"เปิดใจ-เป็นมิตร-ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน" หัวใจสำคัญ ความสัมพันธ์จีน-บังกลาเทศ

ขอบคุณภาพจาก The Daily Star

2-4-2025

    ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและบังกลาเทศบรรลุจุดสูงสุดหลังจากการพัฒนามาเป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษ โดยบังกลาเทศหวังว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีไปสู่ระดับใหม่ในอีกครึ่งศตวรรษข้างหน้า ตามที่มูฮัมหมัด ยูนุส ที่ปรึกษาคนสำคัญของรัฐบาลรักษาการบังกลาเทศระบุระหว่างการเยือนจีนครั้งแรกของเขา นับตั้งแต่รับตำแหน่งปัจจุบันในเดือนสิงหาคม (2024)

   ยูนุส ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคมที่มีชื่อเสียงระดับโลก ระบุว่าเขาประทับใจการทูตจีนในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับโครงการริเริ่มระดับโลกที่สำคัญหลายโครงการที่จีนเสนอ เช่น โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ

    ในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ระหว่างจีนและบังกลาเทศ ยูนุสกล่าวว่าทั้งสองประเทศเพื่อนบ้านได้สร้างตัวอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐและการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ซึ่งส่วนอื่น ๆ ของโลกสามารถทำตามได้ และสายสัมพันธ์ระหว่างจีนและบังกลาเทศนั้นแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการเดินทางที่ยาวนานและประสบความสำเร็จ เนื่องจากทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะ "เปิดใจกัน เป็นมิตรต่อกัน แบ่งปันสิ่งต่างๆ กัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน"

   "การมีเพื่อนที่ดีเช่นนี้ร่วมกับเราทำให้เรารู้สึกดี ทำให้เรารู้สึกเข้มแข็งขึ้น เป็นความสัมพันธ์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราอย่างมาก" ยูนุสกล่าว พร้อมเสริมว่าการเยือนจีนของเขาจะช่วยให้การทำงานในบังกลาเทศดีขึ้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางประวัติศาสตร์

   ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและบังกลาเทศได้พัฒนาไปในระดับสูง จีนเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของบังกลาเทศเป็นเวลา 15 ปีติดต่อกัน โดยการค้าทวิภาคีมีมูลค่าเกิน 23,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2023

    บังกลาเทศเป็นประเทศแรกในเอเชียใต้ที่เข้าร่วม BRI การดำเนินการโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ได้ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของบังกลาเทศและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน

    ยูนุสกล่าวว่าโครงการ BRI ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอในปี 2013 มีความสำคัญมากสำหรับบังกลาเทศ ซึ่งสามารถเข้าถึงมหาสมุทรได้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากโครงการนี้สามารถเชื่อมโยงประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในภูมิภาคนี้เข้าด้วยกันและร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ “ทุกอย่างที่คุณทำเป็นครั้งแรก” เช่น BRI จะต้องเผชิญกับความสงสัย แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนก็จะรู้สึกสบายใจกับโครงการนี้ ตราบใดที่โครงการนี้ตอบสนองความต้องการของประชาชน ยูนุสกล่าว เขตเศรษฐกิจพิเศษในบังกลาเทศได้รับการจัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการ BRI เพื่อให้นักลงทุนชาวจีนตั้งโรงงานและขายผลิตภัณฑ์ของตนไปยังทั่วโลกได้สะดวกยิ่งขึ้น

   “คุณจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดของเราและตลาดโลก เราได้รับประโยชน์จากการที่คุณมีโรงงานผลิตอยู่ในบังกลาเทศ โดยพาคนรุ่นใหม่ของเราไปช่วยสร้างและทำงานในโรงงานเหล่านั้น ด้วยวิธีนี้ เราจะสามารถสร้างความสมบูรณ์แบบระหว่างสองประเทศได้” เขากล่าว

   ความประทับใจอย่างลึกซึ้ง ระหว่างที่ที่ปรึกษาหลักอยู่ที่จีนเป็นเวลา 4 วัน เขาได้หารือกับสี ซึ่งยูนุสกล่าวว่าเป็น “บุคคลผู้สร้างแรงบันดาลใจ” ซึ่งเขาชื่นชมมาโดยตลอด หลังจากที่ทั้งสองเคยพบกันที่จีนเมื่อปี 2009 โดยยูนุสกล่าวว่าสีเป็นคนฉลาดที่มองหาแนวคิดและมองหาสิ่งที่จะทำเพื่อประชาชนของเขา นอกจากนี้ สีก็ยังสามารถมองเห็นปัญหาที่แท้จริงของผู้คนในพื้นที่ได้

    ยูนุส อดีตนายธนาคารผู้บุกเบิกขบวนการสินเชื่อรายย่อยซึ่งให้สินเชื่อจำนวนเล็กน้อยแก่คนจนที่สุดในโลกหลายล้านคน กล่าวว่าสียังคงจำการพบกันครั้งแรกของพวกเขาได้

“ผมประทับใจมากที่ใครบางคนในตำแหน่งนี้กำลังคิดถึงบางอย่างที่ผมทำกับผู้หญิงที่ยากจนในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล ดังนั้นผมจึงชื่นชมเขาในเรื่องนี้เสมอ” ยูนุสระบุ พร้อมกล่าวว่า เขาเชื่อว่าวิสัยทัศน์ที่สีเสนอในการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติเกิดจากแนวคิดที่ว่า "ไม่ว่าเราจะอยู่ส่วนใดของเรือด้วยกัน หากเรือลำนี้จม เราก็จบเห่"

   ยูนุสกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็น "ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งบนโลกใบนี้ เราต้องช่วยโลกใบนี้ นั่นคือเป้าหมายอันดับหนึ่ง" โดยเขาได้ส่งเสริมแนวคิดที่คล้ายกันในการสร้างโลกที่มี "สามศูนย์ คือความยากจนเป็นศูนย์ การว่างงานเป็นศูนย์ และการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์" ซึ่ง "เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพวกเราในการปกป้อง (โลกใบนี้)"

IMCT News

ที่มา https://asianews.network/bangladesh-hails-china-as-great-friend/