สหรัฐฯ เรียกร้องปูตินยอมรับสิทธิยูเครนมีกองทัพของตนเอง -คืนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพ

25-4-2025

   สหรัฐอเมริกาเตรียมเรียกร้องให้รัสเซียยอมรับสิทธิของยูเครนในการมีกองทัพและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตนเอง เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพระหว่างมอสโควและเคียฟ ตามรายงานจากแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้

  สตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ มีกำหนดจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียในการประชุมครั้งต่อไป ตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวที่ขอไม่เปิดเผยตัวตนเนื่องจากเป็นการเจรจาที่เป็นความลับ

การยอมให้เคียฟมีกองทัพที่มีอุปกรณ์และกำลังพลเพียงพอตามที่ยูเครนและพันธมิตรยุโรปเรียกร้อง จะหมายความว่าปูตินต้องละทิ้งเป้าหมายการปลดอาวุธยูเครน ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์หลักที่เขาประกาศไว้ในการทำสงคราม

   นี่เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพยายามเรียกร้องการประนีประนอมบางอย่างจากทั้งเครมลินและยูเครน ในความพยายามยุติสงครามที่ยืดเยื้อมาจนถึงปีที่สี่แล้ว นักวิจารณ์มองว่าข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ผ่านมาเอนเอียงไปทางรัสเซีย โดยเฉพาะการที่รัฐบาลทรัมป์ยืนกรานให้ยูเครนสละความทะเยอทะยานที่จะเข้าร่วมพันธมิตรทางทหารนาโต

   นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังต้องการให้มอสโกคืนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซียของยูเครน ซึ่งรัสเซียยึดครองไว้ตั้งแต่ช่วงต้นของการรุกรานขนาดใหญ่เข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านในปี 2022 แหล่งข่าวระบุว่าหลังจากการส่งมอบคืน โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสหรัฐฯ เพื่อจ่ายพลังงานให้ทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ แหล่งข่าวเสริมว่ารายละเอียดของแผนยังไม่เสร็จสมบูรณ์และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

   โฆษกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กระทรวงการต่างประเทศ และวิทคอฟฟ์ไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความเห็นในทันที

   สหรัฐฯ ยังต้องการให้มั่นใจว่ายูเครนมีเส้นทางข้ามแม่น้ำดนีเปอร์ และดินแดนที่รัสเซียยึดครองในภูมิภาคคาร์คิฟจะต้องถูกส่งคืน ในขณะที่ปูตินเรียกร้องให้มีการรับรองดินแดนทั้งหมดของภูมิภาคลูฮันสค์ ซาโปริซเซีย โดเนตสค์ และเคอร์ซอน แม้ว่าจะไม่สามารถยึดครองพื้นที่เหล่านั้นได้ทั้งหมดก็ตาม

รัสเซียยังคงโจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปและรัสเซียยืนยันว่าพร้อมสำหรับสันติภาพ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียได้เปิดฉากการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดของปีต่อยูเครน โดยมุ่งเป้าไปที่กรุงเคียฟและทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน

     เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนต้องยุติการเยือนแอฟริกาใต้เมื่อวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตาม ก่อนออกเดินทาง เซเลนสกีได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "เราไม่สามารถพูดถึงเส้นแดงใดๆ ได้โดยปราศจากการหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข"

    ในการประชุมที่กรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้นำเสนอข้อเสนอต่อยุโรปและยูเครนเพื่อยุติสงคราม ซึ่งรวมถึงการที่สหรัฐฯ จะรับรองว่าคาบสมุทรไครเมียของยูเครนเป็นของรัสเซีย พร้อมกับการตรึงดินแดนที่ถูกยึดครองส่วนใหญ่ตามแนวรบปัจจุบัน ซึ่งเท่ากับปล่อยให้พื้นที่เหล่านั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของมอสโก ตามที่บลูมเบิร์ก นิวส์รายงานไว้ก่อนหน้านี้

   ไครเมียถูกยึดครองโดยเครมลินในปี 2014 หลังจากการรุกรานและการลงประชามติที่จัดขึ้นภายใต้การยึดครอง ประชาคมระหว่างประเทศได้คัดค้านการรับรองคาบสมุทรนี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้การผนวกดินแดนโดยผิดกฎหมายมีความชอบธรรม เซเลนสกีได้กล่าวซ้ำหลายครั้งว่าเขาจะไม่ยอมยกดินแดนให้กับมอสโก

    ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม Truth Social เมื่อสัปดาห์นี้ว่าไม่มีใครขอให้เซเลนสกียอมรับไครเมีย พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดียูเครนและกล่าวหาว่าเขาบั่นทอนการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย เมื่อวันพฤหัสบดี ทรัมป์ได้วิจารณ์ปูตินสำหรับการโจมตีรอบล่าสุดต่อ ยูเครน

"ผมไม่พอใจกับการโจมตีกรุงเคียฟของรัสเซีย ไม่จำเป็นและเลือกจังหวะเวลาแย่มาก" ทรัมป์กล่าวในโพสต์บน Truth Social เมื่อวันพฤหัสบดี "วลาดิมีร์ หยุดเถอะ! ทหาร 5,000 นายเสียชีวิตทุกสัปดาห์ มาทำข้อตกลงสันติภาพให้เสร็จกันเถอะ!"

"ผมคิดว่าเรามีข้อตกลงกับรัสเซียแล้ว เราต้องได้ข้อตกลงกับเซเลนสกี ผมหวังว่าเซเลนสกี ผมคิดว่าการเจรจากับเซเลนสกีอาจจะง่ายกว่า แต่จนถึงตอนนี้กลับยากกว่า" ทรัมป์กล่าวในภายหลังเมื่อวันพุธที่ห้องโอวัลออฟฟิศ

    สหรัฐฯ ได้ระบุว่าข้อตกลงสันติภาพใดๆ จะต้องมีการรับประกันความมั่นคงสำหรับยูเครนเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงจะคงอยู่ โดยไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าการรับประกันดังกล่าวจะมีรูปแบบใด สหรัฐฯ ยังเสนอให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโควหากมีการบรรลุข้อตกลง

    สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสกำลังเป็นผู้นำในความพยายามจัดตั้ง "กองกำลังสร้างความมั่นใจ" หลังสงครามในยูเครน แต่จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ยังไม่ได้เสนอที่จะมีส่วนร่วมหรือให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟในอนาคต ตามที่แหล่งข่าวบางรายกล่าว ทางเลือกเพิ่มเติมในการรับประกันข้อตกลงอาจรวมถึงกองกำลังรักษาสันติภาพที่ไม่ใช่ยุโรป แหล่งข่าวบางรายเพิ่มเติม รัสเซียได้กล่าวว่าจะไม่ยอมรับกองกำลังจากประเทศสมาชิกนาโตในยูเครน

   ทรัมป์และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนอื่นๆ ได้เตือนว่าพวกเขาจะถอนตัวจากการเจรจาหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆ นี้

"ตอนนี้ หากด้วยเหตุผลบางประการ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำให้เรื่องนี้ยากลำบาก เราก็จะพูดว่า 'พวกคุณโง่ พวกคุณเป็นคนโง่ พวกคุณเป็นคนเลวร้าย และเราจะถอนตัว'" ทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "แต่หวังว่าเราคงไม่ต้องทำเช่นนั้น"

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-04-24/us-to-demand-putin-accept-ukraine-s-right-to-military-force?srnd=homepage-asia