จีน'ประณามไบเดน 'คนโกหก' หลังคุมเข้มชิป AI ขณะสี จิ้นผิง-ทรัมป์ส่งสัญญาณบวก

20-1-2025

จีนเดือดแรงวาระสุดท้ายไบเดน ร่วมมือเนเธอร์แลนด์คุมเข้มชิป AI - สี จิ้นผิงเปิดทางคุยทรัมป์

     Asia Time รายงานว่า ปักกิ่งยื่นประท้วงอย่างรุนแรงต่อสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศมาตรการควบคุมการส่งออกชิปและเทคโนโลยี AI ขั้นสูงในสัปดาห์สุดท้ายก่อนส่งมอบอำนาจให้โดนัลด์ ทรัมป์ วันที่ 20 มกราคม โดยดำเนินการสำคัญ 3 ประการ คือ ประกาศกรอบควบคุมการส่งออกชิปและโมเดล AI ใหม่ กดดันเนเธอร์แลนด์ให้เข้มงวดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิป และคว่ำบาตรบริษัทเทคโนโลยีจีน 25 แห่ง รวมถึงบริษัทในสิงคโปร์อีก 2 แห่ง

     กรอบการควบคุมใหม่ที่จะมีผลวันที่ 31 มกราคม กำหนดให้บริษัทสหรัฐฯ ต้องขออนุญาตส่งออกชิป AI ระดับสูงไปยังประเทศที่ไม่ใช่พันธมิตร 18 ประเทศ บังคับให้บริษัทนอกสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรต้องขอสถานะผู้ใช้ปลายทางพิเศษ และควบคุมการส่งออกโมเดล AI แบบซอร์สปิดที่ใช้พลังการประมวลผลสูง โดยห้ามจีน รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้โดยสิ้นเชิง

     ด้านรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศปรับปรุงมาตรการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงมีผลวันที่ 1 เมษายน ส่งผลกระทบต่อ ASML บริษัทผลิตอุปกรณ์ชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยอ้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

     สื่อและนักวิจารณ์จีนโจมตีไบเดนอย่างรุนแรง เรียกว่าเป็น "คนโกหก" และ "คนชั่วร้าย" ที่ "ถอดหน้ากากแห่งความเสแสร้งออกหมด" หลังจากอ้างว่าจะจัดการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อย่าง "รับผิดชอบ" แต่กลับเพิ่มการกดดันในช่วงท้ายรัฐบาล China Daily วิจารณ์ว่าสะท้อนถึงการขาดกลไกแก้ไขตนเองในการกำหนดนโยบายของสหรัฐฯ ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนประณามว่าเป็นการใช้ความมั่นคงเป็นข้ออ้างในการแทรกแซงทางการค้าและแปลงเทคโนโลยีให้เป็นอาวุธ

     ท่ามกลางความตึงเครียง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 17 มกราคม โดยสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่าแม้จีนและสหรัฐฯ จะมีความแตกต่าง แต่สิ่งสำคัญคือการเคารพผลประโยชน์และข้อกังวลของกันและกัน ขณะที่ทรัมป์กล่าวผ่าน Truth Social ว่าเป็นการสนทนาที่ดีมากสำหรับทั้งสองประเทศ หลังหารือประเด็นการค้า เฟนทานิล TikTok และประเด็นอื่นๆ พร้อมแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาร่วมกันได้ทันที

     สำนักกฎหมาย Sidley Austin LLP วิเคราะห์ว่าการควบคุมการส่งออกครั้งนี้มีความแตกต่างจากครั้งก่อน โดยเฉพาะผลกระทบต่อประเทศ "ตรงกลาง" ที่ไม่ใช่ทั้งพันธมิตรและศัตรูชัดเจนของสหรัฐฯ และการใช้แนวทาง "กำกับดูแลก่อน รับฟังความเห็นทีหลัง" รวมถึงการควบคุมอินพุตตัวเลขสำหรับโมเดล AI โดยตรง บริษัทจีนที่ถูกคว่ำบาตรรวมถึง Sophgo ที่ถูกกล่าวหาว่าสั่งชิป AI จาก TSMC ของไต้หวันให้กับ Huawei

---

IMCT NEWS

ที่มา https://asiatimes.com/2025/01/beijing-calls-biden-a-liar-and-says-hello-to-trump/