ทรัมป์เยือนเอเชีย เดินหน้าฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่อเรือ
ทรัมป์เยือนเอเชีย เดินหน้าฟื้นฟูอุตสาหกรรมต่อเรือสหรัฐฯ ผ่านพันธมิตรญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ หวังสกัดจีนผูกขาดตลาดโลก
28-10-2025
SCMP รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้เริ่มการเดินทางเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือครั้งใหม่ในการ ต่อเรือ (shipbuilding) ร่วมกับ ญี่ปุ่น (Japan) และ เกาหลีใต้ (South Korea) ท่ามกลางข้อพิพาทค่าธรรมเนียมท่าเรือที่ดำเนินอยู่กับ จีน (China) โดยวอชิงตันพยายามหาทางตอบโต้การครอบงำของปักกิ่งใน ภาคส่วนทางทะเล (maritime sector)
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ให้คำมั่นที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมการต่อเรือของตนที่เกือบจะหยุดชะงักผ่าน ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (strategic partnerships) โดยมีพันธมิตรหลักอย่าง ญี่ปุ่น (Japan) และ เกาหลีใต้ (South Korea) ซึ่งเป็นประเทศผู้ต่อเรือรายใหญ่ ให้การตอบรับความคิดริเริ่มนี้อย่างเต็มที่
ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับญี่ปุ่น
ระหว่างการเยือน ญี่ปุ่น (Japan) เป็นเวลาสามวันของ ทรัมป์ (Trump) ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันจันทร์ ทั้งสองประเทศมีแผนจะลงนามในบันทึกข้อตกลง (memorandum) เพื่อร่วมกันยกระดับ ขีดความสามารถในการต่อเรือ (shipbuilding capabilities) ซึ่งรวมถึงการจัดตั้ง คณะทำงาน (working group) ตามรายงานของ The Japan News
รายงานดังกล่าวได้อ้างถึงร่างบันทึกข้อตกลง โดยระบุว่า ข้อตกลงนี้รับทราบว่า “อุตสาหกรรมการต่อเรือที่แข็งแกร่งและสร้างสรรค์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความแข็งแกร่ง และความสามารถในการแข่งขันของภาคส่วนทางทะเล ตลอดจนความยืดหยุ่นทางอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ” แผนดังกล่าวประกอบด้วยความร่วมมือในการลงทุนในอู่ต่อเรือ, การสร้างมาตรฐานการออกแบบและส่วนประกอบของเรือ, การพัฒนาเทคโนโลยี และการเพิ่มประสิทธิภาพการสรรหาและการฝึกอบรมบุคลากร รายงานเสริมว่า ทั้งสองประเทศยังคาดหวังว่า บริษัทต่อเรือจะสามารถดำเนินการซ่อมแซมเรือให้กันและกัน รวมถึงการจัดหาชิ้นส่วนอะไหล่ได้ด้วย
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า "การเยือนของประธานาธิบดีทรัมป์ (President Trump) จะเป็นโอกาสอันดีสำหรับทั้งสองประเทศในการเสริมสร้างพันธมิตรญี่ปุ่น-สหรัฐฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น"
การผนึกกำลังกับเกาหลีใต้เพื่อต่อต้านจีน
สหรัฐฯ ยังได้พัฒนาแผนความร่วมมือด้านการต่อเรือที่คล้ายคลึงกันกับ เกาหลีใต้ (South Korea) โดยมีบริษัทต่อเรือรายใหญ่ของเกาหลีเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อตอบโต้ จีน (China) ในฐานะคู่แข่งทางยุทธศาสตร์
บริษัท HD Hyundai Heavy Industries ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับ Huntington Ingalls ผู้ต่อเรือทางทหารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เพื่อสำรวจการลงทุนร่วมกันและดำเนินการความร่วมมือในโครงการ เรือช่วยรบทางทะเล (naval auxiliary vessel programmes) บริษัทสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์
นาย ชุง กี-ซัน (Chung Ki-sun) ประธานบริษัท HD Hyundai กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ การประชุมสุดยอดผู้นำภาคเอกชน APEC ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง คยองจู (Gyeongju) เมืองชายฝั่งทะเลของเกาหลีใต้ ตามรายงานของสำนักข่าว Yonhap News ว่า “เราตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในวิสัยทัศน์และนโยบายทางทะเลใหม่ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดริเริ่มเพื่อความเป็นมหาอำนาจและความเจริญรุ่งเรืองทางทะเล ซึ่งรวมถึงการสร้างกองเรือยุคหน้า นำโดยกองทัพเรือสหรัฐฯ (US Navy) และการสร้างอู่ต่อเรือใหม่”
ฮุนได (Hyundai) ไม่ใช่บริษัทต่อเรือสัญชาติเกาหลีเพียงรายเดียวที่ต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการขยายตลาดเข้าสู่สหรัฐฯ บริษัทต่อเรือรายใหญ่อีกแห่งคือ Hanwha Ocean ได้แสดงการสนับสนุน การสอบสวนมาตรา 301 (US Section 301 investigation) ของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้าไปที่ภาคส่วนทางทะเลของจีน และได้เข้าซื้อกิจการอู่ต่อเรือ Philly Shipyard ในเมืองฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) รัฐเพนซิลเวเนีย (Pennsylvania) ของสหรัฐฯ
ปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเพิ่มบริษัทในเครือของ Hanwha Ocean ในสหรัฐฯ ห้าแห่ง รวมถึง Philly Shipyard เข้าในบัญชีดำเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม โทษฐานที่ให้ความร่วมมือกับความพยายามของวอชิงตันในการควบคุมภาคส่วนทางทะเลของจีน
ก่อนหน้านี้ในปีนี้ ทรัมป์ (Trump) กล่าวว่าสหรัฐฯ อาจต้องใช้พันธมิตรเพื่อเริ่มต้นอุตสาหกรรมการต่อเรือของตนใหม่ ในข้อตกลงทางการค้าที่ลงนามกับสหรัฐฯ ในช่วงฤดูร้อน ทั้ง ญี่ปุ่น (Japan) และ เกาหลีใต้ (South Korea) ได้ให้คำมั่นสัญญาในการลงทุนครั้งใหญ่ โดย ญี่ปุ่น (Japan) ลงทุน 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมห้าภาคส่วนหลักของอเมริกา รวมถึงการต่อเรือพาณิชย์และการป้องกันประเทศ ขณะที่ เกาหลีใต้ (South Korea) ให้คำมั่นสัญญา 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับภาคส่วนการต่อเรือของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ
ทั้งนี้ ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสมาคมอุตสาหกรรมการต่อเรือแห่งชาติจีน (China Association of the National Shipbuilding Industry) เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ระบุว่า ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ จีน (China) ได้รับคำสั่งต่อเรือใหม่เป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 67.3% ของตลาดโลก ตามมาด้วย เกาหลีใต้ (South Korea) ที่ 22.1% และ ญี่ปุ่น (Japan) ที่ 6.7%
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.scmp.com/economy/global-economy/article/3330484/counter-china-trumps-asia-trip-shore-maritime-alliances-japan-south-korea?module=perpetual_scroll_0&pgtype=article