.

จักรวรรดิอเมริกาจะถึงจุดจบหากทรัมป์ก่อสงครามกับอิหร่าน
21-6-2025
ขณะนี้โดนัลด์ ทรัมป์อยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะเปิดฉากทำสงครามหรือโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านหรือไม่ เขาขอเวลาตัดสินใจสองสัปดาห์ อย่างน้อยขอรอการเจรจาระหว่างรมว ต่างประเทศของอิหร่านกับรมว ต่างประเทศของอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอียูในวันนี้ (20 มิถุนายน)ที่เมืองเจนิวาว่าจะมีผลออกมาอย่างไรในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน อิหร่านจะยอมถอยหรือไม่ ในช่วง2-3วันที่ผ่านมา ท้ังโลกแทบที่จะไม่กระพริบตา จับจ้องรอดูการตัดสินใจของทรัมป์ด้วยใจระทึกว่าเขาจะกระโดดเข้าเวทีสงครามกับอิหร่านเพื่อช่วยอิสราเอลที่กำลังเพลี้ยงพล้ำให้กับอิหร่านอย่างหนักในการทำสงครามตอบโต้กันไปมาด้วยอาวุธลูกยาว
ความจริงโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นเรื่องไร้สาระ หรือเป็นเรื่องบังหน้า เพราะว่าเป้าหมายที่แท้จริงของอิสราเอลและสหรัฐคือการทำสงครามเพื่อโค่นอำนาจของผู้นำจิตวิญญาณอะยาตอเลาะห์ อาลี คาเมเนอี หรือล้มล้างระบอบการปกครองของอิหร่าน เหมือนกับที่ได้โค่นล้มระบอบการปกครองของอิรัก ลิเบีย ซีเรีย และหลายประเทศมาแล้วจนเป็นเหตุให้ประเทศเหล่านั้นกลายเป็นรัฐล้มเหลวจนถึงทุกวันนี้ อิหร่านเป็นจิ๊กซอตัวสุดท้ายที่ต้องถูกทำลายเพื่อไม่ให้เป็นภัยกับอิสราเอล และเพื่อการครอบงำตะวันออกกลางอย่างสมบูณ์
การยกเรื่องความทะเยอทะยานของอิหร่านที่จะครอบครองอาวุธนิวเคลียร์จึงเป็นนิทานที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อสร้างภาพว่าอิหร่านเป็นภัยต่ออิสราเอล กับภูมิภาคหรือกับโลกใบนี้ ท้ังๆที่ผู้อำนวยการข่าวกรองของสหรัฐ ทัลซี่ แกบบาร์ดได้ออกมายืนยันว่า อิหร่านยังอยู่ห่างไกลในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่ทรัมป์กลับตะคอกว่าเขาไม่แคร์ว่าเธอจะพูดอย่างไร เพราะว่าทรัมป์อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ หรือแกล้งเชื่อว่าอิหร่านเกือบจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ
ทรัมป์ย้ำแล้วย้ำอีกว่าอิหร่านต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ โดยที่ไม่ตั้งคำถามกลับว่าประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในเวลานี้คืออิสราเอล ซึ่งไม่เคยมีใครกล้าตรวจสอบ
สำนักงานพลังงานอะตอมระหว่างประเทศ (IAEA)ก็ตอกย้ำเหมือนกันว่าจากการตรวจสอบ อิหร่านไม่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครอง แม้ว่าก่อนหน้านี้IAEAจะเล่นการเมืองด้วยการระบุว่าอิหร่านสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้แล้ว60% ซึ่งกลายเป็นข้ออ้างให้อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านในวันที่ 13มิถุนายนที่ผ่านมา อิหร่านได้ดำเนินการฟ้องร้องIAEAที่เล่นการเมืองจนทำให้อิหร่านเกิดความเสียหาย เพราะว่ารายงานของIAEAเป็นข้ออ้างให้อิสราเอลเปิดฉากทำสงครามกับอิหร่าน
