ข้อตกลงหยุดยิงอิหร่านกับอิสราเอลอาจส่งอิทธิพลต่อข้อตกลงยูเครนกับรัสเซียในลักษณะเดียวกัน

27-6-2025

   ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลที่ประกาศในสัปดาห์นี้หลังความขัดแยบที่ปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งอิทธิพลต่อความขัดแย้งในยูเครน สตีฟ วิตคอฟ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง กล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าอาจเกิดความพยายามฟื้นฟูสันติภาพระหว่างเคียฟกับมอสโก

  เหตุสู้รบเริ่มต้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน เมื่ออิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน โดยอ้างว่าเตหะรานใกล้จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์สำเร็จ — ข้อกล่าวหาที่ถูกปฏิเสธโดยทั้งสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ

  สหรัฐฯ ได้เข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่าเป็นความพยายามเพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยการโจมตีได้มุ่งเป้าไปยังสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน ข้อตกลงหยุดยิงซึ่งสหรัฐฯ เป็นผู้เจรจา ได้มีผลบังคับใช้เมื่อวันอังคาร

  ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันพุธ วิตคอฟกล่าวว่า ข้อตกลงนี้อาจเป็น “แบบอย่าง” ในการแก้ไขความขัดแย้งอื่น ๆ “เราหวังว่าสิ่งนี้จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีมาก ๆ ในกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน”

   รัสเซียได้วิจารณ์ปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯ โดยระบุว่าเป็นการยกระดับความขัดแย้งอย่างอันตรายและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเตือนว่าการกระทำดังกล่าวอาจทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคไม่มั่นคงยิ่งขึ้น

   วิตคอฟมีบทบาทสำคัญในการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล หลังจากความขัดแย้งอันรุนแรงที่กินเวลาสั้น ๆ แต่มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนในอิหร่าน 25 รายในอิสราเอล และมีผู้บาดเจ็บนับพันทั้งสองฝ่าย ตามรายงานจากแหล่งข่าวทางการ

   เขายังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันกระบวนการสันติภาพยูเครน โดยรัสเซียและยูเครนกลับมาเจรจาโดยตรงอีกครั้งในตุรกีเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่ยูเครนระงับการเจรจาในปี 2022 เพื่อเน้นการสู้รบโดยได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก

  ในการพบกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงแลกเปลี่ยนเชลยศึก และนำเสนอร่างบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางของแต่ละฝ่ายต่อข้อตกลงสันติภาพ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองยังคงมองว่าเงื่อนไขของอีกฝ่าย “ไม่อาจยอมรับได้”

  รัสเซียย้ำว่าข้อตกลงสันติภาพถาวรจะต้องสะท้อน “ข้อเท็จจริงในสนามรบ” และการที่ยูเครนจะต้องมีสถานะเป็นกลาง

  โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยให้คำมั่นระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 ว่าจะยุติสงครามยูเครนภายใน 24 ชั่วโมง ได้กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า คำสัญญาดังกล่าวเป็น “การพูดประชด” เขาแสดงความไม่พอใจต่อทั้งสองฝ่าย และเตือนว่าสหรัฐฯ อาจคว่ำบาตรทั้งรัสเซียและยูเครนหากความขัดแย้งไม่ยุติในเร็ว ๆ นี้

ที่มา อาร์ที