.

ศึกชิงทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ 4 มหาอำนาจ แย่งชิงแร่หายากและพลังงานนิวเคลียร์ในเอเชียกลาง
23-3-2025
สงครามแย่งชิงทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์กำลังร้อนระอุในภูมิภาคเอเชียกลาง โดยมหาอำนาจทั้ง 4 ฝ่าย ทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป รัสเซียและจีน ต่างเร่งช่วงชิงอิทธิพลเพื่อครอบครองแร่ธาตุที่มีความสำคัญและเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ในภูมิภาคนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปแสดงความสนใจอย่างเพิ่มขึ้นต่อแร่ธาตุสำคัญในเอเชียกลาง พร้อมทั้งแสดงความพร้อมที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการก่อสร้างและดำเนินงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีแผนจะสร้างในคาซัคสถาน อุซเบกิสถาน และคีร์กีซสถาน
การแสวงหาแร่หายากของสหรัฐฯ ดูจะทวีความเข้มข้นขึ้น สะท้อนผ่านการเดินทางเยือนอย่างเงียบๆ ของนางแคโรล มิลเลอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งได้จัดการประชุมกับผู้นำระดับสูงของประเทศในเอเชียกลาง การละเมิดพิธีการทูตอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อมิลเลอร์ซึ่งไม่ได้อยู่ในลำดับชั้นสูงของฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ กลับได้เข้าพบกับประธานาธิบดีคาซัคสถาน คาสซิม-โจมาร์ต โทคาเยฟ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม เพียงสามวันหลังจากที่เธอได้เจรจากับนายชัฟกัต มีร์ซิโยเยฟ ผู้นำอุซเบกิสถาน
การเดินทางครั้งนี้มีการรายงานข่าวค่อนข้างน้อย แถลงการณ์ที่ออกโดยสำนักงานประธานาธิบดีของทั้งสองประเทศให้บทสรุปอย่างคลุมเครือเกี่ยวกับการหารือ แต่ก็มีการกล่าวถึงหัวข้อการทำเหมืองแร่ ที่น่าสนใจคือเว็บไซต์ส่วนตัวของมิลเลอร์เองไม่ได้ระบุเลยว่าเธอเดินทางไปเอเชียกลาง อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่เผยแพร่โดยสื่อของอุซเบกิสถานระบุว่า มิลเลอร์ได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการค้าอุซเบกิสถาน และฝ่ายอุซเบกิสถานแสดง "ความพร้อมที่จะพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนในด้านสำคัญอย่างเช่น อุตสาหกรรม แร่ธาตุสำคัญ การลงทุน และการค้า อย่างแข็งขันมากขึ้น" ในขณะเดียวกัน รัสเซียและจีนก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าพวกเขาไม่ยินยอมที่จะเสียพื้นที่อิทธิพลให้กับคู่แข่งตะวันตก
เจ้าหน้าที่รัสเซียแสดงความพร้อมที่จะช่วยทาจิกิสถานพัฒนาภาคเหมืองแร่ระหว่างการเยือนมอสโกของนายเอโมมาลี ราห์มอน ผู้นำทาจิกิสถาน ตามรายงานของสำนักข่าว Nezavisimaya Gazeta ของรัสเซีย นอกจากนี้ นายอเล็กเซย์ ลิคาเชฟ หัวหน้าหน่วยงานพลังงานนิวเคลียร์รัสเซีย Rosatom กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 17 มีนาคมว่า "รัสเซียและทาจิกิสถานกำลังสร้างห่วงโซ่เทคโนโลยีใหม่ในหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน การผลิตเครื่องมือ และอาจรวมถึงการทำเหมืองแร่โลหะหายาก ทาจิกิสถานอุดมไปด้วยโลหะหายาก"
ลิคาเชฟยังเปิดเผยอีกว่า Rosatom อยู่ใน "ขั้นตอนเริ่มต้นของการเจรจา" กับผู้นำทาจิกิสถานเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบโมดูลาร์ในทาจิกิสถาน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้ลงทุนเงินมหาศาลในการสร้างเขื่อนโรกุนเพื่อตอบสนองความต้องการไฟฟ้าของประเทศไปแล้ว
จีนซึ่งมีสถานะที่แข็งแกร่งในภาคเหมืองแร่ของเอเชียกลางอยู่แล้ว ก็กำลังมองหาโอกาสในธุรกิจพลังงานนิวเคลียร์เช่นกัน นายเซิน หยานเฟิง ประธานบรรษัทนิวเคลียร์แห่งชาติจีน ได้เดินทางเยือนคาซัคสถานในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นประเทศที่เพิ่งประกาศความตั้งใจจะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 เครื่อง ในระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีคาสซิม-โจมาร์ต โทคาเยฟ นายเซินได้นำเสนอความเป็นไปได้ที่จีนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา "เทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติและการฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญชาวคาซัคสถาน"
ในอีกด้านหนึ่ง นายอาซิม อาห์เมดคาดจาเยฟ ผู้อำนวยการหน่วยงานพลังงานนิวเคลียร์อุซเบกิสถาน (Uzatom) ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์รายวัน Le Figaro ของฝรั่งเศสว่า ทาชเคนต์จะว่าจ้างบริษัทฝรั่งเศสในการก่อสร้างและดำเนินงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บนดินแดนอุซเบกิสถานด้วยเหตุผล "ทางการเมือง การเงิน และเทคโนโลยี" ทั้งนี้ อุซเบกิสถานได้ทำข้อตกลงกับ Rosatom เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพด้านพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศไปแล้วก่อนหน้านี้
---
IMCT NEWS : (Photo: gov.kz)