พิษจากภาษีทรัมป์ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงรุนแรงพอๆกับช่วงโควิดระบาด

5-4-2025

    ตลาดหุ้นถูกทุบเป็นวันที่สองในวันศุกร์ หลังจากที่จีนตอบโต้ด้วยการกำหนดภาษีใหม่ต่อสินค้าสหรัฐ จุดประกายความกลัวว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดชนวนสงครามการค้าโลกที่จะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย   ดัชนี Dow Jones Industrial Averageร่วงลง 2,231.07 จุด หรือ 5.5% มาอยู่ที่ 38,314.86 ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 (2020) ระหว่างการระบาดของโควิด-19 หลังจากลดลง 1,679 จุดในวันพฤหัสบดี และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ดัชนีนี้สูญเสียมากกว่า 1,500 จุดติดต่อกันสองวัน 

    ดัชนี S&P 500ดิ่งลง 5.97% มาอยู่ที่ 5,074.08 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 (2020) ดัชนีนี้ลดลง 4.84% ในวันพฤหัสบดี และขณะนี้ห่างจากจุดสูงสุดล่าสุดมากกว่า 17% 

    ดัชนี Nasdaq Composite ซึ่งเป็นที่รวมของบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากที่ขายสินค้าให้จีนและผลิตที่นั่นด้วย ร่วงลง 5.8% มาอยู่ที่ 15,587.79 หลังจากลดลงเกือบ 6% ในวันพฤหัสบดี และทำให้ดัชนีนี้ลดลง 22% จากระดับสูงสุดในเดือนธันวาคม ซึ่งในศัพท์ของวอลล์สตรีทเรียกว่าตลาดหมี

การขายหุ้นเป็นไปอย่างกว้างขวาง โดยมีเพียง 14 บริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวสูงขึ้นในวันนั้น ดัชนีตลาดหลักปิดที่ระดับต่ำสุดของการซื้อขาย 

    กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุในวันศุกร์ว่าประเทศจะกำหนดภาษี 34% ต่อสินค้าสหรัฐทั้งหมด ซึ่งทำให้นักลงทุนผิดหวังที่หวังว่าประเทศต่างๆ จะเจรจากับทรัมป์ก่อนตอบโต้ 

   หุ้นเทคโนโลยีนำการขาดทุนในวันศุกร์ หุ้นของผู้ผลิต iPhone อย่าง Apple ร่วงลง 7% ทำให้การสูญเสียตลอดทั้งสัปดาห์อยู่ที่ 13% หุ้น Nvidia ผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ ถอยกลับ 7% ในระหว่างเซสชัน ขณะที่ Teslaลดลง 10% ทั้งสามบริษัทนี้มีการพึ่งพาจีนอย่างมากและได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากภาษีตอบโต้ของปักกิ่ง 

นอกเหนือจากเทคโนโลยี Boeing และ Caterpillar

—ผู้ส่งออกรายใหญ่ไปยังจีน—นำดัชนี Dow ร่วงลง โดยลดลง 9% และเกือบ 6% ตามลำดับ

"ตลาดกระทิงตายแล้ว และมันถูกทำลายโดยนักอุดมการณ์และบาดแผลที่เกิดจากตัวเอง" เอมิลี่ โบเวอร์ซ็อก ฮิลล์ ซีอีโอและหุ้นส่วนผู้ก่อตั้งของ Bowersock Capital Partners กล่าว "ในขณะที่ตลาดอาจใกล้ถึงจุดต่ำสุดในระยะสั้น เรากังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าโลกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว" 

    ความพยายามของจีนในการตอบโต้ภาษีของทรัมป์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การกำหนดภาษีตอบแทนของตนเอง ปักกิ่งได้เพิ่มบริษัทหลายแห่งเข้าไปในสิ่งที่เรียกว่า "รายชื่อหน่วยงานที่ไม่น่าเชื่อถือ" ซึ่งระบุว่าบริษัทเหล่านี้ได้ละเมิดกฎตลาดหรือข้อผูกพันตามสัญญา นอกจากนี้ จีนยังเปิดการสอบสวนต่อต้านการผูกขาดต่อ DuPont ในวันศุกร์ ส่งผลให้หุ้นร่วงลงเกือบ 13% 

    อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10 ปีร่วงลงต่ำกว่า 4% ในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนแห่เข้าซื้อพันธบัตรเพื่อความปลอดภัย ผลักดันราคาขึ้นและอัตรายิลด์ลง ดัชนีความผันผวน CBOE ซึ่งเป็นมาตรวัดความกลัวของวอลล์สตรีท พุ่งสูงเกิน 40 ซึ่งเป็นระดับสุดขีดที่เห็นได้เฉพาะในช่วงที่ตลาดร่วงลงอย่างรวดเร็ว 

   ทรัมป์ดูเหมือนจะยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อการต่อต้านจากตลาดต่อการโจมตีด้วยภาษีที่เขาประกาศเมื่อเย็นวันพุธ โดยโพสต์บน Truth Social ในวันศุกร์ว่านโยบายของเขา "จะไม่เปลี่ยนแปลง"  "ความกลัวตอนนี้เมื่อเราเข้าสู่สุดสัปดาห์คือสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงขึ้น และสหรัฐจะไม่ยอมถอย" เจย์ วูดส์ หัวหน้านักยุทธศาสตร์ระดับโลกของ Freedom Capital Markets กล่าว 

ที่มา CNBC