ขีปนาวุธโจมตีแม่นยำ ระยะ 2,500-3,000 กม., น้ำหนักบรรทุก 410-700 กก."
"โดรนพิสัยไกล
Kaman-12: ระยะ 1,000 กม., น้ำหนักบรรทุก 100 กก.
Shahed 129: ระยะ 1,700 กม., ติดอาวุธด้วยขีปนาวุธแม่นยำ Sadid-1 สี่ลูก
Mohajer-6: ระยะ 2,400 กม., บรรทุกอาวุธนำวิถีแม่นยำ
Shahed 149: ระยะ 2,500 กม., น้ำหนักบรรทุก 13 ลูกระเบิด สูงสุด 500 กก."
"นอกเหนือจากพลังยิงแล้ว ศักยภาพของอิหร่านยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกสองประการ: ภูมิศาสตร์และความมุ่งมั่น การเข้าถึงอ่าวเปอร์เซียและชายฝั่งอ่าวโอมานอย่างถาวรหมายความว่าในช่วงสงคราม อิหร่านสามารถครอบครองน่านน้ำรอบช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ร้อยละ 30 ของการค้าน้ำมันทั่วโลกไหลผ่าน เทือกเขาซากรอสที่โอบล้อมทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเป็นกำแพงธรรมชาติที่ศัตรูยากจะเจาะทะลุได้ โดยมีฐานขีปนาวุธใต้ดินและสถานที่ป้องกันภัยทางอากาศหลายแห่งตั้งอยู่ในสถานที่ที่แข็งแกร่งในภูเขา อิหร่านยังได้แสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะไม่ยอมให้การรุกรานใดๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโดรนสอดแนมของสหรัฐที่ละเมิดน่านฟ้า หรือการโจมตีลอบสังหารที่มุ่งเป้าไปที่ผู้บัญชาการของตน อิหร่านจะไม่ลังเลที่จะตอบโต้ผู้รุกรานใดๆ ไม่ว่าพวกเขาจะมีอำนาจมากเพียงใด"
ที่มา Sputnik
----------------------------------
ประธานเสธฯ สหรัฐชี้ กำลังทหารอย่างเดียวอาจไม่พอยับยั้งอิหร่าน
2-4-2025
พลโทแดน เคน ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งนายทหารยศสูงสุดของประเทศได้ให้ความเห็นว่า กำลังทหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะยับยั้งอิหร่านจากการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ตามแถลงการณ์ที่เขาส่งมอบก่อนการพิจารณายืนยันตำแหน่งโดยวุฒิสภาในวันอังคารนี้
พลโทแดน เคน (เกษียณ) จากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ให้คำตอบเชิงนโยบายเป็นลายลักษณ์อักษรแก่คณะกรรมาธิการกองทัพของวุฒิสภา โดยระบุว่า "กำลังทหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะยับยั้งอิหร่าน และแนวทางที่รวมถึงการมีส่วนร่วมทางการทูตและแรงจูงใจทางเศรษฐกิจอาจมีความจำเป็น" ซึ่งเป็นการตอบคำถามของคณะกรรมาธิการที่ว่า "ในความเห็นของท่าน อิหร่านสามารถถูกยับยั้งได้อย่างเพียงพอด้วยกำลังทหารเพียงอย่างเดียวหรือไม่?"
คำตอบของเคนในเอกสาร 89 หน้าที่เตรียมไว้เป็นรูปแบบที่ใช้ภาษาการทูตมากกว่านโยบายที่ทรัมป์ได้เสนอไว้ก่อนหน้านี้ โดยประธานาธิบดีได้เตือนว่าอิหร่านต้องเข้าร่วมโต๊ะเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของตน มิฉะนั้น "จะมีการทิ้งระเบิด และจะเป็นการทิ้งระเบิดในลักษณะที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน" ตามรายงานของ NBC เมื่อวันอาทิตย์
ในปี 2018 ทรัมป์ได้นำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงที่เจรจาโดยรัฐบาลโอบามา ซึ่งได้กำหนดข้อจำกัดต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร นับตั้งแต่นั้นมา อิหร่านได้เพิ่มปริมาณยูเรเนียมเสริมสมรรถนะในระดับที่ต่ำกว่าระดับที่ใช้ผลิตอาวุธเพียงเล็กน้อย แม้ว่าอิหร่านจะปฏิเสธว่าไม่ได้แสวงหาอาวุธนิวเคลียร์
บลูมเบิร์กนิวส์เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า ทรัมป์ได้กำหนดเส้นตายสองเดือนให้อิหร่านเจรจาข้อตกลงใหม่ มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการเผชิญกับผลทางการทหาร ในประเด็นเกี่ยวกับยูเครน เคนให้ความเห็นว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียจะดำเนินสงครามต่อไปจนถึงปี 2025 "แม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากปฏิบัติการต่อเนื่อง" เนื่องจากเขามองว่าความขัดแย้ง "เป็นประโยชน์ต่อเขา" และ "ปูตินยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ในยูเครน ซึ่งรวมถึงการรักษาดินแดนที่ยึดครองและการบังคับให้ยูเครนเป็นกลาง"
เคนยังแสดงท่าทีสนับสนุนการส่งความช่วยเหลือทางทหารไปยังยูเครน แต่เน้นย้ำว่าสหรัฐฯ "ควรมุ่งเน้นไปที่ขีดความสามารถพิเศษที่มีเฉพาะสหรัฐฯ เท่านั้นที่สามารถจัดหาให้ได้ ในขณะที่ยุโรปควรเพิ่มสัดส่วนการสนับสนุนของตน"
---
IMCT NEWS : Photos U.S. DepartmentofDefense
