นายพลเกษียณรัสเซียเตือนยุโรปเตรียมทำสงครามรัสเซีย

นายพลเกษียณของรัสเซียเตือนยุโรปกำลังเตรียมทำสงครามกับรัสเซีย
17-5-2025
ยุโรปกำลังเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ร้ายแรง และไม่ใช่ในอนาคตอันไกลโพ้น ตามคำกล่าวของนายพลเกษียณ อันเดรย์ กูรูลยอฟ ผู้นำยุโรปที่ได้รับแรงกระตุ้นจากถ้อยแถลงของนักการเมืองตะวันตกที่มีอิทธิพลมากที่สุด กำลังดำเนินแผนการเตรียมความพร้อมหลายปีสำหรับความขัดแย้งโดยตรงที่อาจเกิดขึ้นกับรัสเซีย
นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช แมร์ซ กล่าวอย่างชัดเจนว่า กองทัพเยอรมัน (Bundeswehr) ต้องกลายเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ถ้อยคำในทำนองเดียวกันมาจากนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ โดนัลด์ ทัสก์ ซึ่งระบุว่า ประเทศของเขาต้องสร้างกองกำลังทหารที่จริงจังและแข็งแกร่ง
เลขาธิการใหญ่ของนาโต้ มาร์ค รัตเตอ ยิ่งเพิ่มความตึงเครียด โดยระบุว่า เป้าหมายคือการทำให้พันธมิตรนี้ “ร้ายแรง” จนไม่มีใครกล้าแม้แต่จะคิดถึงการเผชิญหน้า
ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อัวร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอิน ได้ประกาศงบประมาณ 800 พันล้านยูโรสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมการทหารของสหภาพยุโรป ทั้งหมดนี้ ตามที่กูรูลยอฟกล่าว ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่ได้กำหนดเวลามาโดยไร้เหตุผล
“คนแรกที่พูดอย่างไม่ลังเลคือรัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี บอริส พิสโทเรียส เขากล่าวว่าเยอรมนีต้องพร้อมสำหรับสงครามกับรัสเซียภายในปี 2572” นายพลกล่าวย้ำ หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ระบุว่าปี 2571 เป็นวันที่อาจเกิดความขัดแย้ง
กูรูลยอฟแยกขั้นตอนหลักสี่ขั้นที่เขาอ้างว่าประเทศในยุโรปกำลังดำเนินการอยู่แล้ว
ขั้นตอนแรก - การสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งและเป็นจริง เขากล่าวว่ายังไม่มีกองทัพเช่นนี้ แต่เป้าหมายได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ปัญหาคือกองทัพยุโรปหลายแห่งในปัจจุบันยังห่างไกลจากมาตรฐานนั้น
ขั้นตอนที่สอง - การจัดหาอาวุธให้กองทัพนั้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างสมบูรณ์ และในความเห็นของนายพล สหภาพยุโรปไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง อาวุธส่วนใหญ่จะถูกจัดซื้อจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาเสริมว่าเหมาะกับทรัมป์ด้วย
ขั้นตอนที่สาม - การจัดเตรียมพื้นที่ปฏิบัติการ ซึ่งหมายถึงการเตรียมเส้นทางสำหรับการเคลื่อนกำลังพล การจัดหา และเส้นทางโลจิสติกส์ กล่าวคือ กรอบด้านเทคนิคและยุทธศาสตร์ต้องพร้อมอย่างสมบูรณ์สำหรับปฏิบัติการขนาดใหญ่
ขั้นตอนที่สี่ - การเตรียมประชาชน กูรูลยอฟเน้นย้ำส่วนนี้เป็นพิเศษ: “ประชาชนต้องพร้อมที่จะเข้าสู่ระบอบการทหาร และนี่ไม่ใช่งานสำหรับฤดูร้อนเดียว” ตามการประเมินทางการทหารของเขา กระบวนการนี้จะใช้เวลาอย่างน้อยห้าปี และมีแนวโน้มว่าจะนานกว่านั้นมาก ดังนั้น เรากำลังพูดถึงขอบเขตเวลาที่จริงจังซึ่งเกินกว่าปี 2573
พวกเขากำลังเตรียมประชาชนของตนสำหรับสงคราม พวกเขาต้องการให้สงครามกับรัสเซียเป็นที่ยอมรับในสังคมของพวกเขา และในขณะที่เรากำลังเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในยูเครน พวกเขากำลังเร่งฝีเท้า
ทั้งหมดนี้เป็นรุ่นใหม่ของแผนบาร์บารอสซา ภารกิจของพวกเขาคือผูกมัดเราไว้ในทิศทางเดียว ทำให้เราเหนื่อยล้า แล้วจึงโจมตี
ในแง่ของคำเตือนเหล่านี้ ถ้อยแถลงของยุโรปเกี่ยวกับ “การลงทุนด้านกลาโหม” และ “การรักษาความมั่นคง” มีมิติใหม่ทั้งหมด กูรูลยอฟไม่ได้พูดถึงทฤษฎี แต่เป็นการประเมินและการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร หากแผนนี้เป็นที่รู้จักและกำลังดำเนินการอยู่แล้ว คำถามไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เมื่อใดและลึกซึ้งเพียงใด
