ประมวลความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจโลก ปี 1997-2025

ขอบคุณภาพจาก visualcapitalist.com

20-3-2025

    Visualcapitalist เผยแพร่กราฟิกข้อมูลความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี 1997-2025 โดยพบว่าความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2020 เนื่องจากภาษีศุลกากรของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะปรับเทียบห่วงโซ่อุปทานใหม่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จึงเกิดการผันผวนอย่างรุนแรงเพื่อตอบโต้ จนถึงขณะนี้ แคนาดาและยุโรปได้ตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยภาษีศุลกากร ขณะที่ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกกำลังมองหาวิธีกระจายห่วงโซ่อุปทานในขณะที่เตรียมรับมือกับภาษีศุลกากร

     ภาษีศุลกากรของทรัมป์ทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูง จากดัชนีความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจพุ่งขึ้นแตะระดับ 428.9 ในเดือนมกราคม ซึ่งเกือบแตะระดับสูงสุดในปี 2020 โดยวัดจาก 21 ประเทศ โดยถ่วงน้ำหนักตาม GDP

    ขณะที่สงครามการค้าทวีความรุนแรงขึ้น ทรัมป์ได้โจมตีแคนาดา สหภาพยุโรป เม็กซิโก และจีนด้วยภาษีศุลกากร

เมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางการขึ้นภาษีวิสกี้ของสหรัฐฯ จากสหภาพยุโรป 50% ทรัมป์ยังขู่ว่าจะขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากสหภาพยุโรป 200% อีกด้วย ในขณะเดียวกัน ยุโรปกำลังพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้เพิ่มเติมต่อการส่งออกเหล็ก อลูมิเนียม เนื้อวัว และถั่วของสหรัฐฯ

    ด้านผู้ผลิตยานยนต์ของเยอรมนีก็หันไปหาตลาดต่างประเทศนอกเหนือจากสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งสร้างยอดขายสูงสุดให้กับอุตสาหกรรมที่กำลังประสบปัญหาอยู่แล้ว

   เช่นเดียวกับสหภาพยุโรป แคนาดามีแผนที่จะขึ้นภาษีสหรัฐฯ หลังจากเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียม 25% แคนาดาถือเป็นผู้ส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดไปยังสหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่ารวมกัน 16,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 มาตรการตอบโต้เหล่านี้ยังรวมถึงการจัดเก็บภาษี 25% สำหรับเครื่องมือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์กีฬา ซึ่งกำหนดเป้าหมายไว้ที่สินค้าส่งออกของสหรัฐฯ มูลค่า 28,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากการประมาณการ ราคาของรถ SUV ที่ประกอบในอเมริกาเหนืออาจเพิ่มขึ้น 9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากมีการจัดเก็บภาษีแบบเหมารวม 25% จากแคนาดาและเม็กซิโกในข้อพิพาททางการค้าที่ยังคงดำเนินอยู่

IMCT News

ที่มา https://www.visualcapitalist.com/global-economic-policy-uncertainty-1997-2025/