อิหร่านยืนยันมาตลอดว่าไม่มีเป้าหมายที่จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ แต่มีสิทธิ์ชอบธรรมที่จะพัฒนานิวเคลียร์เพื่อพลังงานเหมือนกับที่ทุกๆประเทศในโลกมีสิทธิ์ ความจริงอิหร่านไม่จำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ เพราะว่าขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่ได้รับการพัฒนารุ่นต่างๆที่มีอานุภาพรุนแรงเพียงพออยู่แล้ว หากใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงครามกับอิสราเอล ซึ่งจะสร้างความเสียหายในวงกว้าง อิหร่านจะหมดความชอบธรรมทันที และจะถูกประเทศต่างๆรุมประนาม และอิหร่านจะตกเป็นของอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ หรือนาโต้เป็นการโต้ตอบ อิหร่านจะล่มสลายทันที มันเป็นสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่อิหร่านพัฒนาได้เป็นเลิศเพียงพอแล้วในการบรรลุเป้าหมายในสงคราม เพราะว่ามีความแม่นยำสูง เลือกเป้าที่เฉพาะเจาะจงที่อิสราเอลไม่สามารถต้านทานได้ ไม่เหมือนการใช้นิวเคลียร์ที่เป้ากระจาย แถมมีกัมมันตภาพรังษีที่อันตรายเหมือนคนป่วยด้วยโรคมะเร็งแล้วต้องทำคีโม ที่ฆ่าท้ังเซลล์ร้ายและเซลล์ดีในร่างกายไปพร้อมๆกัน
ฝ่ายเสนาธิการและความมั่นคงของสหรัฐได้เสนอแผนการโจมตีโครงการนิวเคลียร์โฟร์ดอว์ของอิหร่านให้ทรัมป์โดยจะใช้ระเบิกทำลายยังเกอร์ที่มาอานุภาพสูง แต่ทรัมป์ยังไม่มั่นใจว่าจะทำลายฐานที่ใช้เพื่อเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของโฟร์ดอว์ที่อยุ่ลึกใต้ชั้นมใต้ดิน60-100เมตรได้หรือไม่ จึงมีการเสนอทางเลือกว่าให้ทรัมป์ใช้ระเบิดนิวเคลียร์ยุทธศาสตร์ ที่มีศักยภาพในการทำลายในวงจำกัด ทำให้ทรัมป์ต้องคิดหนัก ต้องขอเวลาตัดสินใจอีกหน่อย แม้จะรู้ว่าการทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นเรื่องบังหน้า เพราะว่าเวลาเข้าสู่สงครามกับอิหร่านแล้ว มันจะกลายเป็นการเปิดสงครามโลกคร้ังที่ 3 สหรัฐจะบอมบ์หรือทำลายโครงสร้างทางทหาร หรือโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของอิหร่านให้เสียหายเหมือนกับย้อนกลับไปมนุษย์ยุคหิน เพื่อล้มล้างอำนาจของผู้ปกครอง โดยหวังว่าจะสามารถปั่นหัวชาวอิหร่านบางส่วนที่ไม่พอใจระบบที่เอาศาสนานำให้ออกมาทำการปฏิวัติประชาชนเพื่อล้มรัฐบาลตามสูตร
หากทรัมป์ตัดสินใจทำสงครามกับอิหร่าน หรือใช้นิวเคลียร์ถล่มโฟร์ดอร์ โลกจะไม่สามารถหวลกลับไปสู่จุดเดิมได้ รัสเซีย จีน ปากีสถานจะรีบเข้ามาช่วยอิหร่านตอบโต้อิสราเอล และสหรัฐ รวมท้ังประเทศที่เป็นพันธมิตรต่อต้านอิหร่านในยุโรปและภูมิภาคตะวันออกกลาง ปากีสถานได้ออกมาขู่แล้วว่า จะใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีอิสราเอล หากอิสราเอลใช้นิวเคลียร์ถล่มอิหร่านก่อน นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าหากอิสราเอลจนมุม จะไม่ลังเลใจที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อที่จะลากเอาศัตรูให้ลงเหวไปด้วย
Scott Ritter นักวิเคราะห์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ของสหรัฐบอกว่า หากทรัมป์ใช้นิวเคลียร์กับอิหร่าน ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียจะใช้นิวเคลียร์กับนาโต้ในยุโรปอย่างทันที ส่วนจีนอาจจะถือโอกาสบุกยึดเกาะไต้หวัน และเกาหลีเหนืออาจจะเปิดฉากทำสงครามกับญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้เกิดมหาสงครามนิวเคลียร์โลก
