สงครามยูเครนจะจบอย่างไร?
4/12/2024
ดังที่เราให้รายละเอียดไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้ทำเนียบขาวกำลังเตรียมการส่ง 'อาวุธจำนวนมาก' ไปยังยูเครน โดยเหลือเวลาเพียง 50 วันก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่ง สัปดาห์นี้สหรัฐฯ ยังประกาศให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 725 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นแพ็คเกจกลาโหมล่าสุดสำหรับยูเครนที่ดึงมาจากเงินคงคลังของสหรัฐฯ โดยตรง
นอกจากนี้ จะมีการจัดส่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคลครั้งที่สอง ในขณะที่เยอรมนีเปิดเผยความช่วยเหลืออีก 680 ล้านดอลลาร์ในยูเครน พันธมิตรตะวันตกยืนยันว่าพวกเขาต้องการเห็นสถานภาพของโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ และยูเครนอยู่ในตำแหน่งที่น่าพอใจที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนที่การเจรจาเพื่อยุติสงครามจะดำเนินไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามที่ทรัมป์สัญญาไว้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะทำตั้งแต่วันแรกของการบริหารครั้งที่สองของเขา
แต่คำถามหลักยังคงอยู่: การที่อาวุธเข้ามาอย่างรวดเร็วมากขึ้นจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อปัญหาที่แท้จริงคือกำลังพลของทหารยูเครนกำลังร่อยหรอลงทุกวัน ในขณะที่กองทัพรัสเซียสามารถรุกคืบในดอนบาสส์ได้อย่างมั่นคงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าการช่วยเหลือต่อยูเครนจะมากเพียงใด ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนรูปการณ์ในสมรภูมิของสงครามได้
เซเลนสกี กล่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเขายอมถอยจากจุดยืนที่แข็งกร้าวตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยยอมรับข้อเสนอให้มีการยุติสงครามกับรัสเซีย โดยเสริมว่ายูเครนอาจยึดคืนที่ดินที่ถูกยึดครองในภายหลังผ่านการทูต หากเคียฟเป็นสมาชิกของนาโต้ในภายหลัง สิ่งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากจุดยืนก่อนหน้านี้ของเขา ว่าสงครามยูเครนจะสิ้นสุดของสงครามขึ้นอยู่กับรัสเซียที่จะคืนดินแดนที่ถูกยึดครองของยูเครน
แต่ทางรัสเซียที่ลงทุนทำสงครามยูเครนมานานเกือบสามปี เสียเงินเสียทองเสียอาวุธและกำลังพลไปมาก จะไม่ตกหลุมพรางของสหรัฐหรือเซเลนสกี้ได้ง่ายๆ เมื่อมีชัยในสนามรบ รัสเซียอยู่ในสถานะที่ไม่จำเป็นต้องมีการเจรจา ณ จุดนี้ หากทั้งสองฝ่ายนั่งที่โต๊ะเพื่อขอหยุดยิง รัสเซียจะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไข ข้อตกลงหยุดยิงอาจจะเป็นการซื้อเวลาให้ยูเครนในการติดอาวุธใหม่ การยกดินแดนให้รัสเซียเกือบ20%ของพื้นที่ท้ังหมด โดยมีเขตปลอดทหารขวางกัน คล้ายๆกับสถานการณ์ของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้อาจจะสร้างปัญหาความไร้เสถียรภาพที่ไม่มีวันสิ้นสุดได้เหมือนอย่างที่คาบสมุทรเกาหลีกำลังเผชิญในเวลานี้
ยุโรปคงต้องพร้อมยอมถอย ถ้าหากทรัมป์เกิดทิ้งยูเครนจริงๆ ภาระทั้งหมดจะตกกับยุโรป ซึ่งกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจและการเงินที่รุนแรงอยู่แล้ว อนาคตของยุโรปขึ้นอยู่กับการอยู่ร่วมอย่างสันติกับรัสเซีย เป็นเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย มีแต่จะทำให้ยุโรปพังพินาศ เนื่องจากยุโรปไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ และความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจกำลังลดลงเรื่อยๆ
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียน่าที่จะต้องการให้กองทัพยูเครนสิ้นสภาพจะได้ไม่เป็นภัยต่อรัสเซียต่อไป รวมท้ังยึดครองโอเดสซา เมื่อท่าของทางตอนใต้เพื่อปิดทางออกสู่ทะเลดำของยูเครน และคาร์คอฟ หรือพื้นที่ทางภาคตะวันออกท้ังหมดที่ติดกับแม่น้ำดนิเปอร์ ส่วนดินแดนที่เหลือต้องเป็นรัฐบาลใหม่ที่เป็นกลางจริงๆ หรืออยู่ภายใต้การดูแลของรัสเซีย ถ้าหากคุยกันไม่รู้เรื่อง รัสเซียพร้อมทีจะใช้ขีปนาวุธOreshnikที่ไร้เทียมทานเพื่อปิดเกมสงครามให้รู้แล้วรู้รอด
By Thanong Khanthong
IMCT New