.
36 0C
Thailand
Thailand
จีนเปิดตัวขีปนาวุธต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ ในการซ้อมรบรอบไต้หวัน ส่งสัญญาณเตือนสหรัฐฯ
3-4-2025
ขีปนาวุธ YJ-21 สองลูกปรากฏบนเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ H-6K ขณะขึ้นบินจากสนามบินไม่เปิดเผยในวิดีโอของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนระหว่างวันแรกของการซ้อมรบ** กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ดูเหมือนจะนำขีปนาวุธต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ไปใช้ในการซ้อมรบรอบไต้หวันเมื่อวันอังคาร ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณเตือนสหรัฐฯ ไม่ให้แทรกแซงท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้น
ขีปนาวุธ YJ-21 สองลูก ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Eagle Strike-21 ปรากฏบนเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ H-6K ที่เห็นกำลังขึ้นบินจากสนามบินที่ไม่เปิดเผยชื่อในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารทางบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ทางการของกองบัญชาการภาคตะวันออกของ PLA วิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ไม่นานหลังจากเริ่มการซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่อีกครั้งแบบไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าในน่านน้ำและน่านฟ้าทางเหนือ ใต้ และตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งโฆษกกองบัญชาการบรรยายว่าเป็น "คำเตือนที่จริงจังและการยับยั้งที่ทรงพลัง" ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง YJ-21 ซึ่งมีหัวรบทรงกรวยคล้ายกับ Kh-47 Kinzhal ของรัสเซีย มีพิสัยโดยประมาณ 1,000-1,500 กิโลเมตร (621-932 ไมล์) ด้วยความเร็วเฉลี่ย Mach 6 และความเร็วสุดท้ายที่ Mach 10
ระบบต่อต้านขีปนาวุธที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถสกัดกั้น YJ-21 ได้ ซึ่งถูกนำมาใช้ครั้งแรกในรูปแบบที่ยิงจากเรือในปี 2022 เมื่อ PLA เผยแพร่วิดีโอการยิงขีปนาวุธนี้จากเรือพิฆาต Type 055 ซึ่งเป็นเรือพิฆาตที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดของกองทัพ รุ่นที่ยิงจากอากาศของ YJ-21 ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกในงานแสดงการบินที่เมืองจูไห่เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน และได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าได้ถูกนำไปใช้ในการฝึกยิงจริงในเดือนพฤศจิกายนระหว่างงานเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของกองทัพอากาศ PLA
จาง จุนเซ่อ นักวิจารณ์ทางทหารจากจีนแผ่นดินใหญ่ กล่าวกับสื่อของรัฐเมื่อวันอังคารว่าขีปนาวุธ YJ-21 คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในกรณีที่เกิดสถานการณ์การสู้รบขึ้น "ในฐานะขีปนาวุธที่มีความสามารถเจาะทะลุด้วยความเร็วเหนือเสียง YJ-21 จะมีบทบาทสำคัญในการยึดครองสนามรบอย่างครอบคลุม โจมตีเป้าหมายทางทะเลและภาคพื้นดิน รวมถึงการปิดกั้นพื้นที่และเส้นทางสำคัญ" เขากล่าว
YJ-21 พร้อมกับ "อาวุธสังหารเครื่องบิน" อื่นๆ เช่น ขีปนาวุธทิ้งตัว DF-21D และ DF-26B ที่ติดตั้งบนพื้นดินและสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ PLA ในการสร้างขีดความสามารถต่อต้านการเข้าถึง/ปฏิเสธพื้นที่ (A2/AD) ที่แข็งแกร่ง เพื่อป้องกันกองกำลังต่างชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ จากการขัดขวางปฏิบัติการทางทหารที่อาจเกิดขึ้นกับไต้หวัน
