.
![](../image/news/content_20250210093755.jpg)
'ทรัมป์' ลั่น! คุยกับ 'ปูติน' เรื่องยุติสงครามยูเครนแล้ว!
ขอบคุณภาพจาก Newser
10-2-2025
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ อ้างว่าได้พูดคุยเรื่องความขัดแย้งในยูเครนกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียทางโทรศัพท์ แม้เครมลินจะยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งให้คำมั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะยุติความขัดแย้งในยูเครนโดยเร็ว ได้กล่าวคำกล่าวดังกล่าวในการสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ New York Post เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.)
เมื่อถามประธานาธิบดีทรัมป์ว่า ได้ติดต่อกับปูตินกี่ครั้งแล้ว ทรัมป์ตอบว่า “ผมขอไม่บอกดีกว่า”
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่า เขาเชื่อว่าคู่หูของเขาต้องการให้ยุติการสู้รบ
“เขาอยากเห็นผู้คนหยุดตาย” ทรัมป์กล่าว “คนตายทั้งหมดนั้น คนหนุ่มสาวที่สวยงาม พวกเขาเหมือนลูกของคุณ มีถึงสองล้านคน และไม่มีเหตุผลใดๆ” แต่ไม่ชัดเจนว่าเขาใช้ข้อมูลอะไรในการสรุปตัวเลขที่แน่นอน และเขากำลังอ้างถึงกรอบเวลาใด
ตามรายงานของ New York Post ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวโดยมีไมค์ วอลทซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติร่วมอยู่ด้วย ขณะที่เขากล่าวสุนทรพจน์ เขากล่าวว่า “เรามาเริ่มการประชุมกันเถอะ พวกเขาต้องการพบกัน ทุกวันผู้คนกำลังล้มตาย”
ทรัมป์กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขาต้องการพบกับปูตินเพื่อหารือเกี่ยวกับการคลี่คลายวิกฤตยูเครน ซึ่งมอสโกกล่าวว่าเปิดกว้างสำหรับการเจรจา โดยโฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ยืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 ก.พ.) ว่ารัสเซียและสหรัฐฯ มีการติดต่อระหว่าง “แผนกต่างๆ” และว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองแผนกนั้น “เข้มข้นขึ้น” เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทรัมป์กล่าวเสริมว่าเขา “มีความสัมพันธ์ที่ดีกับปูตินมาโดยตลอด” โดยยืนยันว่าหากเขาเป็นประธานาธิบดีในปี 2022 เขาก็จะป้องกันความขัดแย้งในยูเครนได้โดยสิ้นเชิง และตำหนิโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีที่ปล่อยให้เกิดการสู้รบ
แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะยังไม่ได้เปิดเผยแผนสันติภาพต่อสาธารณะ แต่รายงานระบุว่าแผนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการระงับความขัดแย้งตามแนวรบปัจจุบัน การจัดตั้งเขตปลอดทหารที่ทหารยุโรปลาดตระเวน และการระงับยูเครนจากการเข้าร่วม NATO
ขณะที่รัสเซียได้ตัดสินใจไม่ระงับความขัดแย้ง โดยเน้นย้ำว่าการยุติความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นต้องยอมรับ "ความเป็นจริงของอาณาเขตในพื้นที่" และให้เคียฟยึดมั่นต่อความเป็นกลาง การปลดอาวุธ และการกำจัด NATO อย่างถาวร
ฝั่งโฆษกรัฐบาลทำเนียบเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ กล่าวกับสื่อทางการรัสเซีย TASS เกี่ยวกับรายงานของนิวยอร์กโพสต์ว่า “มีการหารือในช่องทางต่าง ๆ เกิดขึ้น” แต่ไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธในเรื่องการหารือระหว่างสองผู้นำได้
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนปีที่แล้ว ปูตินได้ระบุเงื่อนไขการสิ้นสุดสงครามกับยูเครน ที่ให้ยูเครนยุติความมุ่งมั่นในการเข้าร่วมนาโต้ และถอนทหารจาก 4 เขตปกครองในยูเครนที่รัสเซียเข้ายึดครอง ก่อนที่ในเดือนพฤศจิกายน ปูตินจะกล่าวว่าตนเปิดรับการหารือข้อตกลงสันติภาพยูเครนกับทรัมป์ โดยยืนยันเงื่อนไขเดิมที่ต้องการจากยูเครน
ทรัมป์ ได้กล่าวย้ำว่าตนต้องการยุติสงคราม และต้องการพบกับปูตินเพื่อหารือเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีการระบุสถานที่หรือวันเวลาที่จะเกิดขึ้น แต่รอยเตอร์รายงานเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ว่า รัสเซียมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะให้ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศที่จัดการหารือดังกล่าว
อีกด้านหนึ่งในวันศุกร์ ทรัมป์ กล่าวว่าตนอาจพบกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือการยุติสงครามยูเครน แต่ผู้นำยูเครนยังไม่ได้ยืนยันในเรื่องนี้ โดยเซเลนสกี บอกกับรอยเตอร์ว่าทรัมป์ต้องการให้ยูเครนจัดหาสินแร่หายากและแร่ธาตุอื่น ๆ ให้สหรัฐฯ แลกกับความช่วยเหลือทางการเงินในสนับสนุนการเดินหน้าสงครามกับรัสเซีย
ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน เริ่มต้นเมื่อปี 2014 ในการผนวกแหลมไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และเมื่อปี 2022 รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครน โดยระบุว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” เพื่อปกป้องประชาชนที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน และต่อต้านภัยคุกคามในการที่ยูเครนต้องการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้
ด้านยูเครนและพันธมิตรชาติตะวันตก นำโดยสหรัฐฯ กล่าวว่าการส่งทหารบุกยูเครนเป็นการยึดดินแดนแบบจักรวรรดิและประกาศจะต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย
ที่มา: RT, รอยเตอร์