ผู้นำโลกหนุนเพิ่มบทบาทการมีส่วนร่วมประเทศโลกใต้ในเวทีระหว่างประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนและวิกฤตกาซา

12-4-2025

    ผู้นำโลกและนักการทูตในการประชุม Antalya Diplomacy Forum ที่ตุรกีเรียกร้องให้ประเทศโลกใต้มีส่วนร่วมมากขึ้นในกระบวนการตัดสินใจระดับโลก และสนับสนุนทางออกแบบสองรัฐสำหรับปัญหากาซา ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น** ผู้นำโลกและนักการทูตที่เข้าร่วม Antalya Diplomacy Forum ในตุรกีได้เรียกร้องให้ประเทศโลกใต้มีส่วนร่วมมากขึ้นในการตัดสินใจระดับโลก โดยเตือนว่าความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ลึกซึ้งขึ้นและการแข่งขันทางเศรษฐกิจกำลังทำให้ความร่วมมือระหว่างประเทศอ่อนแอลงและเป็นอันตรายต่อสันติภาพโลก

    ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต แห่งอินโดนีเซีย นายไจ จุน ทูตพิเศษของจีนด้านกิจการตะวันออกกลาง นายฟิเลมอน หยาง ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ และผู้นำประเทศอื่นๆ อีกหลายคน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในฟอรัมเมื่อวันศุกร์ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "การเรียกคืนการทูตในโลกที่แตกแยก"

    การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ตลอดจนความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินอยู่ในกาซาและยูเครน "การมีการทูตทวิภาคีและการทูตระดับภูมิภาคมากขึ้น รวมถึงการเตรียมพื้นฐานสำหรับระเบียบโลกใหม่นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง" นายเจฟเดต ยืลมาซ รองประธานาธิบดีตุรกีกล่าวในการประชุม โดยระบุว่าการแข่งขันทางเศรษฐกิจกำลังกลายเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องมากกว่าความท้าทายทางการทหารสำหรับโลก

   "สงครามภาษีศุลกากรครั้งล่าสุดนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเน้นย้ำในการหารือ" เขากล่าว

   จีนได้ขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ เป็น 125 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบโต้การตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 145 เปอร์เซ็นต์ในสงครามการค้าที่คุกคามห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

    นายยืลมาซกล่าวว่าการเผชิญหน้าในระดับโลกจะเปลี่ยนแปลงได้ก็ต่อเมื่อมีประเทศต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันมากขึ้น โดยเปิดช่องทางการสื่อสารหลายช่องทาง "มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่เพียงแค่ประเทศและรัฐบาลที่มีแนวคิดคล้ายกันเท่านั้นที่ควรพูดคุยกัน แต่รวมถึงประเทศที่มีมุมมองแตกต่างกันด้วย" เขากล่าวเสริม

    ธรรมชาติของความท้าทายที่ทุกประเทศกำลังเผชิญอยู่ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เขากล่าวต่อ

    นายฟิเลมอน หยาง ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศเปิดพื้นที่ให้ประเทศจากโลกใต้มากขึ้นในองค์กรพหุภาคี "ผมคิดว่าเราจะได้เห็นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าว่าโลกมีความชาญฉลาดเพียงพอที่จะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้หรือไม่ เพื่อสร้างโลกที่สงบสุข" เขากล่าว

    เขาเรียกร้องให้สมาชิกถาวรทั้ง 5 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ขยายสมาชิกภาพเพื่อให้มีประเทศอื่นอย่างน้อย 2 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งเขาเสนอว่าอาจเป็นประเทศจากแอฟริกา "สิ่งนี้จะทำให้สหประชาชาติปรับตัวเข้ากับโลกปัจจุบันได้ดีขึ้น" เขากล่าว

    นายหยางยังเน้นย้ำว่าประเทศต่างๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสถาบันต่างๆ เช่น สหประชาชาติเท่าที่ควร

    ผู้เข้าร่วมประชุมยังเรียกร้องให้ผู้นำโลกหาจุดร่วมเพื่ออำนวยความสะดวกในการยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นใหม่ในกาซา ซึ่งล่มสลายลงเมื่อเดือนที่แล้วหลังจากมีการหยุดยิงที่ไม่มั่นคงระหว่างทั้งสองฝ่ายในเดือนมกราคม

    พวกเขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการผลักดันทางออกแบบสองรัฐ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่จะให้อิสราเอลและปาเลสไตน์อยู่ร่วมกันอย่างสันติในฐานะรัฐอิสระสองแห่งที่แยกจากกันโดยมีการรับประกันความมั่นคงร่วมกัน

   ในสุนทรพจน์ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงในฟอรัม ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป เออร์โดกันแห่งตุรกี เปิดการกล่าวโดยประณามการกระทำของอิสราเอลในกาซาและตำหนิมหาอำนาจระดับโลก โดยกล่าวว่า "ประชาคมระหว่างประเทศไม่สามารถพัฒนานโยบายที่มีมโนธรรมมากขึ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย" "การนิ่งเฉยต่อการสังหารหมู่ของอิสราเอลถือเป็นการมีส่วนร่วมในอาชญากรรมนี้" เขากล่าว พร้อมเตือนว่าอิสราเอลกำลังคุกคามเสถียรภาพของภูมิภาค และเสริมว่า "อิสราเอลเป็นรัฐแห่งการก่อการร้าย ไม่สามารถเรียกด้วยชื่ออื่นได้"

   เออร์โดกันกล่าวว่าทางออกเพียงทางเดียวจากวิกฤตในกาซาคือทางออกแบบสองรัฐ เขายังเรียกร้องให้สหภาพยุโรปกำจัด "ภาระ" ของตน และยืนยันว่าประเทศของเขาต้องได้เข้าร่วมกลุ่มในฐานะสมาชิกเต็มรูปแบบ "โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

    นายโอมาร์ อาวาดัลลาห์ รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปาเลสไตน์ กล่าวว่าจำเป็นต้องมีแผนการฟื้นฟูสำหรับกาซา ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีของอิสราเอล "ประชาคมระหว่างประเทศมีหน้าที่ต้องยุติการรุกรานประชาชนปาเลสไตน์" เขากล่าว อย่างไรก็ตาม เขายังเรียกร้องให้รัฐอาหรับและประชาคมอิสลามรวมตัวกันสนับสนุนปาเลสไตน์เพื่อเสนอแนวทางต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการมีส่วนร่วมของทำเนียบขาวจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุสันติภาพ เนื่องจากอิทธิพลที่มีต่ออิสราเอล "เราต้องการโอกาสในการแก้ไขปัญหานี้" อาวาดัลลาห์กล่าว

    ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ กล่าวว่าจำเป็นต้องแก้ไขความขัดแย้งอย่างเร่งด่วน เนื่องจากพลเรือนในพื้นที่ปิดล้อมกำลังทนทุกข์ทรมานภายใต้สภาพที่ไร้มนุษยธรรม เด็กหลายสิบคนเสียชีวิต และมีรายงานว่าอีกนับไม่ถ้วนเสียชีวิตจากบาดแผลหรือโรคที่สามารถป้องกันได้ "จีนได้พยายามส่งเสริมขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมไปสู่ทางออกแบบสองรัฐ หากเราต้องการให้ทางออกแบบสองรัฐเกิดขึ้นจริง เราจำเป็นต้องเรียกร้องให้มีประเทศเข้าร่วมมากขึ้น และสหประชาชาติควรให้การยอมรับ" นายไจ จุน ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลจีนด้านประเด็นตะวันออกกลางกล่าว "ผมหวังว่าเราจะสามารถนำทางออกแบบสองรัฐไปปฏิบัติและทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้" เขากล่าว

    นายไจกล่าวกับนิตยสาร This Week in Asia หลังจากการอภิปรายว่าเขามีความหวังว่าสหประชาชาติจะยอมรับปาเลสไตน์เป็นรัฐสมาชิก โดยเสริมว่าสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้ผ่านมติเกี่ยวกับการรับปาเลสไตน์เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบแล้ว

