JP Morganห่วงโอกาสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจากภาษีทรัมป์

6-4-2025

   JP Morgan ได้เพิ่มความน่าจะเป็นของภาวะถดถอยทั่วโลกเป็น 60% หลังจากการประกาศเก็บภาษีใหม่ที่ครอบคลุมของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินและเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าทั่วโลก

   "ความเสี่ยงของภาวะถดถอยในเศรษฐกิจโลกในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิม 40%" บรูซ คาสแมน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ JPMorgan เขียนในบันทึกถึงลูกค้าที่มีชื่อว่า "จะต้องมีเลือด" ตามที่ Bloomberg อ้างอิง 

   คาสแมนยังเรียกภาษีนี้ว่าเป็นการขึ้นภาษีครั้งใหญ่ที่สุดต่อครัวเรือนและธุรกิจในสหรัฐนับตั้งแต่ปี 2511 (1968) และเตือนว่าผลกระทบอาจกว้างไกล "ผลกระทบของการขึ้นภาษีนี้มีแนวโน้มจะขยายใหญ่ขึ้น – ผ่านการตอบโต้ ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในสหรัฐที่ลดลง และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน" เขากล่าวเสริม 

    ดัชนีดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 2.16% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดในวันพฤหัสบดี ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม การลดลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะกำหนดภาษีตั้งแต่ 10% ถึง 50% สำหรับสินค้านำเข้าจากหลายสิบประเทศ ซึ่งรายงานระบุว่าได้กระตุ้นให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย 

    คาสแมนอธิบายว่า แม้ "เราจะไม่ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ของเราทันที" แต่การดำเนินนโยบายที่ประกาศไว้อย่างเต็มรูปแบบอาจถูกมองว่าเป็น "การกระทบทางเศรษฐกิจมหภาคครั้งใหญ่"

    "เราจึงเน้นย้ำว่านโยบายเหล่านี้ หากยังคงอยู่ต่อไป มีแนวโน้มที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐและอาจรวมถึงเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้" เขากล่าว 

    Goldman Sachs ได้ปรับมุมมองของตนด้วย โดยเพิ่มความน่าจะเป็นของภาวะถดถอยในสหรัฐในปี 2568 (2025) จาก 20% เป็น 35% โดยอ้างถึงนโยบายใหม่ของสหรัฐ  ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ Deutsche Bank ได้เตือนถึงวิกฤตดอลลาร์ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากภาษีที่กำลังจะมาถึง 

IMCT News

------------------------

กระทรวงต่างประเทศจีนวิจารณ์ภาษีทรัมป์ว่า “ตลาดหุ้นได้พูดแล้ว”

6-4-2025

    กระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า "ตลาดได้พูดแล้ว" หลังจากการกำหนดภาษีใหม่ที่ครอบคลุมของสหรัฐ และเรียกร้องให้ทำเนียบขาวคลายความตึงเครียดจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นผ่าน "การปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียม" 

   ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างหนักเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันศุกร์ โดยดัชนีหลักทั้งสามตัวลดลงมากกว่า 5% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเทขายทั่วโลก 

ความวุ่นวายในตลาดทวีความรุนแรงขึ้นในวันศุกร์ เมื่อกระทรวงการคลังของจีนประกาศว่าจะกำหนดภาษี 34% ต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากสหรัฐ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 

การตอบสนองของปักกิ่งได้เพิ่มความกลัวของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อ ภาวะถดถอย และการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก 

"ตลาดได้พูดแล้ว" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กัว เจียคุน กล่าวในโพสต์บนเฟซบุ๊กเมื่อเช้าวันเสาร์  โดยแชร์ภาพที่อ้างอิงถึงการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐในวันศุกร์ กัวกล่าวว่า "สงครามการค้าและภาษีที่สหรัฐเริ่มต้นต่อโลกนั้นไม่มีเหตุผลและไม่ยุติธรรม" 

เขาเรียกร้องให้ทำเนียบขาวแก้ไขความแตกต่างกับคู่ค้าผ่าน "การปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียม" 

ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธได้ประกาศการเก็บภาษีใหม่ที่ครอบคลุมอย่างกว้างขวางภายใต้นโยบาย "ภาษีตอบแทน" ซึ่งรวมถึงภาษี 10% สำหรับเกือบทุกประเทศและอัตราที่สูงกว่านั้นมากสำหรับหลายประเทศ 

ประธานาธิบดีสหรัฐมุ่งเป้าไปที่จีนด้วยภาษีตอบแทนเพิ่มเติม 34% ทำให้ภาษีรวมของสหรัฐต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกสูงถึง 54% 

ในวันศุกร์ ทรัมป์ดูเหมือนไม่สะทกสะท้านต่อการต่อต้านจากตลาดต่อการเปิดตัวภาษีของเขา โดยโพสต์บน Truth Social ว่า "ธุรกิจขนาดใหญ่" ไม่กังวลเกี่ยวกับภาษี และนโยบายของเขา "จะไม่เปลี่ยนแปลง" 

ที่มา CNBC