.

เปิดอัตราดอกเบี้ยโลกปี 2025 ตุรกี-เวเนซุเอลา เกิน 40% ขณะที่สวิสและฟิจิต่ำสุด 0.25% สหรัฐฯ คาดเตรียมปรับลด
12-5-2025
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2025 ธนาคารกลางทั่วโลกต่างปรับกลยุทธ์การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับสภาวะตลาดการเงินที่ผันผวน โดยผู้นำธุรกิจทั่วโลกกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าอัตราดอกเบี้ยในแต่ละประเทศจะถูกปรับลดลง คงไว้ หรือเพิ่มขึ้น
ข้อมูลล่าสุดจาก Trading Economics ซึ่งนำเสนอในรูปแบบกราฟิก "ตลาดในนาทีเดียว" (Markets in a Minute) โดยความร่วมมือกับบริษัท Terzo แสดงให้เห็นว่าเวเนซุเอลาครองแชมป์อัตราดอกเบี้ยสูงสุดในโลกที่ 59.4% ตามมาด้วยตุรกีที่ 46.0% ทั้งสองประเทศกำลังใช้มาตรการดอกเบี้ยสูงเพื่อต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงและค่าเงินที่อ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
ในทางตรงกันข้าม สวิตเซอร์แลนด์และฟิจิมีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในโลกเพียง 0.25% โดยธนาคารกลางสวิส (SNB) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์ลดลงมาอยู่ที่ 0% ในเดือนเมษายน และ SNB ได้ส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหากจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา
สำหรับสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ช่วง 4.25-4.50% โดยในคำแถลงการณ์ล่าสุด เฟดระบุว่าแม้การไหลเข้าของสินค้านำเข้าจะส่งผลให้ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลดลง แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังคง "ขยายตัวในอัตราที่มั่นคง" นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินยังสังเกตเห็นว่าอัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้เพิ่มสูงขึ้น
ในการคาดการณ์เศรษฐกิจล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2025 เฟดได้ส่งสัญญาณว่าน่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกสองครั้งภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งจะทำให้ช่วงอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายอยู่ที่ 3.75-4.00% การปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจช่วยบรรเทาภาระด้านต้นทุนทางการเงินให้กับทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภคในสหรัฐฯ
ข้อมูลจากแผนที่อัตราดอกเบี้ยโลกยังแสดงให้เห็นว่า ประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น โดยญี่ปุ่นมีอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% กัมพูชา 0.78% ไทย 1.75% และไต้หวัน 2.00% ขณะที่จีนอยู่ที่ 3.10% ด้านรัสเซียอยู่ที่ 21.00% และอิหร่านที่ 22.00% สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเงินที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยเป็นเพียงหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการเงินของบริษัทและการลงทุน ในยุคที่ตลาดมีความผันผวนสูง ผู้บริหารและนักลงทุนจำเป็นต้องติดตามข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสัญญาและรูปแบบการใช้จ่ายแบบเรียลไทม์ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ จากข้อมูลทั้ง 145 ประเทศทั่วโลกที่ได้ทำการศึกษา นักวิเคราะห์ยังคงเน้นย้ำว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยแต่ละประเทศมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับสภาวะเศรษฐกิจเฉพาะของแต่ละภูมิภาค และจะยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญของธนาคารกลางในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการเติบโตท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.visualcapitalist.com/sp/ter01-mapped-interest-rates-by-country-in-2025/