ทองคำ'ยังครองความสำคัญในอุตสาหกรรมเทคฯ AI

ทองคำ'ยังครองความสำคัญในอุตสาหกรรมเทคฯ AI แม้ราคาทองแม้ราคาทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์
22-5-2025
Money Metals รายงานว่า สภาทองคำโลกรายงานว่าความต้องการทองคำในภาคอุตสาหกรรมยังคงทรงตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ ท่ามกลางความท้าทายจากภาษีศุลกากรและราคาทองคำที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีปริมาณการใช้ทองคำในภาคอุตสาหกรรมรวม 80.5 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
ขณะที่หลายคนเชื่อตามคำกล่าวของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ว่าทองคำเป็น "โลหะที่ไร้ประโยชน์" แต่ข้อมูลจากสภาทองคำโลกกลับแสดงให้เห็นว่าทองคำไม่เพียงมีค่าในฐานะสื่อกลางทางการเงิน แต่ยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเทคโนโลยีชั้นสูง
ที่น่าสนใจคือ แม้ราคาทองคำจะพุ่งสูงและเผชิญความไม่แน่นอนจากภาษีศุลกากร แต่การใช้ทองคำในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กลับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เป็น 67 ตันในไตรมาสแรก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งผลักดันความต้องการชิปหน่วยความจำและเซมิคอนดักเตอร์
ทองคำเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการที่ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ เป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดออกซิเดชันหรือการกัดกร่อนเมื่อเวลาผ่านไป และมีความอ่อนตัวสูงจึงสามารถขึ้นรูปเป็นลวดและแผ่นโลหะที่บางมากได้อย่างง่ายดาย
การขยายตัวของหน่วยความจำเซิร์ฟเวอร์สำหรับปัญญาประดิษฐ์ทั้งในจีนและสหรัฐอเมริกา เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความต้องการทองคำในไตรมาสแรก และตามรายงานของสภาทองคำโลก แนวโน้มนี้คาดว่าจะดำเนินต่อไปในไตรมาสที่สอง โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่
นอกจากนี้ ความต้องการทองคำในการผลิตไดโอดเปล่งแสง (LED) ยังเติบโตเล็กน้อยในไตรมาสแรก ขับเคลื่อนบางส่วนโดยผู้ผลิตแผงและอุปกรณ์สำหรับผู้บริโภคที่กักตุนสินค้าเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนจากภาษีศุลกากร ขณะที่ความต้องการทองคำในการผลิตเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น ไบโอเซ็นเซอร์ ระบบอัตโนมัติขั้นสูง และแอปพลิเคชันข้อมูลขนาดใหญ่ ยังคงแข็งแกร่งในช่วงเวลาเดียวกัน
ด้านภาคส่วนแผงวงจรพิมพ์ (PCB) มีการเติบโตในไตรมาสแรก แม้จะเป็นช่วงนอกฤดูกาลก็ตาม โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อเร่งด่วนของผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคและความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ ส่วนภาคส่วนไร้สายมีการลดลงเล็กน้อยในไตรมาสแรก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทาน
อย่างไรก็ตาม สภาทองคำโลกคาดว่าการนำ WiFi-7 มาใช้จะช่วยสนับสนุนความต้องการไร้สายในไตรมาสต่อไป เนื่องจากการเปลี่ยนจาก WiFi-6 ต้องใช้เครื่องขยายสัญญาณต่อหน่วยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การเติบโตของโครงสร้างพื้นฐานไร้สาย รวมถึงดาวเทียมวงโคจรต่ำของโลก (LEO) คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากร และอาจช่วยสนับสนุนความต้องการในภาคส่วนนี้ได้
แม้จะมีสัญญาณบวกหลายประการ แต่มีรายงานว่าผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มในระยะสั้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรและความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ในส่วนอื่นๆ ทองคำที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมและงานตกแต่ง โดยเฉพาะสินค้าชุบทองและเครื่องประดับ รวมถึงด้ายทองที่ใช้ในเสื้อผ้าอินเดียแบบดั้งเดิม ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในไตรมาสแรก ขณะที่การใช้ทองคำในทันตกรรมยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณลดลงร้อยละ 6 เหลือ 2 ตัน
ภาพรวมสำหรับปี 2567 แสดงให้เห็นว่าความต้องการทองคำในอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเติบโตในภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ โดยอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีใช้ทองคำไปทั้งสิ้น 326 ตันในปีที่แล้ว และมีการใช้งานในไตรมาสที่สี่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2564
นอกจากการใช้ในอุตสาหกรรม ทองคำยังมีความสำคัญในด้านการแพทย์ ด้วยความเสถียรตามธรรมชาติและคุณสมบัติทางแสงที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทองคำเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ในการทดสอบวินิจฉัยโรค โดยสภาทองคำโลกระบุว่าทองคำเป็น "หัวใจสำคัญของชุดทดสอบวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็ว (RDTs) หลายร้อยล้านชุดที่ใช้ทั่วโลกทุกปี" และอนุภาคนาโนของทองคำยังถูกนำไปใช้ในการตรวจหาโรคต่างๆ เช่น มาเลเรีย HIV และตับอักเสบ
ผู้เชี่ยวชาญในวงการสรุปว่า ทองคำเป็นหนึ่งในโลหะที่มีประโยชน์มากที่สุดในโลก และด้วยคุณสมบัติพิเศษหลายประการประกอบกับความหายาก ทำให้ทองคำยังคงเป็นโลหะที่มีมูลค่าสูงและได้รับความต้องการอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท นอกเหนือจากการใช้ในเครื่องประดับซึ่งคิดเป็นร้อยละ 44 ของความต้องการทองคำทั้งหมดทั่วโลก
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.moneymetals.com/news/2025/05/18/industrial-demand-for-gold-steady-in-q1-004051