Bye Bye Dollar, Hello Gold? ดอลลาร์เสื่อมถอย ทองคำกลับมาผงาด: สัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่ระบบการเงินโลกหลายขั้วอำนาจ

12-4-2025

    ราคาทองคำพุ่งทะยานทำลายสถิติใหม่ และนี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ มาตรการคว่ำบาตร การขึ้นภาษีศุลกากร และความไร้เสถียรภาพในยุคทรัมป์กำลังบั่นทอนการครองอำนาจของเงินดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดคำถามว่าทองคำจะก้าวขึ้นมาเป็นสกุลเงินสำรองใหม่ของโลกหรือไม่?

   คลอดิโอ กราส ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจากสวิตเซอร์แลนด์อธิบายว่า ในช่วงทศวรรษ 1990 หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต โลกได้รวมตัวกันภายใต้ระเบียบโลกที่นำโดยสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เงินดอลลาร์ได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากการขยายตัวเข้าสู่ตลาดโลกใหม่ๆ แต่ปัจจุบันเรากำลังเห็นแนวโน้มที่ตรงกันข้าม

## การสิ้นสุดของยุคดอลลาร์?

มีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐและระบบการเงินที่สร้างขึ้นรอบสกุลเงินนี้กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย เมื่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ในโลกตะวันตกลดลง ผู้คนจำนวนมากจึงหันไปหาแหล่งเก็บรักษามูลค่าที่มีเสถียรภาพมากกว่า โดยทองคำกำลังเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

## ทำไมต้องเป็นทองคำ?

ก่อนที่จะมีการปฏิรูประบบการเงินใดๆ เรามีแนวโน้มที่จะต้องผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านที่ยากลำบาก ซึ่งประกอบด้วยภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น การสูญเสียมูลค่าเงินออม และความไม่มั่นคงที่เพิ่มขึ้น

กราสตั้งคำถามว่า คุณจะเลือกถือครองสกุลเงินที่กำลังเสื่อมถอยจากระบบที่กำลังล่มสลาย หรือเลือกทองคำกายภาพซึ่งเป็นสกุลเงินที่เก่าแก่และมีความแข็งแกร่งที่สุดมาเป็นเวลานับพันปี?

## การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ (Great Reset)

ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจาก "การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่" นี่เป็นเหตุผลที่กราสแนะนำว่าทุกคนควรเป็นธนาคารกลางของตัวเอง โดยกล่าวว่า "จงเป็นธนาคารกลางของคุณเอง: ถือครองทองคำและเงินกายภาพไว้นอกระบบ"

## เหตุใดทองคำจึงกลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง?

ทอม ลูออนโก นักวิเคราะห์การเงิน อธิบายว่าในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนสูง ผู้คนมักแสวงหาความมั่นคง ตลอดระยะเวลา 5,000 ปีที่ผ่านมา ทองคำได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นแหล่งเก็บรักษามูลค่าที่ยืนยงไม่เปลี่ยนแปลง

## ธนาคารกลางเร่งซื้อทองคำ

ไม่เพียงแต่นักลงทุนรายย่อยเท่านั้น แม้แต่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ก็กำลังเพิ่มการซื้อทองคำเช่นกัน จนกว่าพวกเขาจะพบวิธีป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่า ทองคำยังคงเป็นทรัพย์สินสำรองที่พึ่งพาได้ ปรากฏการณ์นี้เป็นสัญญาณสำคัญสำหรับผู้ที่ติดตามการเปลี่ยนแปลงในระบบการเงินโลก

## ระบบกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน

สงครามภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทำลายระเบียบทางการเงินแบบเดิมที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของการก่อหนี้ การจำนองซ้ำ และการหมุนเวียนสินทรัพย์ เราได้ก้าวเข้าสู่ "สถานะเปลี่ยนผ่าน" ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และราคาทองคำกำลังสะท้อนความไม่แน่นอนนี้

## ความโกลาหลก่อนการจัดระเบียบใหม่

เปรียบเสมือนปฏิกิริยาทางเคมี ที่มักจะมีช่วงของความไร้ระเบียบก่อนที่โครงสร้างใหม่จะก่อตัวขึ้น เรากำลังอยู่ในช่วงเวลานั้น—ไม่มั่นคง คาดเดาไม่ได้ และมีความผันผวนสูง นี่คือเหตุผลที่ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น ไม่ใช่เพียงเพราะการปฏิเสธดอลลาร์ แต่เป็นการป้องกันความเสี่ยงจากความโกลาหลของระบบโดยรวม

## สงครามการเงินกำลังเริ่มต้น

ความพยายามของทรัมป์ในการลดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวและฟื้นฟูอำนาจอธิปไตยทางการเงินผ่านอัตราดอกเบี้ย SOFR (Secured Overnight Financing Rate) กำลังสร้างแรงต้าน ชนชั้นนำของสหภาพยุโรปและกลุ่มโลกาภิวัตน์ต้องการรักษาระบบการเงินแบบเดิมเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงโจมตีพันธบัตรสหรัฐ สกุลเงินดอลลาร์ และเส้นอัตราผลตอบแทนระยะยาว

## สงครามสกุลเงิน

สิ่งที่เรากำลังเผชิญไม่ใช่เพียงสงครามการค้ากับจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นสงครามสกุลเงินกับยุโรปด้วย จีนติดอยู่ตรงกลางของความขัดแย้ง ตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีศุลกากร แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเส้นทางระยะยาว ในขณะเดียวกัน ทองคำกำลังกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งอย่างเงียบๆ

## บทสรุป

การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระบบการเงินโลก ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ทองคำกำลังยืนยันตำแหน่งของตนในฐานะทรัพย์สินที่ปลอดภัยและมีความคงทนต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าระบบการเงินโลกจะพัฒนาไปในทิศทางใด ทองคำมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นส่วนสำคัญของพอร์ตการลงทุนและทรัพย์สินสำรองระหว่างประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

---

IMCT NEWS

ที่มา https://sputnikglobe.com/20250411/us-china-trade-war-paralyzed-international-investment---unctad-chief-1121856206.html