ทรัมป์เดินหน้าสร้าง 'Golden Dome’  ระบบป้องกันขีปนาวุธและติดตั้งอาวุธในอวกาศครั้งแรกของสหรัฐฯ งบ $1.75 แสนล้าน เสร็จใน 3 ปี

22-5-2025

      Al Jazeera  รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และนายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหม ได้เปิดเผยแผนชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับโครงการระบบป้องกันขีปนาวุธ "โกลเด้นโดม" (Golden Dome) ซึ่งรวมถึงการติดตั้งอาวุธในอวกาศเป็นครั้งแรก

     เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวจากทำเนียบขาวว่า เขาได้ "เลือกรูปแบบสถาปัตยกรรมอย่างเป็นทางการแล้ว" สำหรับระบบที่ออกแบบมาเพื่อยับยั้ง "ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ขีปนาวุธพิสัยไกล และขีปนาวุธร่อนสมรรถนะสูง"

"ผมได้ให้คำมั่นกับประชาชนชาวอเมริกันว่าจะสร้างโล่ป้องกันขีปนาวุธที่ล้ำสมัยเพื่อปกป้องประเทศของเราจากภัยคุกคามการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากต่างประเทศ" ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในห้องโอวัลออฟฟิศ

    ระบบโกลเด้นโดมจะประกอบด้วย "เซ็นเซอร์และตัวสกัดกั้นที่ติดตั้งในอวกาศ" ทรัมป์กล่าวเสริมว่า "เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ โกลเด้นโดมจะสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธได้แม้จะยิงมาจากอีกซีกโลกหนึ่งหรือแม้แต่จากอวกาศก็ตาม เราจะมีระบบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา"

    การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถึงสี่เดือนหลังจากที่ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเริ่มต้นการพัฒนาโครงการ พลเอกไมเคิล กูเอตเลน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการอวกาศของกองกำลังอวกาศ หน่วยงานหนึ่งในกองทัพสหรัฐฯ ได้รับมอบหมายให้บริหารโครงการนี้

    ในระหว่างงานแถลงข่าว เฮกเซธได้ยกย่องแผนดังกล่าวว่าเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" และเป็น "การลงทุนด้านความมั่นคงสำหรับอเมริกาและชาวอเมริกันรุ่นต่อรุ่น"

   ทำเนียบขาวได้จัดแสดงโปสเตอร์โครงการโล่ป้องกันขีปนาวุธโกลเด้นโดมในงานแถลงข่าว [Mark Schiefelbein/The Associated Press] ทั้งนี้ ทำเนียบขาวยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบป้องกันขีปนาวุธดังกล่าวในทันที และมีรายงานว่ากระทรวงกลาโหมยังคงพัฒนาขีดความสามารถและข้อกำหนดของระบบอยู่

   สำนักงานงบประมาณรัฐสภาประเมินเมื่อต้นเดือนนี้ว่าเฉพาะส่วนประกอบที่ติดตั้งในอวกาศของโกลเด้นโดมอาจมีมูลค่าสูงถึง 542,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยระบุว่าจำเป็นต้องมีเซ็นเซอร์และตัวสกัดกั้นจำนวนมากเพื่อให้ระบบในอวกาศมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกองทัพต่างชาติ เช่น เกาหลีเหนือ มีความก้าวหน้าซับซ้อนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร ทรัมป์ได้ประมาณการงบประมาณและกรอบเวลาที่ต่ำกว่ามาก โดยระบุว่า "ระบบนี้ควรจะใช้งานได้เต็มรูปแบบก่อนสิ้นสุดวาระของผม ดังนั้น เราจะดำเนินการให้เสร็จภายในประมาณสามปี" และประเมินค่าใช้จ่ายรวมที่ราว 175,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมเสริมว่าเขาวางแผนจะใช้ขีดความสามารถด้านการป้องกันที่มีอยู่แล้วในการพัฒนาระบบนี้

   จนถึงขณะนี้ การจัดสรรงบประมาณสำหรับโครงการยังไม่ได้รับการอนุมัติ ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร ทรัมป์ยืนยันว่ากำลังขอเงิน 25,000 ล้านดอลลาร์สำหรับระบบนี้ในร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีที่กำลังพิจารณาในรัฐสภา แม้ว่าจำนวนเงินดังกล่าวอาจถูกปรับลดลงระหว่างการเจรจาที่ยังดำเนินอยู่

