.

ระเบียงขนส่งเหนือ-ใต้ (INSTC) เส้นทางการค้าใหม่กำลังปฏิวัติเส้นทางการค้าโลก ลดความเสี่ยงจากการคว่ำบาตร
22-5-2025
นักวิเคราะห์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ เปเป้ เอสโกบาร์ เปิดเผยว่า โครงการระเบียงขนส่งเหนือ-ใต้ระหว่างประเทศ (International North-South Transport Corridor: INSTC) กำลังกลายเป็นพัฒนาการสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมเส้นทางการค้าโลกในศตวรรษที่ 21 โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่าโครงการนี้ไม่เพียงสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังมีนัยสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจลดทอนอิทธิพลของชาติตะวันตกในการควบคุมเส้นทางการค้าระหว่างประเทศ
INSTC เป็นโครงข่ายเส้นทางการขนส่งระบบผสมผสานทั้งทางรถไฟ ถนน และทางทะเล ที่เชื่อมระหว่างรัสเซีย อิหร่าน และอินเดีย ซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของกลุ่ม BRICS และยังขยายเส้นทางไปสู่ภูมิภาคคอเคซัสและเอเชียกลาง โดยมีจุดเด่นสำคัญคือประหยัดต้นทุนกว่าเส้นทางผ่านคลองสุเอซถึง 40% และใช้เวลาขนส่งน้อยกว่า 30% ข้อได้เปรียบนี้ทำให้ INSTC กลายเป็นเส้นทางทางเลือกที่น่าดึงดูดสำหรับการค้าในภูมิภาคยูเรเซีย
นอกจากนี้ ความสำคัญอีกประการหนึ่งของ INSTC คือการเป็นเส้นทางที่ปลอดจากการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับประเทศที่ถูกคว่ำบาตรอย่างรัสเซียและอิหร่าน เอสโกบาร์ระบุว่า นี่คือชัยชนะเชิงยุทธศาสตร์สำหรับทั้งสองประเทศ ที่สามารถสร้างเครือข่ายการค้าและขนส่งที่หลีกเลี่ยงการควบคุมจากสหรัฐฯ และพันธมิตร
อิหร่านเป็นประเทศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโครงการนี้ เนื่องจากเป็นสะพานเชื่อมระหว่างทะเลแคสเปียนและอ่าวเปอร์เซีย โดยมีท่าเรือสำคัญ 3 แห่ง ได้แก่ บันดาร์อันซาลี ท่าเรือทางตอนเหนือริมทะเลแคสเปียนซึ่งเป็นจุดรับสินค้าจากรัสเซีย เช่น ปิโตรเคมีและแร่ธาตุ, บันดาร์อับบาส ท่าเรือหลักทางใต้ริมอ่าวเปอร์เซียที่เชื่อมโยงกับมุมไบของอินเดียและจีน และชาบาฮาร์ ท่าเรือริมอ่าวโอมานซึ่งเป็นประตูสู่อัฟกานิสถานและเอเชียกลางของอินเดีย
ท่าเรือชาบาฮาร์ได้รับการจับตามองว่าเป็น "ดาวรุ่ง" ในโครงการนี้ โดยอินเดียได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เครนและอุปกรณ์ท่าเรือต่างๆ ขณะที่จีนก็แสดงความสนใจในท่าเรือแห่งนี้เพื่อการบูรณาการยุทธศาสตร์ในยูเรเซียตอนใต้ ความได้เปรียบของชาบาฮาร์เมื่อเทียบกับท่าเรือกวาดาร์ของปากีสถาน คือการตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถให้บริการประชากรกว่า 20 ล้านคนในพื้นที่ห่างไกลของอิหร่าน ในขณะที่กวาดาร์ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ผู้ได้รับประโยชน์หลักจากโครงการ INSTC ได้แก่ รัสเซีย ที่ได้เส้นทางการค้าทางเลือกที่ปลอดภัยจากการคว่ำบาตร, อิหร่าน ที่มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างภูมิภาค, อินเดียและจีน ที่สามารถเข้าถึงตลาดในเอเชียกลางและยุโรปได้สะดวกและประหยัดต้นทุนมากขึ้น
ในทางตรงกันข้าม ผู้เสียประโยชน์คือกลุ่มประเทศตะวันตก ที่จะสูญเสียอำนาจควบคุมเส้นทางการค้าสำคัญที่เคยมีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเส้นทางผ่านคลองสุเอซที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯ และพันธมิตร
นักวิเคราะห์ด้านการค้าระหว่างประเทศมองว่า การพัฒนาของ INSTC สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจในระบบการค้าโลก ที่กำลังเคลื่อนจากตะวันตกมาสู่ตะวันออกมากขึ้น และอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่เร่งให้เกิดการปรับโครงสร้างระเบียบเศรษฐกิจโลกในทศวรรษหน้า
---
IMCT NEWS
ที่มา https://x.com/SputnikInt/status/1925216094500827460