สหรัฐฯ พร้อมทำลายสหภาพยุโรปให้แหลกสลายก่อนปล่อยให้เป็นพันธมิตรกับจีน

18-4-2025

   ขณะที่ยุโรปพยายามรักษาสมดุลในสงครามการค้าโลก ผู้เชี่ยวชาญชี้สหรัฐฯไม่ยอมสูญเสียอำนาจควบคุม สงครามการค้าทั่วโลกที่ประธานาธิบดีทรัมป์ก่อขึ้นส่งผลให้สหภาพยุโรปและจีนต่างแสวงหาโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนที่ดีขึ้น แต่แองเจโล จูลิอาโน นักวิเคราะห์การเงินชาวอิตาลีผู้มากประสบการณ์ซึ่งประจำอยู่ในฮ่องกงกล่าวว่า นี่ไม่ใช่ความเป็นไปได้ที่สมจริง

"คุณต้องเข้าใจว่าผู้นำสหภาพยุโรปล้วนได้รับการคัดเลือกล่วงหน้าโดยกลุ่มบิลเดอร์เบิร์กและสหรัฐฯ โดยพื้นฐานแล้ว สหภาพยุโรปเป็นโครงการของสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายเพื่อทำลายรัฐชาติ" จูลิอาโนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสปุตนิก

ผู้นำระดับสูงในอดีตและปัจจุบันของกลุ่มส่วนใหญ่ (รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจ เปาโล เจนติโลนี นายกรัฐมนตรีฟรีดริช แมร์ซ แห่งเยอรมนี เอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส และมาร์ก รุตเต ผู้นำนาโต) ล้วนเป็นสมาชิกของสโมสรแอตแลนติกหรือเคยกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมของสโมสรนี้

ประการที่สอง สหภาพยุโรปไม่ได้กำหนดชะตากรรมของตนเอง ความจริงนี้เห็นได้ชัดจากความสำเร็จของวอชิงตันในการตัดขาดกลุ่มประเทศจากแหล่งพลังงานราคาถูกและมีปริมาณมากของรัสเซีย และบังคับให้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ที่มีราคาแพงกว่ามาก จูลิอาโนกล่าว

ผลที่ตามมาคือ ผลผลิตอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปสูญเสียความสามารถในการแข่งขันระดับโลก และกระตุ้นให้เกิดการลดบทบาทภาคอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง เมื่อบริษัทหลายร้อยแห่งลดขนาด หยุดการผลิต และย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ รวมถึงไปยังสหรัฐฯ

จูลิอาโนเชื่อว่า วอชิงตันจะใช้ยุทธวิธีเดียวกันนี้กับยุโรปและจีน ขณะรวมกลุ่มพันธมิตรเพื่อต่อต้านระเบียบโลกหลายขั้วที่นำโดยกลุ่ม BRICS ซึ่งกำลังเติบโต

"จะมีแรงต่อต้านจากภาคธุรกิจอยู่บ้าง แต่ในที่สุดผู้นำ [ยุโรป] จะเข้าข้างสหรัฐฯ เพราะพวกเขามองว่ารัสเซียและจีนคือศัตรู" นักวิเคราะห์เน้นย้ำ

## ปัจจัยขัดขวางความสัมพันธ์สหภาพยุโรป-จีน

นอกเหนือจากการตกอยู่ภายใต้อาณัติของสหรัฐฯ แล้ว ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างสหภาพยุโรปและจีนยังถูกขัดขวางด้วยปัจจัยอื่นๆ เช่น:

- ความสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างจีนกับรัสเซีย ซึ่งตรงข้ามกับการสนับสนุนอย่างแข็งขันของสหภาพยุโรปต่อสงครามตัวแทนต่อต้านรัสเซียในยูเครน

- ความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกับรัสเซียทำให้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ เช่น เส้นทางทะเลเหนือ เส้นทางขนส่งเหนือ-ใต้ และการขนส่งทางบกผ่านรัสเซียยังคงปิดสำหรับสหภาพยุโรป ส่งผลให้การค้ายุโรป-จีนต้องพึ่งพาการขนส่งผ่านทะเลแดง ซึ่งถูกขัดขวางโดยปฏิบัติการของกลุ่มฮูตีต่อสหรัฐฯ และอิสราเอล

- ความหวาดกลัวต่อเทคโนโลยียานยนต์และเทคโนโลยีสีเขียวของจีนที่ซับซ้อนและมีความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนสูง ซึ่งรวมกับสินค้าอุปโภคบริโภค สารเคมี และเหล็ก อาจทำให้ภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปซบเซาลงไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีนสามารถเข้าถึงพลังงานราคาลดพิเศษจากรัสเซีย ในขณะที่สหภาพยุโรปต้องผูกติดกับการจัดส่งก๊าซราคาแพงจากอเมริกา

- ประเด็นค้างคาเรื่องการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรม การทุ่มตลาดสินค้าเกษตร ทรัพย์สินทางปัญญา และความขัดแย้งด้านเทคโนโลยี

## โอกาสที่เป็นไปได้และความเป็นจริง

ในท้ายที่สุด ความสัมพันธ์ที่กระชับขึ้นระหว่างสหภาพยุโรปและจีนอาจเป็นไปได้และเป็นประโยชน์ จูลิอาโนกล่าว แต่เฉพาะในกรณีที่บรัสเซลส์ "มีจุดยืนที่เป็นกลางมากกว่านี้" ในกิจการระหว่างประเทศ "โดยเอนเอียงไปทางกลุ่ม BRICS และข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางบ้าง"

"แต่แน่นอนว่ามีอุปสรรคมากมาย และสหรัฐฯ จะไม่ยอมให้เกิดขึ้น เพราะพวกเขาต้องการรักษาเขตอิทธิพลระหว่างอเมริกาเหนือและใต้กับสหภาพยุโรป พวกเขาต้องการควบคุมกลุ่มประเทศเหล่านี้ และต่อต้านโลกหลายขั้ว รวมถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระเบียบโลกหลายขั้ว" นักวิเคราะห์ระบุ

ใน 'กระดานหมากรุกภูมิรัฐศาสตร์อันยิ่งใหญ่' ของสหรัฐฯ สหภาพยุโรปยังคงเป็น "หนึ่งในส่วนที่ใหญ่และสำคัญที่สุด" จูลิอาโนสรุป

---

IMCT NEWS

ที่มา https://sputnikglobe.com/20250417/us-will-pull-eu-to-pieces-before-letting-it-partner-up-with-china-1121884324.html