    มีแนวโน้มว่าต้นทุนทั้งหมดของโครงการจะมีความแตกต่างกัน สำนักข่าว Associated Press อ้างอิงเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า ทรัมป์ได้รับการนำเสนอแผนสามเวอร์ชัน ได้แก่ "ระดับกลาง" "ระดับสูง" และ "ระดับสูงพิเศษ" ซึ่งแต่ละระดับกำหนดจำนวนดาวเทียม เซ็นเซอร์ และตัวสกัดกั้นที่จะติดตั้งในอวกาศ สำนักข่าวรายงานว่าทรัมป์เลือกเวอร์ชัน "ระดับสูง" ซึ่งมีต้นทุนเริ่มต้นระหว่าง 30,000 ล้านถึง 100,000 ล้านดอลลาร์

   ขณะอธิบายแผนโกลเด้นโดมในวันอังคาร ทรัมป์ได้อ้างถึงแรงบันดาลใจหลายแหล่ง รวมถึงระบบป้องกันขีปนาวุธ "ไอรอนโดม" (Iron Dome) ของอิสราเอล ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนบางส่วนจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงผลงานของเพื่อนร่วมพรรครีพับลิกัน อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ผู้ดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวระหว่างสงครามเย็นในทศวรรษ 1980

   เรแกนเคยเสนอแผนป้องกันอาวุธนิวเคลียร์ที่รวมถึงเทคโนโลยีอวกาศ ภายใต้แผนริเริ่มการป้องกันเชิงยุทธศาสตร์ในปี 1983 ทรัมป์กล่าวว่า "เราจะทำให้ภารกิจที่ประธานาธิบดีเรแกนเริ่มไว้เมื่อ 40 ปีก่อนสำเร็จลุล่วงอย่างแท้จริง โดยจะยุติภัยคุกคามจากขีปนาวุธต่อแผ่นดินอเมริกาอย่างถาวร" อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของระบบป้องกันในอวกาศ งบประมาณที่แท้จริง และความกังวลว่าโครงการนี้อาจจุดชนวนการแข่งขันด้านอาวุธครั้งใหม่

   พรรคเดโมแครตยังตั้งคำถามถึงการมีส่วนร่วมที่อาจเกิดขึ้นของบริษัท SpaceX ของอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นผู้นำในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่แสวงหาโอกาสในการสร้างส่วนประกอบสำคัญของระบบ สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครต 42 คนได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนบทบาทของมัสก์ในกระบวนการประมูล โดยชี้ให้เห็นถึงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของทรัมป์และเงินบริจาคจำนวนมากที่มัสก์มอบให้กับการรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดี

"หากมัสก์ใช้อิทธิพลที่ไม่เหมาะสมต่อสัญญาโกลเด้นโดม นี่จะเป็นอีกตัวอย่างของรูปแบบที่น่าวิตกกังวลที่มัสก์ละเมิดกฎการขัดกันแห่งผลประโยชน์" สมาชิกพรรคเดโมแครตเขียนในจดหมายเรียกร้องให้มีการสอบสวน

   เมื่อวันอังคาร ทรัมป์ไม่ได้ตอบคำถามโดยตรงเกี่ยวกับบริษัทที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการโกลเด้นโดม แต่เน้นย้ำว่าระบบดังกล่าวจะส่งเสริมอุตสาหกรรมในหลายรัฐ ได้แก่ อลาสก้า อินเดียนา ฟลอริดา และจอร์เจีย พร้อมกล่าวเสริมว่า "แคนาดาได้ติดต่อเรา และพวกเขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ เราจะเจรจากับพวกเขาต่อไป"

---

IMCT NEWS

ที่มา https://aje.io/t45qpf

----------------------------
จีนเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกระบบป้องกันขีปนาวุธโกลเด้นโดม เพราะจะ "เปลี่ยนอวกาศให้กลายเป็นสนามรบ"

