เดนมาร์ก' ส่งทหารไปยูเครนเรียนรู้การรบด้วยโดรน

เดนมาร์ก'สมาชิก NATO เตรียมส่งทหารไปยูเครนเรียนรู้การรบด้วยโดรน 'รัสเซียประกาศพร้อมโจมตีเพราะเป็นเป้าหมายทางทหาร'
19-4-2025
เดนมาร์กประกาศแผนการส่งทหารไปยังยูเครนเพื่อฝึกฝนและเรียนรู้จากประสบการณ์การสู้รบในสถานการณ์จริง ขณะที่รัสเซียออกมาเตือนว่าบุคลากรเหล่านี้จะถือเป็นเป้าหมายทางทหารที่ชอบธรรม
พลตรี ปีเตอร์ บอยเซน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเดนมาร์ก เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ TV 2 ว่า ทหารเดนมาร์กที่ไม่มีอาวุธจะถูกส่งไปยังยูเครนตะวันตกเพื่อเรียนรู้เทคนิคการทำสงครามด้วยโดรน แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ห่างจากแนวรบ แต่ก็ยังคงเสี่ยงต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซีย "เรากำลังส่งทีมบางส่วนไปเพื่อดูว่าชาวยูเครนมีประสบการณ์อะไรบ้าง — ด้วยตาของเราเอง" บอยเซนกล่าว ตามคำแปลของสำนักข่าว Kyiv Independent และย้ำว่า "พวกเขาไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อเข้าร่วมในการสู้รบโดยตรง"
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดระบุว่า ผู้ปฏิบัติการและครูฝึกจะเข้ารับการอบรมหลักสูตรที่ใช้เวลาหนึ่งถึงสองสัปดาห์ โดยการฝึกอบรมจะเริ่มขึ้นโดยเร็วที่สุด อาจเป็นช่วงฤดูร้อนนี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะส่งทหารไปจำนวนเท่าใด
รัสเซียตอบโต้ทันที
วลาดิมีร์ บาร์บิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเดนมาร์ก แสดงปฏิกิริยาทันทีผ่านสถานีโทรทัศน์ TV 2 ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการยั่วยุ และจะ "ดึงเดนมาร์กให้เข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งในยูเครนลึกยิ่งขึ้นเรื่อยๆ" เอกอัครราชทูตยังเตือนว่า สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด "รวมถึงกองบัญชาการ ศูนย์ฝึกอบรมและการศึกษา ตลอดจนที่ตั้งของบุคลากรทางทหารและยุทโธปกรณ์ ทั้งที่อยู่ลึกในดินแดนยูเครนและในแนวหน้า ล้วนเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรม"
ที่ผ่านมา รัสเซียเคยระบุว่าทรัพย์สินของชาติตะวันตกอื่นๆ ในยูเครน เช่น โรงงานของบริษัทไรน์เมทัลล์ ผู้ผลิตอาวุธของเยอรมนี เป็นเป้าหมายทางทหารที่ชอบธรรม แต่ยังไม่เคยมีรายงานหรือการยืนยันว่ามีการโจมตีเกิดขึ้นจริง บอยเซนแสดงความมั่นใจว่า ยูเครนมีระบบเตือนภัยทางอากาศและที่หลบภัยที่แข็งแกร่ง โดยอ้างประสบการณ์ตรงว่าเขาเคยใช้ที่หลบภัยในกรุงเคียฟระหว่างการเยือนยูเครน
ยูเครน: แหล่งเรียนรู้สงครามโดรนระดับโลก
ยูเครนได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในการทำสงครามด้วยโดรน โดยมีการพัฒนายุทธวิธีใหม่ๆ ประเภทของโดรน และมาตรการต่อต้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้รับความสนใจอย่างใกล้ชิดจากชาติตะวันตก
พลตรีบอยเซนยอมรับว่า ตลอดระยะเวลา 42 ปีที่รับราชการในกองทัพ เขาไม่เคยเห็นการพัฒนาเทคโนโลยีและยุทธวิธีใดที่รวดเร็วเท่ากับระบบไร้คนขับที่ใช้ในยูเครน
"เราสามารถเรียนรู้ได้มากจากประสบการณ์การรบที่พวกเขาได้รับในยูเครน" บอยเซนกล่าว "เห็นได้ชัดว่าเรากำลังพึ่งพาประสบการณ์ของพวกเขาเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการรบของเรา"
เขายังเปิดเผยว่า โครงการนี้เริ่มต้นจากคำเชิญของพลเอกโอเลกซานเดอร์ ซิร์สกี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน
โดรนถูกนำมาใช้ในสงครามยูเครนมากกว่าในความขัดแย้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ บอยเซนระบุว่า โดรนโจมตีคิดเป็นมากกว่า 70% ของการสังหารที่กองทัพยูเครนทำได้
ยูเครนยังเน้นการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี โดยยืนยันว่ามากกว่า 96% ของโดรน 1.5 ล้านลำที่จัดซื้อในปีที่แล้วมีแหล่งผลิตในยูเครนเอง
การเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งในอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า หากเกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกในอนาคต จะมีลักษณะแตกต่างอย่างมากจากสงครามในยูเครน
การที่ยูเครนต้องพึ่งพาโดรนอย่างมากส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขาดแคลนอาวุธยุทโธปกรณ์และระบบป้องกันประเทศอื่นๆ รวมถึงการมีกำลังพลน้อยกว่ารัสเซียอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เป็นที่ยอมรับกันว่าโดรนจะเป็นองค์ประกอบสำคัญในความขัดแย้งทางทหารในอนาคต และชาติตะวันตกกำลังนำบทเรียนที่กว้างขวางกว่าเรื่องโดรนไปปรับใช้
โทรลส์ ลุนด์ พูลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์ก ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ชาติตะวันตกสามารถเรียนรู้บทเรียนจากยูเครนได้หลายด้าน รวมถึงวิธีการผลิตอาวุธให้รวดเร็วขึ้น
"เรามีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมากจากกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านยุทธวิธี" พูลเซนกล่าว
เดนมาร์กได้เพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศแล้ว โดยออกคำเตือนเช่นเดียวกับชาติยุโรปอื่นๆ ว่ารัสเซียอาจขยายการโจมตีไปยังพื้นที่อื่นในทวีปยุโรป
ปัจจุบัน เดนมาร์กเป็นประเทศที่ให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนมากเป็นอันดับสองเมื่อคิดเป็นสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และมีบทบาทสำคัญในการส่งมอบอาวุธยุทธศาสตร์ให้ยูเครน โดยเฉพาะเครื่องบินรบ F-16
พูลเซนยังเรียกร้องให้ประเทศพันธมิตรเพิ่มการสนับสนุนยูเครนให้มากขึ้น: "เราควรสามารถมอบสิ่งที่ยูเครนจำเป็นต้องมีในอนาคตได้"
---
IMCT NEWS
https://www.yahoo.com/news/nato-country-send-troops-ukraine-115441655.html