สหรัฐฯ เล็งซื้อโดรนจากยูเครน ทรัมป์-เซเลนสกี  เปิดดีล $50'000 ล้าน หวังผลิตปีละ 10 ล้านลำ

4-10-2025

   TWZ รายงานว่า ยูเครนเจรจาเชิงลึกขายโดรนหลายล้านลำให้สหรัฐฯ หลังความเชี่ยวชาญในสนามรบกลายเป็นขุมทรัพย์ คณะผู้แทนจาก เคียฟ (Kyiv) ได้เดินทางไปยัง วอชิงตัน (Washington) ในสัปดาห์นี้ เพื่อเจรจารายละเอียดของข้อตกลงครั้งใหญ่อาจมีการซื้อขาย โดรน (drones) จำนวนหลายสิบล้านลำให้กับ สหรัฐอเมริกา (United States) ข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งประธานาธิบดี สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) และประธานาธิบดี ยูเครน โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelensky)

ยูเครน: ผู้นำอาวุธไร้คนขับในสนามรบจริง

หลังจากสงครามเต็มรูปแบบกับ รัสเซีย กินเวลาเกือบ 4 ปี ยูเครน ได้กลายเป็น ผู้นำระดับโลก ในเทคโนโลยี อาวุธไร้คนขับ (uncrewed weapons technology) บางประเภท ความสามารถของ ยูเครน ในการผลิต โดรน ในปริมาณมหาศาล รวมถึงประสบการณ์การใช้งานในการสู้รบจริง จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อ สหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ทหาร ยูเครน ได้นำเสนอความก้าวหน้าล่าสุดของเทคโนโลยี โดรน ให้แก่คู่ค้า สหรัฐฯ รวมถึงข้อเสนอสำหรับ “แบบจำเพาะ, ประสิทธิภาพ และเงื่อนไขการใช้งาน” โดยกระทรวงกลาโหม ยูเครน (MoD) ระบุว่า:

“ทีมอเมริกันรับทราบถึงความเชี่ยวชาญของยูเครนในการพัฒนาอุตสาหกรรมโดรน – ไม่เพียงแต่การผลิต UAVs เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโดรนทางทะเลและระบบหุ่นยนต์ภาคพื้นดินด้วย การเจรจาของทีมเทคนิคนี้เป็นขั้นตอนเตรียมการสำหรับการลงนาม ‘ข้อตกลงดีลโดรน (Drone Deal)’”

กรอบการผลิต 10 ล้านลำต่อปี

เซเลนสกี ระบุว่า ยูเครน กำลังดำเนินการเรื่องการ ส่งออกอาวุธ บางประเภทที่มี ปริมาณเกินความต้องการ (surplus) ซึ่งสามารถสร้าง รายได้เพิ่มเติม ให้กับประเทศ เพื่อนำไปผลิตยุทโธปกรณ์ที่ขาดแคลนในแนวหน้า โดยมีการทำข้อตกลงเบื้องต้นกับ 4 แพลตฟอร์มส่งออกหลัก คือ สหรัฐฯ, ยุโรป, ตะวันออกกลาง, และแอฟริกา

ก่อนหน้านี้ เซเลนสกี เคยเสนอ กรอบงานระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะเกี่ยวข้องกับการ ผลิตโดรนสูงถึง 10 ล้านลำต่อปี โดยมีเงื่อนไขว่าโครงการนี้ จะไม่เริ่มมีผลบังคับใช้จนกว่าสงครามกับรัสเซียจะสิ้นสุดลง

โดรนยูเครน: สิ่งที่สหรัฐฯ ยังตามหลัง

กองทัพ สหรัฐฯ กำลังทดสอบ โดรนโจมตีพิสัยไกลของยูเครน ซึ่ง เคียฟ ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการโจมตี โครงสร้างพื้นฐานน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ยูเครน ได้พัฒนาอาวุธเฉพาะทางหลายรูปแบบ เช่น โดรนทิ้งระเบิด Baba Yaga, โดรน FPV (First-Person View), ยานผิวน้ำไร้คนขับ Magura รวมถึงการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในระบบ โดรน

สหรัฐฯ ซึ่งมักผลิต โดรน ที่ประณีต, ซับซ้อน, และมีราคาสูง แต่มีจำนวนน้อยกว่า ยูเครน มากนั้น ค่อนข้างล้าหลัง ในการพัฒนาและการใช้ โดรน บางประเภทในระดับ ปริมาณมาก (at scale)

แอนดรีย์ เฮิร์ตเซนยุก (Andriy Hyrtseniuk) หัวหน้าคนใหม่ของ Brave1 ซึ่งเป็นศูนย์บ่มเพาะเทคโนโลยีกลาโหมของ ยูเครน กล่าวว่าข้อตกลงนี้จะเป็น “Win-Win (ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย)” โดยชี้ว่า “การร่วมทุนระหว่างบริษัทและทีมงานจากทั้งสองฝ่ายจะช่วยให้เราสร้างสรรค์โซลูชันที่มีประสิทธิภาพและดียิ่งขึ้นไปอีก” การใช้ประโยชน์จาก การผลิตและความเชี่ยวชาญของยูเครน รวมถึง ยุทธวิธีและระบบที่ผ่านการทดสอบในการรบ สามารถช่วยให้ สหรัฐฯ เริ่มต้นอย่างรวดเร็ว ในด้านความสามารถของ โดรน บางประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มี ขีดความสามารถต่ำ

การเปลี่ยนท่าทีของทรัมป์

การเจรจา ดีลโดรน เกิดขึ้นในขณะที่ ทรัมป์ มีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากต่อ รัสเซีย หลังจากล้มเหลวในการหาทางสู่สันติภาพ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีรายงานว่า สหรัฐฯ ได้ตกลงที่จะให้ ข้อมูลข่าวกรองเป้าหมาย แก่ ยูเครน สำหรับการโจมตี โครงสร้างพื้นฐานพลังงานของรัสเซีย ในระยะไกล ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่

นอกจาก ดีลโดรน แล้ว เจ้าหน้าที่ ยูเครน ยังได้หารือถึง โครงการริเริ่มรายการความต้องการที่ได้รับจัดลำดับความสำคัญของยูเครน (PURL) ซึ่งก่อตั้งโดย สหรัฐฯ และ นาโต โดยกลไกนี้ช่วยให้ ยูเครน สามารถซื้ออาวุธ สหรัฐฯ เช่น ขีปนาวุธสำหรับระบบ Patriots และ HIMARS ด้วยเงินทุนจากพันธมิตร นาโต

แม้ว่าการสรุปข้อตกลง ดีลโดรน อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีจนกว่าสงครามจะสิ้นสุด แต่การหารือครั้งนี้เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ว่า ยูเครน ได้ก้าวหน้าไปมากเพียงใดในด้าน อาวุธไร้คนขับ

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.twz.com/news-features/ukraine-deep-in-talks-to-sell-u-s-millions-of-drones