ธนาคารกลางตุรกีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย46%

ธนาคารกลางตุรกีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 42.5% เป็น 46%
18-4-2025
ธนาคารกลางตุรกีสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดในวันพฤหัสบดี ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (อัตราดอกเบี้ยรีโปแบบหนึ่งสัปดาห์) จาก 42.5% เป็น 46% สิ้นสุดวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้น ท่ามกลางความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจจากมาตรการเก็บภาษีของสหรัฐฯ รวมถึง วิกฤตการณ์ทางการเมืองและการไหลออกของเงินลงทุน หลังจากการจับกุม เอกราม อิหม่ามโอกลู (Ekrem Imamoglu) นายกเทศมนตรีเมืองอิสตันบูลและผู้นำฝ่ายค้าน เมื่อเดือนมีนาคม
ในแถลงการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงินของตุรกีระบุว่า: “ความเด็ดขาดในการคงจุดยืนเชิงตึงตัวทางการเงินกำลังส่งเสริมกระบวนการลดเงินเฟ้อ ผ่านการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศ การแข็งค่าของค่าเงินลีราในเชิงมูลค่าที่แท้จริง และการปรับตัวดีขึ้นของความคาดหวังด้านเงินเฟ้อ” คณะกรรมการยังกล่าวถึง “ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแนวโน้มกีดกันทางการค้าโลกที่เพิ่มขึ้น” ซึ่งอาจส่งผลต่อกระบวนการลดเงินเฟ้อผ่านช่องทางของกิจกรรมเศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และกระแสเงินทุน
“จุดยืนทางการเงินแบบเข้มงวดจะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าจะสามารถรักษาเสถียรภาพของราคาได้อย่างยั่งยืน ด้วยการลดลงของเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง”
อัตราเงินเฟ้อรายปีของตุรกีในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 38.1%
การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญ การลดลงอย่างรุนแรงของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ โดยธนาคารกลางตุรกีใช้เงินสำรองไปมากถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 3 วัน หลังเหตุการณ์การจับกุมอิหม่ามโอกลูและการประท้วงที่ตามมาในวันที่ 19 มีนาคม เพื่อพยุงค่าเงินลีราที่เคยร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ มากกว่า 40 ลีราต่อดอลลาร์
ตลาดการเงินตุรกีร่วงทันทีหลังมีข่าวการจับกุม และเมื่อวันที่ 23 มีนาคม รัฐบาลได้ออกมาตรการฉุกเฉิน ได้แก่ การสั่งห้ามขายชอร์ต (short selling) และ ผ่อนคลายกฎเกณฑ์การซื้อหุ้นคืน เพื่อประคับประคองตลาดหุ้น เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา การร่วงลงของค่าเงินลีราได้กระตุ้นให้ธนาคารกลางตุรกีต้อง ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 200 จุด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืน (Overnight Lending Rate) ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 46.00% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในกรอบดอกเบี้ยของประเทศ
ดังนั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้จึงถือเป็น “การปรับเทคนิคตามหลังเหตุการณ์ในเดือนมีนาคม” ตามความเห็นของ แบรด เบคเทล (Brad Bechtel) หัวหน้าฝ่ายอัตราแลกเปลี่ยนโลกของบริษัท Jefferies “เราต้องรอดูว่าประธานาธิบดีเรเซป ทายยิป แอร์โดอัน (Recep Tayyip Erdogan) จะกล่าวอย่างไรเกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลาง แต่จนถึงตอนนี้ ธนาคารกลางได้ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดีในการเดินเกมท่ามกลางเสียงรบกวนทางการเมือง และยังคงต่อสู้กับเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง” เบคเทลกล่าวในบันทึกหลังประกาศดอกเบี้ยวันพฤหัสบดี
นิโคลัส ฟาร์ (Nicholas Farr) นักเศรษฐศาสตร์ด้านยุโรปเกิดใหม่จาก Capital Economics วิเคราะห์ว่า การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางในครั้งนี้ “เป็นการปรับนโยบายอย่างเป็นทางการตามการคุมเข้มนโยบายที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว และสะท้อนว่าผู้กำหนดนโยบายเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่อาจปรับขึ้น”
ในแถลงการณ์ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ยังได้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงจาก ค่าเงินลีราที่อ่อนค่า และระบุว่าทางการ จะติดตามความเคลื่อนไหวของกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์จาก Capital Economics ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อของตุรกีกำลังมีแนวโน้มลดลงในช่วงเดือนข้างหน้า และพวกเขา ไม่คาดว่าธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม “แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ วงจรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางนั้นได้ชนกับกำแพงใหญ่ และอาจต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสามารถเริ่มต้นผ่อนคลายได้อีกครั้ง”
บันทึกดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า: “เราคาดว่าอัตราดอกเบี้ยรีโปแบบหนึ่งสัปดาห์จะสิ้นสุดปี 2025 ที่ระดับ 40.00% (จากเดิมที่คาดไว้ที่ 35.00%)”
ที่มา ซีเอ็นบีซี