ปักกิ่งถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของตน และพร้อมจะรวมเป็นหนึ่งเดียวโดยใช้กำลังหากจำเป็น สหรัฐฯ เช่นเดียวกับประเทศส่วนใหญ่ ไม่ยอมรับว่าเกาะนี้เป็นรัฐอิสระ อย่างไรก็ตาม วอชิงตันคัดค้านความพยายามใดๆ ที่จะยึดเกาะแห่งนี้ และมีพันธะในการจัดหาอาวุธเพื่อการป้องกัน
ทิโมธี วอลตัน นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันฮัดสันที่เชี่ยวชาญด้านการป้องกันขีปนาวุธ กล่าวว่าการที่ PLA เผยแพร่การบูรณาการปฏิบัติการของ YJ-21 บนเครื่องบิน H-6K "น่าจะส่งสัญญาณถึงความสามารถในการโจมตีเป้าหมายระยะไกล" "ซึ่งรวมถึงกองกำลังของสหรัฐฯ และพันธมิตรในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และพื้นที่อื่นๆ" เขากล่าวเสริม
ตามความเห็นของวอลตัน YJ-21 ถือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงกว่าขีปนาวุธ Kinzhal ของรัสเซีย แม้ว่าขีปนาวุธแบบ aeroballistic จะถูกสกัดกั้นได้ในยูเครน แต่ YJ-21 "น่าจะเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงกว่า" เขากล่าว
ซ่ง จงผิง นักวิจารณ์ทางทหารและอดีตครูฝึกของ PLA กล่าวว่าบทบาทของขีปนาวุธนี้ในการซ้อมรบร่วม Strait Thunder-2025A ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันอังคาร เน้นย้ำถึงจุดประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ของมัน "อาวุธประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายทางทะเลขนาดใหญ่ เคลื่อนที่ช้า และมีมูลค่าสูง รวมถึงเรือรบและแม้แต่เรือบรรทุกเครื่องบิน" เขากล่าว
การติดตั้งขีปนาวุธที่ทรงพลังเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและเจตนาที่เพิ่มขึ้นของ PLA ในการยับยั้งทั้ง "การแยกตัวเป็นอิสระของไต้หวัน" และการแทรกแซงทางทหารจากต่างประเทศ ซ่งกล่าวเสริม "มันมุ่งเป้าไปที่กองทัพสหรัฐฯ และประเทศมหาอำนาจภายนอกที่ต้องการเข้ามาแทรกแซง" กองเรือเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ เคยถูกส่งไปยังช่องแคบไต้หวันในช่วงการเผชิญหน้าทางทหารครั้งก่อนๆ รวมถึงในปี 1950, 1954 และ 1996 ซึ่งบังคับให้ PLA ต้องหยุดปฏิบัติการ
ความตึงเครียดล่าสุดระหว่างสองฝั่งช่องแคบเกิดขึ้นหลังจากผู้นำไต้หวัน วิลเลียม ไหล ชิงเต๋อ แถลงเมื่อวันที่ 13 มีนาคม โดยเรียกปักกิ่งว่าเป็น "กองกำลังต่างชาติที่เป็นศัตรู" และประกาศเพิ่มความเข้มงวดมาตรการความมั่นคงของชาติบนเกาะ การซ้อมรบในสัปดาห์นี้ ซึ่งดำเนินต่อเนื่องในวันพุธพร้อมการเพิ่มกระสุนจริงในทะเลจีนตะวันออก เป็นการซ้อมรบร่วมครั้งที่สองของ PLA ใกล้ไต้หวันในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
กองบัญชาการภาคตะวันออกแจ้งว่าได้ระดมกองเรือ กองบินต่างๆ หน่วยขีปนาวุธแบบดั้งเดิม และระบบยิงจรวดพิสัยไกลสำหรับการซ้อมรบ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อ "ทดสอบขีดความสามารถของกำลังพลในการปฏิบัติการแบบบูรณาการ การยึดการควบคุมปฏิบัติการ และการโจมตีที่แม่นยำในหลายทิศทาง"
ชาห์รียาร์ พาซานดิเดห์ นักวิชาการด้านเทคโนโลยีทางทหารจากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวว่าการใช้งาน YJ-21 สะท้อนถึงการแข่งขันด้านอาวุธที่กว้างขวางและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในภูมิภาค"กองทัพเรือสหรัฐฯ ดูเหมือนจะฟื้นฟูขีดความสามารถนี้ด้วย AIM-174B" เขากล่าว โดยอ้างถึงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศรุ่นใหม่ที่มีพิสัยไกลกว่า ซึ่งปัจจุบันติดตั้งบนเรือพิฆาตของสหรัฐฯ "เรากำลังเห็นการแข่งขันที่มีพลวัตสูง - ไม่มีเสถียรภาพ - ระหว่างมาตรการและมาตรการตอบโต้ และการที่จีนติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านเรือแบบยิงจากอากาศ... ไม่น่าจะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายในการแข่งขันนี้"
---
IMCT NEWS
