สัดส่วนของดอลลาร์สหรัฐในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลกลดลงต่ำสุดในรอบสามทศวรรษในไตรมาสที่สองของปีนี้

4-10-2025

   กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า ดอลลาร์สหรัฐคิดเป็น 56.3% ของทุนสำรองที่มีการจัดสรรระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ลดลง 1.5 จุดเปอร์เซ็นต์จากไตรมาสก่อนหน้า และเป็นสัดส่วนที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 แม้ว่าสาเหตุหลักจะมาจากการเคลื่อนไหวของค่าเงิน ไม่ใช่การขายโดยตรงจากธนาคารกลางก็ตาม

"ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นตัวผลักดันการลดลงเกือบทั้งหมดของสัดส่วนเงินดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ" นักวิจัยของ IMF ได้แก่ เกล็น เควนเด, เอริน เนฟิว และคาร์ลอส ซานเชซ-มูโยซ เขียนไว้ พวกเขาประเมินว่าประมาณ 92% ของการลดลงมาจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสินทรัพย์

ในช่วงเวลาดังกล่าว ดอลลาร์อ่อนค่าลง 9% เมื่อเทียบกับยูโร, 11% เทียบกับฟรังก์สวิส และ 6% เทียบกับปอนด์สเตอร์ลิง โดยมีสาเหตุมาจากการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐให้ลดดอกเบี้ย และการปรับเปลี่ยนนโยบายภาษีที่เพิ่มการขาดดุล ซึ่งผ่านความเห็นชอบเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ตามรายงานของ IMF

ยอดรวมของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่มีการจัดสรรอยู่ที่ 12.03 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักต่าง ๆ ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นปีที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973 การลดลงครั้งนี้ตัดกับบทบาทดั้งเดิมของดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

รัสเซียได้เร่งความพยายามในการลดการพึ่งพาดอลลาร์และยูโร

หลังจากที่สถาบันการเงินหลายแห่งของรัสเซียถูกตัดออกจากระบบการเงินตะวันตกในปี 2022 ประเทศได้เพิ่มการค้ากับพันธมิตรระหว่างประเทศโดยใช้สกุลเงินประจำชาติของตนเอง แนวโน้มดังกล่าวได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจากสมาชิกกลุ่ม BRICS ซึ่งได้เปลี่ยนไปใช้สกุลเงินอื่นแทนดอลลาร์และยูโรในการชำระเงินระหว่างประเทศ

เศรษฐกิจหลักในกลุ่ม BRICS ได้เริ่มลดการพึ่งพาดอลลาร์แล้ว การใช้อิทธิพลของดอลลาร์เป็นอาวุธผ่านการคว่ำบาตร ทำให้ภาคธุรกิจต้องแสวงหาทางเลือกในการชำระเงินอื่น ๆ   

IMCT News