22-5-2025

   จีนตอบโต้อย่างรุนแรงต่อแผนการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธขนาดใหญ่ที่ล้ำสมัยที่สุดของโลกที่เพิ่งเปิดเผยเมื่อไม่นานนี้ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งจะใช้พื้นที่ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา โดยมีชื่อว่า "โดมทองคำ" แผนดังกล่าวคือการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธที่อาศัยในอวกาศเพื่อยิงขีปนาวุธที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก ทรัมป์กล่าวอย่างโอ้อวดว่าโครงการที่ทะเยอทะยานอย่างยิ่งใหญ่นี้จะมีค่าใช้จ่าย 175,000 ล้านดอลลาร์ และจะแล้วเสร็จภายในสามปี อย่างไรก็ตาม สำนักงานงบประมาณของรัฐสภาคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 500,000 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 20 ปี โดยงบประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์ที่จัดสรรไว้สำหรับปีหน้าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการก่อสร้าง

   โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน เหมา หนิง ตอบโต้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า จีน "กังวลอย่างยิ่ง" เนื่องจากโดมทองคำจะ "เพิ่มความเสี่ยงในการเปลี่ยนอวกาศให้กลายเป็นสนามรบ" และอาจทำให้เกิดการแข่งขันทางอาวุธ ซึ่งจะกำหนดระเบียบโลกและระบบความมั่นคงระหว่างประเทศใหม่

“สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับตัวเองเป็นอันดับแรกและหมกมุ่นอยู่กับการรักษาความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งถือเป็นการละเมิดหลักการที่ทำลายความมั่นคงของทุกฝ่าย ส่งผลให้สมดุลและเสถียรภาพทางยุทธศาสตร์ระดับโลกถูกทำลาย” เหมากล่าว

“จีนกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้” เขากล่าวต่อ “เราเรียกร้องให้สหรัฐฯ เลิกพัฒนาและติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธทั่วโลกตั้งแต่เนิ่นๆ และดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเพื่อเพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกันทางยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศต่างๆ และปกป้องเสถียรภาพทางยุทธศาสตร์ระดับโลก”

   เรื่องนี้มีความสำคัญ เนื่องจากปักกิ่งมักเรียกร้องให้วอชิงตันละทิ้งระบบป้องกันที่เสนอทั้งหมด แต่คำพูดของทรัมป์จากทำเนียบขาวเมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่จีน (และรัสเซียด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย) เป็นกังวล:

“เมื่อสร้างเสร็จแล้ว Golden Dome จะสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธได้ แม้ว่าจะยิงมาจากอีกฟากของโลกหรือจากอวกาศก็ตาม” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

   ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่านั่นเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีเรแกนต้องการมา "หลายปีก่อน" โดยอ้างอิงถึงโครงการ "สตาร์ วอร์ส" ที่ล้มเหลว ซึ่งเป็นหัวข้อข่าวพาดหัวมานาน และกลายเป็นโครงการป้องกันขีปนาวุธที่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งโด่งดัง บางคนวิพากษ์วิจารณ์แผนของทรัมป์ว่าเป็นการซ้ำเติม "ความผิดพลาดที่ล้มเหลว" ของ "สตาร์ วอร์ส" ในยุค 80 และอีกครั้ง นั่นหมายถึงการแข่งขันระหว่างจีนและรัสเซียในการนำระบบและระบบสกัดกั้นขีปนาวุธของตนเอง ซึ่งอาจรวมถึงเลเซอร์อันทรงพลัง ขึ้นสู่วงโคจรนั้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    เครมลินยังได้แสดงความเห็นในวันพุธนี้เช่นกัน เนื่องจากมีรายงานว่าเครมลินได้พัฒนาศักยภาพทางทหารในอวกาศด้วยเช่นกัน

    กระทรวงต่างประเทศของจีนยังได้เสริมความเห็นใหม่ด้วยว่า "ระบบที่รุกล้ำอย่างรุนแรงนี้ละเมิดหลักการการใช้พื้นที่นอกโลกอย่างสันติ" แต่เห็นได้ชัดว่าด้วยกองกำลังใหม่ทั้งหมดของกองทัพสหรัฐ เช่น กองกำลังอวกาศ สหรัฐ (และประเทศอื่นๆ) มองว่าอวกาศคือจุดแข็งเชิงกลยุทธ์ในอนาคต ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคู่แข่งต่างก็กังวลเกี่ยวกับ 'ความได้เปรียบ' ที่ SpaceX ของอีลอน มัสก์มอบให้กับสหรัฐ ท่ามกลางความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

ที่มา Zerohedge