Ripple ระดมทุน 500 ล้านดอลลาร์ ดันมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 40,000 ล้านดอลลาร์

6-11-2025

  บริษัทริเพิล (Ripple) ซึ่งเป็นบริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ประกาศเมื่อวันพุธว่าได้ระดมทุนเพิ่มจำนวน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าบริษัทล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 ล้านดอลลาร์ การระดมทุนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการเข้าซื้อกิจการหลายครั้ง และในช่วงที่บริษัทกำลังขยายธุรกิจออกไปนอกเหนือจากบริการด้านการชำระเงินเพียงอย่างเดียว

  บริษัทคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลต่างพยายามใช้โอกาสจากสภาพแวดล้อมเชิงบวกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งภาคอุตสาหกรรมมองว่าเป็นผลมาจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และการผ่านกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลฉบับสำคัญที่เรียกว่า GENIUS Act ซึ่งถือเป็นกฎหมายหลักในการกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์

  ริเพิล ซึ่งมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสกุลเงินคริปโต XRP ระบุว่าการระดมทุนรอบนี้นำโดยกองทุนที่บริหารโดยบริษัทในเครือของ Fortress Investment Group, Citadel Securities, Pantera Capital, Galaxy Digital, Brevan Howard และ Marshall Wace

  ในแถลงการณ์ ริเพิลกล่าวว่า “การตัดสินใจรับเงินลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ในรูปแบบหุ้นสามัญใหม่สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าทางกลยุทธ์ของการสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพันธมิตรทางการเงิน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญสอดคล้องกับการขยายชุดผลิตภัณฑ์ทั่วโลกของริเพิล” บริษัทเสริมว่า “เรายังคงอยู่ในปีแห่งการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท”

  โมนิกา ลอง ประธานบริษัทริเพิล ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันพุธว่า บริษัทไม่ได้มีความจำเป็นต้องระดมทุนในขณะนี้ แต่มีความต้องการอย่างมากจากนักลงทุนสถาบันที่ต้องการเข้ามาถือหุ้นในบริษัท เธอกล่าวว่า “เรามองว่าการมีพวกเขาเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และผู้ถือหุ้นจะเป็นประโยชน์ต่อการร่วมกันสร้างอนาคตของริเพิล”

  ริเพิลพยายามวางตำแหน่งตนเองให้เป็นบริษัทฟินเทคที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้กับลูกค้าสถาบันการเงิน เมื่อริเพิลก่อตั้งขึ้นในปี 2012 บริษัทเริ่มต้นจากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินข้ามพรมแดน โดยใช้โทเคน XRP เป็นตัวกลางในการเคลื่อนย้ายสกุลเงินต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว

  นับตั้งแต่นั้นมา ริเพิลได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้านการชำระเงิน และขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ผ่านการเข้าซื้อกิจการเชิงรุก ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา บริษัทระบุว่าได้เข้าซื้อกิจการแล้วทั้งหมดหกแห่ง

  เมื่อปีที่แล้ว บริษัทริเพิล (Ripple) ได้เปิดตัวสเตเบิลคอยน์ของตนเอง ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าผูกกับดอลลาร์สหรัฐและได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ในโลกจริง สเตเบิลคอยน์ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการโอนเงินระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในปีนี้ ริเพิลได้เข้าซื้อกิจการแพลตฟอร์มสเตเบิลคอยน์ที่เน้นตลาดองค์กรชื่อว่า Rail

  นอกเหนือจากธุรกิจด้านการชำระเงินแล้ว ริเพิลยังได้ขยายไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น การดูแลเก็บรักษาสินทรัพย์คริปโต (crypto custody), นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับลูกค้าสถาบัน (prime brokerage) และการบริหารจัดการเงินสดขององค์กร (corporate treasury management)

  โมนิกา ลอง ประธานบริษัทริเพิล กล่าวว่า กลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการของบริษัทมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักด้านการชำระเงินของริเพิล หรือเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ได้ เธอกล่าวว่า “เราจะยังคงมองหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในสองด้านนี้ต่อไป”

  ในขณะที่บริษัทคริปโตอื่น ๆ เช่น Circle ได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว ลองกล่าวว่าริเพิลยังไม่มีแผนจะทำเช่นนั้นในตอนนี้ โดยระบุว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้เห็นบริษัทคริปโตหลายแห่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการเติบโตและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมนี้”

   เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า “อย่างไรก็ตาม ริเพิลยังไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO) ในตอนนี้ เรามีงบดุลและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการเติบโต รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ขนาดใหญ่ เราจะยังคงดำเนินกิจการในฐานะบริษัทเอกชนต่อไป”

   การระดมทุนของริเพิลเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซียังคงมีความผันผวนสูง โดยในสัปดาห์นี้ ราคาบิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของคริปโตหายไปหลายพันล้านดอลลาร์

ที่มา CNBC