การกลับลำนโยบายยูเครนคือ 'การแก้แค้น' ของทรัมป์

การกลับลำนโยบายยูเครนคือ 'การแก้แค้น' ของทรัมป์ต่อกลุ่ม Deep State และพรรคเดโมแครต
20-2-2025
โดนัลด์ ทรัมป์ "ไม่เคยสนับสนุนความขัดแย้ง" ในยูเครนมาตั้งแต่ปี 2558 (ค.ศ. 2015) เมื่อครั้งที่เขาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก โดยได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า "ต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย" แดเนียล ลาซาเร นักข่าวและนักเขียนผู้มากประสบการณ์กล่าวกับสำนักข่าวสปุตนิก ขณะวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่อยูเครนของสหรัฐฯ อย่างฉับพลันในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
"ความตึงเครียดทางการเมือง ความโกรธแค้นทางการเมือง และความเป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองในสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งสองฝ่ายดูหมิ่นซึ่งกันและกัน เกือบถึงขั้นสงครามกลางเมือง นั่นคือประเด็นแรก ประเด็นที่สอง ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าทรัมป์ต้องการแก้แค้นศัตรูของเขา และประเด็นที่สาม ไม่มีข้อสงสัยเช่นกันว่าศัตรูของเขาได้มอบโอกาสอันสมบูรณ์แบบให้กับเขา นั่นคือ โจ ไบเดน ยั่วยุให้เกิดสงครามนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 (ค.ศ. 2022)" ลาซาเรกล่าว
"จุดยืนของทรัมป์คือเขาไม่เคยสนับสนุนสงครามนี้มาตั้งแต่ต้น สงครามนี้เป็นหายนะ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น และด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องการยุติมัน ในแง่นี้ ผมคิดว่าการกระทำของเขามีเหตุผลอย่างยิ่ง" นักวิเคราะห์กล่าวเสริม
ลาซาเรเน้นย้ำว่า โจ ไบเดน "รู้ดี" ว่า "เขาไม่สามารถชนะสงครามนี้" กับรัสเซียในยูเครนได้ "แต่กลับแสดงท่าทีทุกอย่างว่าจะสู้รบต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด เขาไม่สนใจ และยินดีที่จะสละชีวิตของชาวยูเครนและชาวรัสเซียหนุ่มสาวต่อไปเรื่อยๆ เพื่อพยายามยืดเยื้อความขัดแย้งนี้โดยไม่มีจุดจบ"
"นโยบายของพวกเขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เป็นทางตันที่ไร้ทางออก จนเหมือนส่งคำเชิญที่สลักอย่างประณีตให้ทรัมป์มายุติสงครามนี้ด้วยเงื่อนไขของเขาเอง" นักสังเกตการณ์กล่าว
ณ ขณะนี้ ลาซาเรคาดการณ์ว่า รัสเซียอาจได้ยูเครนที่เป็น "รัฐกันชน" แบบฟินแลนด์ – นั่นคือถูกปลดอาวุธ กำจัดกลุ่มสนับสนุนนาซี และอยู่นอกนาโต้ โดยดินแดนทางตะวันออกจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีมีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงทางคำพูดเมื่อวันพุธ หนึ่งวันหลังจากการประชุมระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมุ่งเน้นการยุติวิกฤตในยูเครน ทรัมป์โจมตีเซเลนสกีที่ปฏิเสธการจัดการเลือกตั้ง โดยระบุว่าคะแนนนิยมของเขาตกลงเหลือเพียง "4%" และยูเครนภายใต้การนำของเขากลายเป็น "พื้นที่ปรักหักพังขนาดมหึมา"
เซเลนสกีตอบโต้ด้วยการกล่าวหาว่าทรัมป์อยู่ใน "พื้นที่ข้อมูลบิดเบือน" และระบุว่าเขา "ต้องการความจริงมากกว่านี้จากทีมทรัมป์" ซึ่งกระตุ้นให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบายความโกรธผ่าน Truth Social โดยโพสต์ข้อความโจมตี "นักแสดงตลกที่ประสบความสำเร็จแค่พอประมาณ" ที่ "หว่านล้อมให้ [สหรัฐฯ] ใช้จ่ายเงิน 350,000 ล้านดอลลาร์" ไปกับ "สงครามที่ไม่มีทางชนะได้" และประกาศว่า "เงินครึ่งหนึ่งที่เราส่งให้เขา... 'หายไป'" อีกทั้งยังปฏิเสธที่จะจัดการเลือกตั้ง
รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวันพุธว่า "ความคิดที่ว่าเซเลนสกีจะเปลี่ยนความคิดประธานาธิบดีได้ด้วยการพูดจาใส่ร้ายต่อสาธารณะนั้น ทุกคนที่รู้จักประธานาธิบดีจะบอกคุณว่านั่นเป็นวิธีการที่เลวร้ายในการจัดการกับรัฐบาลชุดนี้"
นักการทูตระดับสูงของรัสเซียและสหรัฐฯ พบกันที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 (ค.ศ. 2025) เพื่อหารือเกี่ยวกับสันติภาพในยูเครนและสถานะความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ อดีตสมาชิกเพนตากอนระบุว่าการประชุมที่ริยาดแสดงให้เห็นว่าทรัมป์ตั้งเป้าจะนำความสมจริงกลับคืนสู่นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ
---
IMCT NEWS // Photo :x.com/SputnikInt