อิสราเอลกำลังเสียหายหนักจากการถูกอิหร่านโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่ระบบ Iron Domeไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้ท่าเรือ สนามบิน ฐานทัพ ตึกอาคารของทหาร ฝ่ายความมั่นคง และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆถูกทำลายไปมาก โดยเฉพาะเมืองไฮฟา ซึ่งเป็นเมืองท่า กับเทล อาวีฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่ถูกทำลายไปแล้ว 1ใน 3 อิสราเอลประเมินศักยภาพของอิหร่านต่ำเกินไป เมื่อไม่สามารถคว่ำอิหร่านได้ในระยะแรกของการทำสงคราม อิสราเอลต้องตกเป็นฝ่ายต้ังรับ อิหร่านได้เปรียบเพราะว่าสามารถใช้โดรนและขีปนาวุธซึ่งเดินทางด้วยระยะ1,200ไมล์เพื่อไปถล่มอิสราเอลได้ ในขณะที่อิสราเอลพึ่งพาการทำสงครามผ่านเครื่องบินรบที่ติดขีปนาวุธเป็นหลัก ทำให้ไม่มีความคล่องตัวในการทำสงครามแบบอิหร่าน ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด อิสราเอลยิ่งจะใช้ขีปนาวุธจนหมดสต็อคเร็วขึ้นเพื่อต่อต้านขีปนาวุธที่ระดมยิ่งเข้ามาเป็นห่าฝนของอิหร่าน
ทางเดียวเท่านั้นที่อิสราเอลอาจจะรอดคือสหรัฐต้องยื่นมาเข้ามาช่วยในยอมคับขันนี้ ความจริงทรัมป์ไม่ต้องการก่อสงคราม เขาอยากจะรวยขึ้น มีเกียรติยศและมีชื่อเสียงมากกว่าที่จะเป็นแม่ทัพออกศึกในฐานะผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกา เขาต้องการยุติสงครามยูเครน แต่ไปๆมาๆก็หยุดไม่ได้ เพราะแรงกดดันจากพวกนีโอคอน ทำให้ต้องจำใจช่วยเหลือยูเครนต่อไป ล่าสุดทรัมป์รีบกลับจากการประชุมกลุ่มจี7ที่แคนาดาก่อนกำหนด เพราะว่าเขาเบื่อที่จะพบกับโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ผู้นำของยูเครนที่ต้องการไถเงินสหรัฐและยุโรป$40,000ล้านต่อปี เพื่อที่จะทำสงครามที่ยืดเยื้อกับรัสเซียได้ต่อไป
ในเรื่องความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ทรัมป์ก็ช่วยอิสราเอลเต็มที่แม้ว่าเขาไม่อยากจะก่อสงครามก็ตาม โดยทรัมป์แสร้งทำเป็นเจรจาปัญหานิวเคลียร์กับอิหร่าน เพื่อให้อิหร่านตายใจว่าระหว่างการเจรจา จะไม่ถูกอิสราเอลตลบหลัง แต่ที่ไหนได้อิสราเอลโจมตีอิหร่านแบบShock & Awe โดยหวังว่าจะน็อคอิหร่านแบบม้วนเดียวจบ แต่น็อคไม่ลง ทรัมป์รู้แผนการโจมตีของอิสราเอลเป็นอย่างดี ทำให้ตอนนี้ท้ังโลกไม่ให้ความน่าเชื่อถือกับทรัมป์ต่อไป เพราะว่าเป็นคนปากว่าตาขยิบ เบนจามิ เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลคิดคำนวนว่า หากลงดาบอิหร่านไม้แรกไม่สำเร็จ ก็คาดหวังว่าทรัมป์จะช่วยไม้สองทันทีเพื่อปิดเกม แต่ทรัมป์กลับเบี้ยว หรือมองเห็นความเสี่ยงข้างหน้าที่จะทำให้ความเป็นประธานาธิบดีของตัวเองสิ้นสุดลง หรือจักรวรรดิอเมริกาล่มสลาย เพราะว่าอิหร่านไม่ใช่อิรัก ซีเรีย ลิเบีย หรืออัฟกานิสถาน แต่เป็นมหาอำนาจเปอร์เซียเก่าที่ทรงพลัง แถมยังมีรัสเซีย จีน ปากีสถาน หรือเกาหลีเหนือคอยหนุนหลังอีกด้วย
สหรัฐไม่มีวันชนะอิหร่านในสงครามได้ หากรบด้วยธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องยกกองกำลังทหารเข้าไปยึดครองดินแดน แล้วจะเอาทหารจำนวนกี่แสนคนเข้าไปทำสงครามยึดดินแดนอิหร่าน ระบบโลจิสติกส์ในการเคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์จะดำเนินการในทางปฏิบัติได้ผลมากน้อยเพียงใด ประเทศพันะมิตรใด นอกจากอิสราเอล หรืออังกฤษที่จะช่วยสหรัฐรบ โดยจะต้องเผชิญกับกองกำลังทีเข้มแข็งของอิหร่าน ซึ่งอาจจะมีทหารจีน ทหารรัสเซีย ทหารปากีสถาน หรือทหารจากชาติอื่นๆมาช่วยรบด้วยก็ได้ ฐานะการเงินไม่สามารถทำให้สหรัฐก่อสงครามได้นานเหมือนอย่างในอดีต เพราะว่าในตอนนั้น จีน และรัสเซียยังไม่เข้มแข็ง และสหรัฐยังไม่มีหนี้สูงท่วมท้นเหมือนในเวลานี้
