แนวรบสงครามเทคโนโลยี จีนพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

Thailand
แนวรบสงครามเทคโนโลยี จีนพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางวิจัยและนวัตกรรม AI
1-10-2025
Newsweek รายงานว่า บริษัทพัฒนา AI ชั้นนำของจีน iFLYTEK ได้เปิดเผยว่าบริษัทสามารถพัฒนา large language model (LLM) เทียบเคียง ChatGPT ได้สำเร็จ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาชิปจาก Nvidia อีกต่อไป หลังประสบปัญหาถูกสหรัฐฯ ใส่บัญชีดำและห้ามเข้าถึงเทคโนโลยีชิป AI มาตั้งแต่ยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ในปี 2019 และต่อเนื่องกับมาตรการควบคุมใหม่ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น.
Chen Cheng ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายซอฟต์แวร์ AI แปลภาษา iFLYTEK ยืนยันว่าบริษัทและหลายองค์กรในจีน—เช่น Huawei—สามารถพัฒนาและนำชิป Ascend มาทดแทน Nvidia ในการเทรน LLM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันโมเดล Spark ของ iFLYTEK สามารถทำงานเชิงภาษาขั้นสูง ตอบโจทย์ AI แปลภาษา/ให้คำปรึกษาอัตโนมัติ และตรวจข้อสอบด้วย AI ที่เปิดใช้งานจริงทั่วประเทศ.
แม้ตลาด AI โลกเคยมองว่า “ชิปอเมริกัน” เป็นหัวใจของความสำเร็จ แต่มาตรการคว่ำบาตรล่าสุดกลับเป็นแรงผลักให้จีนสร้างระบบเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ของตนเอง นักวิจัยจาก Oxford ระบุว่า “แม้สหรัฐฯ จะหยุดขายของดีที่สุดให้จีน ก็ไม่ได้หมายความว่าจีนจะตามไม่ทัน” อุตสาหกรรมชิปจีนยังต้องพัฒนาเน้นประสิทธิภาพ หน่วยความจำ และระบบซอฟต์แวร์ให้สมบูรณ์เทียบเคียงแพลตฟอร์มชื่อดังระดับโลก เช่น CUDA/PyTorch แต่ผู้เล่นหลักอย่าง Huawei, Alibaba, Baidu, Cambricon, DeepSeek เดินหน้าผลิตชิปและโมเดล LLM ที่มีสมรรถนะใกล้เคียงชิปชั้นนำตะวันตกขึ้นเรื่อยๆ.
นอกจากนี้ ภาคนโยบายจีนยังดันโครงการอุตสาหกรรมหมื่นล้าน ทั้งการอุดหนุน นโยบายภาษี และตลาดส่งออกใหม่ เพื่อลดจุดเปราะบางจากการพึ่งตลาดสหรัฐฯ เห็นได้จากกลุ่ม EV, แบตเตอรี่, โดรน, เซลล์แสงอาทิตย์ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไอที-ดิจิทัลทั่วประเทศ.
ในขณะที่บริษัทสหรัฐฯ เช่น Nvidia ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายชิปรุ่น H20 ให้จีนในบางกรณี แต่แนวโน้ม “จีนพึ่งจีน” ยังคงแข็งแกร่ง นักวิเคราะห์ย้ำว่ากลยุทธ์นี้จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันจีนในเทคโนโลยีแห่งอนาคต รวมถึงลดความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในสมรภูมิเทคโนโลยีโลก.
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/china-nvidia-technology-war-ai-chips-10801935
© Copyright 2020, All Rights Reserved