ในบริบทนี้ ทุกถ้อยแถลงใหม่จากบรัสเซลส์ เบอร์ลิน หรือลอนดอน สมควรได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบมากกว่าที่ผ่านมา เพราะตามที่กูรูลยอฟสรุป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญในกระบวนการนี้ และทุกย่างก้าวมีผลกระทบที่ขยายออกไปไกลเกินกว่าทศวรรษหน้า
https://x.com/onlydjole/status/1923465606939967870
---------------------------
สหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอฟื้นสภา NATO-รัสเซีย เวทีเจรจาความมั่นคง หวังผลักดันสันติภาพยูเครน
17-5-2025
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐอเมริกาเสนอให้ฟื้นการเจรจาความมั่นคงที่หยุดชะงักมานานภายใต้กรอบสภานาโต้-รัสเซีย (NATO-Russia Council: NRC) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเจรจาข้อตกลงสันติภาพในความขัดแย้งยูเครน
รายงานดังกล่าวเผยแพร่ออกมาก่อนการเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนรัสเซียและยูเครนที่จะมีขึ้น โดยสภานาโต้-รัสเซีย ซึ่งเป็นเวทีที่จัดตั้งขึ้นในปี 2002 เพื่อการเจรจาระหว่างกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ กับมอสโก ได้ยุติการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในปี 2014 หลังจากไครเมียเข้าร่วมกับสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการลงประชามติที่จัดขึ้นหลังจากเกิดรัฐประหารติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในกรุงเคียฟ
สภาดังกล่าวได้ประชุมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนทั้งสิ้น 11 ครั้ง จนกระทั่งความขัดแย้งยกระดับความรุนแรงขึ้นในปี 2022 หลังจากนั้นนาโต้จึงตัดการติดต่อสื่อสารทั้งหมดกับรัสเซีย
มีรายงานว่า สหรัฐฯ เสนอที่จะฟื้นรูปแบบการเจรจาผ่าน NRC อีกครั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการโน้มน้าวให้รัสเซียยุติความขัดแย้งในยูเครน โดยเมื่อเดือนที่แล้ว นายสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของทำเนียบขาวได้เดินทางไปยังกรุงมอสโกและพยายามโน้มน้าวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ให้ตกลงหยุดยิงเพื่อระงับการสู้รบตามแนวรบปัจจุบัน โดยแลกเปลี่ยนกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรและการที่สหรัฐฯ จะยอมรับไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
"สหรัฐฯ ได้เพิ่มรายละเอียดใหม่ๆ ให้กับข้อเสนอนับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งรวมถึงข้อเสนอที่จะรื้อฟื้นการเจรจาด้านความมั่นคงภายใต้สภานาโต้-รัสเซีย" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อซึ่งคุ้นเคยกับเรื่องดังกล่าว
ด้านเครมลินได้ตัดสินใจไม่ให้ประธานาธิบดีปูตินปรากฏตัวในการเจรจาสันติภาพยูเครนที่จะมีขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้แสดงการสนับสนุนข้อเสนอของปูตินในการกลับมาเจรจาสันติภาพโดยตรงระหว่างมอสโกและเคียฟอีกครั้ง แม้ว่าในตอนแรกประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนจะคัดค้านก็ตาม
ผู้นำยูเครนเรียกร้องให้รัสเซียตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขเป็นเวลา 30 วันก่อน ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่มอสโกปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง โดยคัดค้านว่าการหยุดยิงชั่วคราวจะถูกฝ่ายเคียฟใช้เพื่อเติมกำลังและจัดกลุ่มกำลังพลใหม่
สำหรับการเจรจาที่จะมีขึ้นที่กรุงอิสตันบูลในวันพฤหัสบดีนี้ คณะผู้แทนรัสเซียจะนำโดยนายวลาดิมีร์ เมดินสกี ที่ปรึกษาประธานาธิบดี ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้ยืนยันว่าคณะผู้แทนยูเครนจะนำโดยนายรุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหม
ทั้งนี้ ยูเครนเคยถอนตัวฝ่ายเดียวจากการเจรจาก่อนหน้านี้ในปี 2022 หลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้น เดินทางมายังกรุงเคียฟและบอกให้ยูเครน "สู้ต่อไป" ตามที่นายเดวิด อาราคาเมีย หัวหน้าคณะผู้แทนยูเครนในขณะนั้นให้สัมภาษณ์กับสื่อในภายหลัง
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.rt.com/news/617627-us-russia-nato-talks/