ทันทีที่สหรัฐทำสงครามกับอิหร่าน อิหร่านจะเปิดฉากโจมตีฐานทัพทั้งหมดของสหรัฐในตะวันออกกลางที่มีทหารอเมริกันประจำการอยู่40,000-50,000นาย อิหร่านจะปิดช่องแคบฮาร์มุซ ซึ่งจะทำให้ซับไพลน้ำมัน20%ของโลกไม่สามารถเดินทางผ่านช่องแคบนี้ได้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะพุ่งสุงขึ้นอาจจะถึง$300ต่อบาร์เรลล์ คนอเมริกัน60%ที่ไม่เห็นด้วยกับสงครามกับอิหร่านอยู่แล้วยิ่งจะโกรธทรัมป์ที่ต้องเติมน้ำมันรถ$7เหรียญต่อแกลลอน เงินเฟ้อจะพุ่งทะลุฟ้า ตลาดบอนด์ของสหรัฐจะพัง วึ่งจกลากระบบการเงินให้พังลงไปด้วย ทำให้รัฐบาลที่มีหนี้กว่า$37ล้านล้านอาจจะต้องชักดาบหนี้ เมื่อหนี้รัฐบาลขายไม่ออก ทรัมป์จะถูกกล่าวหาว่า ทรยศต่ออุดมการณ์MAGAที่มีเป้าหมายฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของสหรัฐทางเศรษฐกิจ และลดการแทรกแซงในกิจการต่างประเทศ หรือเลิกก่อสงคราม
นั้นคือความเสี่ยงที่ต้องสูญเสียอย่างมหาศาลที่ทรัมป์จะต้องคิดหนักหากจะก่อสงครามกับอิหร่าน ในขณะที่โอกาสที่สหรัฐจะได้แทบจะจับต้องไม่ได้ มีแต่ต้องใช้จ่ายในการสงครามด้วยงบประมาณที่สูงที่สหรัฐจะมีปัญหาในการก่อหนี้ ทหารอเมริกันจะไปตายแทนอิสราเอล
แต่จะว่าทรัมป์ที่ต้องการฟื้นฟูหรือรักษาผลประโยชน์ของอเมริกาผ่านอุดมการณ์MAGA กำลังถูกบีบไข่โดยซิตี้ ออฟ ลอนดอน และวอลล์สตรีทให้ช่วยยูเครนต่อไป และให้ทำสงครามกับอิหร่านเพื่อรีเซ็ตระบบใหม่และล้างหนี้ไปในตัวก็ได้ พวกแบงเกอร์ที่ครองอำนาจโลกมาแล้วหลายศตวรรษเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังลัทธิล่าอาณานิคม และการก่อสงครามโดยการไฟแนน์ให้ทุกฝ่ายรบกัน ในขณะที่ตัวเองขายอาวุธ ปล่อยเครดิต และทำกำไรจากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศผู้กู้เงินที่ล้มละลาย พวกแบงเก้อร์ไม่สนใจว่าสหรัฐจะพังพินาศอย่างไร ขอแต่ได้ทำกำไร หรือรักษาอำนาจในระบบการเงินโลกได้ ผ่านบริษัทข้ามชาติและธนาคารยักษ์ใหญ่ที่ล้วนแล้วมีหุ้นปั่นในตลาดโลก ในขณะที่ระบบการเงินโลกที่ถูกออกแบบมาหลังสงครามโลกคร้ังที่ 2 กำลังสิ้นอายุขัย สงครามอิหร่านจึงเปรียบเหมือนการดิ้นรนของลอนดอน กับนิวยอร์ค ที่อยู่เหนืออำนาจอธิปไตยของเกือบทุกประเทศในโลก รวมท้ังสหรัฐอเมริกาในการล้มระบบเพื่อสร้างใหม่ นอกจากสงครามตัวแทนยูเครน และสงครามตัวแทนอิหร่าน ยังมีสงครามตัวแทนไต้หวันที่คอยจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในสงครามคร้ังสุดท้าย
ทรัมป์จะยึดมั่นในพันธะของอุดมการณ์MAGAด้วยการเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐ หรือจะขายวิญญาณให้กับพวกนีโอคอนและนักการเงินลอนดอนและนิวยอร์คด้วยการทำสงครามกับอิหร่าน ซึ่งจะทำมาสู่หายนะให้กับตัวเองกับสหรัฐ และโลก อีกไม่นานจะได้รู้กัน แต่ในขณะเดียวกัน สหรัฐและนาโต้บางประเทศกำลังขนย้ายอุปกรณ์และอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือทรัพย์สินทางทหารเข้าตะวันออกกลางอย่างมีนัยสำคัญ เหมือนกับเป็นการส่งสัญญานว่า สงครามกับอิหร่าน หรือสงครามคร้ังสุดท้ายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
By Thanong Khanthong
21/6/2025