---

IMCT NEWS Photo: Facebook/ @  Antalya Diplomasi Forumu

ที่มา https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3306245/world-leaders-urge-global-south-inclusion-amid-us-china-tensions-and-gaza-conflict?module=top_story&pgtype=section

---------------------------

ไม่ง้อ 'ทรัมป์'! 'สี จิ้นผิง' มุ่งสร้างความร่วมมือกับสเปน ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐฯ

12-4-2025

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ระบุกับนายกรัฐมนตรีสเปน เปโดร ซานเชช ว่าจีนกับสเปนจำเป็นต้องมีความร่วมมือกัน โดยไม่พูดถึงการเจรจากับสหรัฐฯ

จีนเรียกร้องให้ประเทศตะวันตกทำงานเพื่อสนับสนุนความร่วมมือพหุภาคีและความร่วมมือที่เปิดกว้าง ขณะที่ปักกิ่งพยายามเกลี้ยกล่อมพันธมิตรให้ร่วมต่อสู้เรื่องภาษีศุลกากรกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

สี จิ้นผิงกล่าวกับซานเชซที่บ้านพักรับรองแขกในกรุงปักกิ่ง ตามรายงานการประชุมของสำนักข่าวซินหัวอย่างเป็นทางการว่า “ทั้งสองฝ่ายควรส่งเสริมการสร้างระบบการปกครองระดับโลกที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผล รักษาสันติภาพและความมั่นคงของโลก และส่งเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”

การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความซับซ้อนสำหรับยุโรปและจีน ภาษีศุลกากรที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และหยุดชะงักในภายหลัง อาจหมายความว่าสหภาพยุโรปจะแสวงหาการค้ากับจีนมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

ขณะเดียวกัน สี จิ้นผิงไม่ได้พูดถึงทรัมป์โดยตรงหรือภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 145% ที่สหรัฐฯ กำหนด แต่เขากล่าวถึง “ความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ” ที่โลกต้องเผชิญ ซึ่งต้องรับมือได้ด้วย “ความสามัคคีและความร่วมมือ” เท่านั้น

สำหรับซานเชซเดินทางเยือนจีนเป็นครั้งที่สามในรอบสองปี เนื่องจากรัฐบาลของเขาต้องการกระตุ้นการลงทุนจากยักษ์ใหญ่แห่งเอเชียแห่งนี้ นอกจากนี้ เขายังคาดว่าจะได้พบกับผู้นำทางธุรกิจจากบริษัทจีนหลายแห่ง ซึ่งหลายแห่งผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าหรือเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน

หลังพบกับสี จิ้นผิง ซานเชซกล่าวว่า สเปนสนับสนุน “ความสัมพันธ์ที่สมดุลมากขึ้นระหว่างสหภาพยุโรปและจีน การหาทางออกโดยการเจรจาต่อรองต่อความแตกต่างระหว่างเรา ซึ่งเรามีอยู่แล้ว และความร่วมมือที่มากขึ้นในพื้นที่ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน” เขากล่าวเสริมว่า “สงครามการค้าไม่ใช่เรื่องดี ไม่มีใครชนะ และเห็นได้ชัดว่าโลกต้องการทั้งจีนและสหรัฐฯ พูดคุยกัน”

Pilar Alegría โฆษกรัฐบาลสเปน กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าการเดินทางของ Sánchez "มีความสำคัญเป็นพิเศษ" และเป็นโอกาสในการ "กระจายตลาด" ในขณะที่สเปนเผชิญกับภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ

ด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ Scott Bessent เรียกร้องให้สเปนเคลื่อนไหวไปทางจีน โดยกล่าวเมื่อวันอังคารว่า สเปนหรือประเทศใดก็ตามที่พยายามเข้าใกล้จีนมากขึ้น จะ "ทำร้ายตัวเอง" เนื่องจากผู้ผลิตในจีนจะมองหาทางทิ้งสินค้าที่พวกเขาไม่สามารถขายในสหรัฐฯ ได้

ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของสเปน Luis Planas ซึ่งเดินทางไปกับ Sánchez กล่าวในเวียดนามเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (9 เม.ย.) ว่า "การขยายความสัมพันธ์ทางการค้าที่เรามีกับประเทศอื่นๆ รวมถึงพันธมิตรที่สำคัญอย่างจีน ไม่ได้ขัดต่อใคร" และ "ทุกคนต้องปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง"

สำหรับสเปนซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของเขตยูโรและเป็นผู้นำด้านการเติบโต ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อจีนน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป

หลังจากสนับสนุนการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนของสหภาพยุโรปเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากกังวลว่ารถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้จะได้รับผลประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรม สเปนจึงงดออกเสียงในการลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว

Planas ยืนกรานว่าแนวทางของสเปนที่มีต่อจีน "มีส่วนสนับสนุนความพยายามร่วมกันของประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปในการหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้"

แม้ว่าการลงทุนของจีนในสเปนจะเพิ่มมากขึ้น แต่ประเทศในแถบไอบีเรียกลับค้าขายกับจีนน้อยกว่าเยอรมนีหรืออิตาลี

"จุดยืนของสเปนเปลี่ยนไปเป็นสนับสนุนจีนมากขึ้น ... มากกว่าประเทศในยุโรปทั่วไป" Alicia García-Herrero นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจาก Natixis ธนาคารเพื่อการลงทุนของฝรั่งเศสและผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับจีน กล่าว

สเปนเป็นซัพพลายเออร์เนื้อหมูรายใหญ่ให้กับจีน โดยจัดหาเนื้อหมูให้กับจีนประมาณ 20% ของการนำเข้าของจีน ตามข้อมูลของ Interporc ซึ่งเป็นสมาคมผู้ผลิตเนื้อหมูของสเปน

"สำหรับเรา จีนเป็นตลาดหลัก" Daniel de Miguel รองผู้อำนวยการของ Interporc กล่าว

ประเทศทางตอนใต้ของยุโรปซึ่งผลิตไฟฟ้าได้ 56% จากแหล่งพลังงานหมุนเวียนเมื่อปีที่แล้ว ต้องการวัตถุดิบสำคัญจากจีน แผงโซลาร์เซลล์ และเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งคล้ายคลึงกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา (2024) บริษัท CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าของจีนได้ประกาศร่วมทุนมูลค่า 4,100 ล้านยูโร (4,500 ล้านดอลลาร์) กับบริษัทผลิตรถยนต์ Stellantis เพื่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในภาคเหนือของสเปน ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ลงนามเมื่อปีที่แล้วระหว่างสเปนและบริษัท Envision และ Hygreen Energy ของจีนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานไฮโดรเจนสีเขียวในประเทศ

สเปนซึ่งเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดนภาษีนำเข้ารวม 20% ในตอนแรก ซึ่งขณะนี้ทรัมป์ได้ลดลงเหลือ 10% สำหรับประเทศส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่จีนเป็นเวลา 90 วัน นอกจากนี้ สเปนยังต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ 25% สำหรับรถยนต์ เหล็ก และอลูมิเนียม ซึ่งการเยือนของซานเชซได้รับการประกาศก่อนที่รัฐบาลทรัมป์จะเปิดเผยแผนภาษี

ด้านการ์เซีย-เอร์เรโร นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร Natixis ของฝรั่งเศส เน้นย้ำถึงคุณค่าทางการเมืองของการเดินทางครั้งนี้ของซานเชซ ในช่วงที่กลุ่มพันธมิตรฝ่ายซ้ายเสียงข้างน้อยของเขาขาดการสนับสนุนที่จำเป็นในการผลักดันให้ผ่านอะไรหลายๆ อย่างภายในประเทศ และในขณะเดียวกันยุโรปก็อาจกำลังมองหาทางคลายความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับจีน

สำหรับสเปน สิ่งสำคัญคือ “การได้รับตำแหน่งผู้นำในยุโรปในช่วงเวลาที่พันธมิตรข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไม่เพียงตกอยู่ในความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิงอีกด้วย” เธอกล่าว

IMCT News

ที่มา https://apnews.com/article/spain-sanchez-china-tariffs-eu-trade-war-edbd71d8359c86fb01f953728527d0a5