CIA-USAID ใช้กลวิธีรัฐประหาร 'ทรัมป์' อย่างไร?

7-2-2025

    ไมเคิล เชลเลนเบอร์เกอร์ นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานโครงการ Twitter Files ของอีลอน มัสก์ กล่าวอ้างว่าการถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2019 ขับเคลื่อนโดยเจ้าหน้าที่ CIA และ USAID จากการที่ผู้แจ้งเบาะแสที่อยู่เบื้องหลังการโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับโวโลดิมีร์ เซเลนสกีในเดือนกรกฎาคม 2019 ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการสอบสวนการถอดถอนคือนักวิเคราะห์ของ CIA

    RealClearPolitics และ Washington Examiner ระบุก่อนหน้านี้ว่าผู้แจ้งเบาะแสคือ Eric Ciaramella นักวิเคราะห์อาวุโสด้านยูเครนและรัสเซียที่ NSC, CIA และ National Intelligence Council ซึ่งคำร้องเรียนของนักวิเคราะห์นั้นอ้างอิงจากรายงานของโครงการรายงานอาชญากรรมและการทุจริตที่จัดตั้งขึ้น (OCCRP)

     รายงานดังกล่าวกล่าวหาว่านักธุรกิจชาวฟลอริดาที่เกิดในสหภาพโซเวียตสองคนเป็น "ผู้มีบทบาทสำคัญที่ซ่อนอยู่" ในความพยายามของทรัมป์ในการสืบสวนไบเดน และเชื่อมโยงทนายความของทรัมป์ รูดี้ จูลีอานี กับอัยการยูเครนในอดีต

    สำหรับ OCCRP เป็นศูนย์กลางของการเรียกร้องการถอดถอนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครตที่ระบุว่า ทรัมป์ส่งจูลีอานีไปกดดันประเทศต่างประเทศให้แทรกแซงการเลือกตั้งในปี 2020 แต่ OCCCRP ไม่เป็นอิสระ หลังนักข่าวสืบสวนชาวเยอรมันค้นพบเมื่อปีที่แล้ว (2024) ว่า USAID ให้เงินทุนแก่องค์กร ควบคุมการจ้างงาน และดูแลแผนงานขององค์กร

     ขณะเดียวกัน OCCRP มีส่วนร่วมในปฏิบัติการการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองควบคู่ไปกับ USAID และ CIA โดยเปรียบเทียบการถอดถอนทรัมป์กับความพยายามรัฐประหารในอดีต

IMCT News

ที่มา https://sputnikglobe.com/20250206/how-cia--usaid-used-coup-playbook-against-trump--1121542201.html
 

----------------------------------------------
ทรัมป์สั่งระงับ USAID เปิดทางจีนขยายอิทธิพลทั่วโลก

7-2-2025

    เว็บไซต์ของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ผู้ให้ความช่วยเหลือรายใหญ่ที่สุดของโลกต้องปิดตัวลง หลังรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งให้หน่วยงานอิสระแห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการต่างประเทศ โดยนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประกาศตัวเป็นหัวหน้าหน่วยงานเพื่อปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของทรัมป์

     "การยุบ USAID ครั้งนี้เปิดโอกาสให้จีนซึ่งทุ่มเงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯในโครงการโครงสร้างพื้นฐานทั่วเอเชีย แอฟริกา ยุโรป และละตินอเมริกาตั้งแต่ปี 2556 ได้ขยายอิทธิพลทั่วโลกมากขึ้น ส่งผลให้สหรัฐฯ สูญเสียพลังอำนาจละมุน soft power ในเวทีระหว่างประเทศ"

Natasha Lindstaedt is a professor in the Department of Government, University of Essex

    เมื่อวันที่ 26 มกราคม รูบิโอกล่าวว่า การใช้จ่ายงบประมาณ การให้ทุน และการดำเนินนโยบายทุกอย่างต้องตอบคำถามพื้นฐาน 3 ข้อ คือ ทำให้อเมริกาปลอดภัยขึ้นหรือไม่ แข็งแกร่งขึ้นหรือไม่ และเจริญรุ่งเรืองขึ้นหรือไม่

    อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกและที่ปรึกษาใกล้ชิดของทรัมป์ มีบทบาทสำคัญในการยุบ USAID โดยอ้างว่าหน่วยงานนี้ "ซ่อมแซมไม่ได้" และ "ต้องตาย" ทั้งที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน ในฐานะผู้นำกรมประสิทธิภาพรัฐบาล (Doge) ที่ตั้งขึ้นใหม่ มัสก์เตรียมตัดงบประมาณสหรัฐฯ หลายล้านล้านดอลลาร์

    ทั้งนี้ USAID ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั่วโลกถึง 42% ในปี 2024 คิดเป็นมูลค่า 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมหลายด้าน ทั้งการเข้าถึงน้ำสะอาด สุขอนามัย การดูแลสุขภาพ พลังงาน การบรรเทาทุกข์จากภัยพิบัติ ที่พักพิง และอาหาร รวมถึงโครงการสนับสนุนประชาธิปไตย การพัฒนาเศรษฐกิจ และการกำจัดทุ่นระเบิดในเขตสงคราม

    แม้รัฐบาลทรัมป์จะยกเว้นให้ดำเนินการ "ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ช่วยชีวิต" ต่อ รวมถึงโครงการช่วยผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ 20 ล้านคนเข้าถึงยาต้านไวรัส แต่อนาคตของแผนฉุกเฉินของประธานาธิบดีเพื่อการบรรเทาทุกข์โรคเอดส์ (PEPFAR) ยังไม่แน่นอน

     PEPFAR ที่เปิดตัวในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ปี 2546 ช่วยชีวิตผู้คนไปแล้ว 26 ล้านคน มีบุคลากรทางการแพทย์กว่า 250,000 คนใน 55 ประเทศ โดย USAID มีหน้าที่สั่งซื้อและจัดหายาต้านไวรัสให้ผู้ติดเชื้อ HIV

     นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนในการป้องกันการระบาดของไวรัสมพ็อกซ์และมาร์บูร์ก รวมถึงโครงการต่อต้านมาเลเรียที่คร่าชีวิตเด็กต่ำกว่า 5 ขวบปีละ 450,000 คน ทั้งที่ตั้งแต่ปี 2000-2021 USAID ช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากมาเลเรียได้ 7.6 ล้านคน

      ขณะที่ USAID ตอบสนองภัยพิบัติทางธรรมชาติเฉลี่ย 65 ครั้งต่อปี และในปี 2024 ได้จัดการวิกฤต 84 ครั้งใน 66 ประเทศ แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายสิบคนถูกพักงาน ผู้รับเหมาถูกพักงานชั่วคราว และเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในวอชิงตัน ดี.ซี. กว่า 3,000 คน อาจถูกปลดในสัปดาห์นี้

     พรรคเดโมแครตระบุว่า ทรัมป์ไม่มีอำนาจทางกฎหมายยุบหน่วยงานอิสระที่ได้รับงบประมาณจากรัฐสภา พร้อมยื่นฟ้องศาลและขัดขวางการอนุมัติตำแหน่งในกระทรวงการต่างประเทศ จนกว่าจะยกเลิกการระงับการดำเนินงาน หลังจากที่ทรัมป์เคยพยายามตัดความช่วยเหลือต่างประเทศในสมัยแรกแต่ถูกรัฐสภาคัดค้าน

---

IMCT NEWS 

ที่มา https://asiatimes.com/2025/02/usaid-shutdown-isnt-just-a-humanitarian-issue-its-a-gift-to-china/