แผนกาซาของทรัมป์คือ 'แบบร่างของอิสราเอล' เพื่อกวาดล้างสิทธิของชาวปาเลสไตน์: ผู้นำอันซารุลลอฮ์ เยเมน

3-10-2025

   ผู้นำขบวนการต่อต้านอันซารุลลอฮ์ของเยเมนกล่าวว่าแผนการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์สำหรับฉนวนกาซาหลังสงครามนั้นแท้จริงเป็น “แบบร่างของอิสราเอล” เพื่อกวาดล้างสิทธิของชาวปาเลสไตน์และครอบงำภูมิภาคนี้

“แผนนี้ถูกส่งไปยัง [นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน] เนทันยาฮูเป็นครั้งแรก เพื่อเพิ่มข้อกำหนดบางอย่างให้สอดคล้องกับข้อเรียกร้องทั้งหมดของระบอบไซออนิสต์” อับดุลมาลิก อัล-ฮูธี กล่าวในคำปราศรัยทางโทรทัศน์เมื่อวันพฤหัสบดีช่วงเย็น

   เขากล่าวเพิ่มเติมว่าแผนของทรัมป์มุ่งที่จะลิดรอนสิทธิของชาวปาเลสไตน์ ตอกย้ำการครอบงำของอิสราเอล และเปลี่ยนภูมิภาคให้เป็นฐานทัพไซออนิสต์

   อัล-ฮูธีระบุว่า ภายใต้แผนนี้ ไม่มีการวางแผนให้ชาวปาเลสไตน์มีอำนาจอธิปไตยเหนือฉนวนกาซา และแม้แต่ชื่อ “รัฐปาเลสไตน์” ก็ไม่ได้รับการยอมรับ แม้แต่ในเชิงสัญลักษณ์

   ทำเนียบขาวประกาศแผนการซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีในฉนวนกาซา แลกเปลี่ยนนักโทษอิสราเอลที่ถูกฮามาสจับกับชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ในคุกอิสราเอล และถอนกำลังของอิสราเอลออกจากกาซาอย่างเป็นขั้นตอน

   ตามข้อเสนอ ฮามาสจะต้องปลดอาวุธ และสหรัฐฯ จะร่วมมือกับพันธมิตรชาวอาหรับและนานาชาติเพื่อตั้ง “กองกำลังรักษาความมั่นคงระหว่างประเทศชั่วคราว”

   แผนนี้ยังระบุว่าฮามาสจะไม่มีบทบาทในการบริหารฉนวนกาซา และแทนที่จะเป็นเช่นนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารที่ควบคุมโดยสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ โดยไม่รวมถึงองค์การปกครองปาเลสไตน์ที่ตั้งอยู่ในเวสต์แบงก์ ตามที่ผู้นำเยเมนกล่าว

“อิสราเอลในแผนนี้ได้เรียกร้องให้ปลดอาวุธกองกำลังต่อต้านและขับไล่นักรบออกจากกาซา ข้อกำหนดเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเปลี่ยนกาซาให้กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการต่อต้าน” ฮูธีเตือน

   ผู้นำอันซารุลลอฮ์อ้างถึงประวัติศาสตร์อาณานิคมของสหราชอาณาจักรในปาเลสไตน์ โดยกล่าวว่า เช่นเดียวกับที่สหราชอาณาจักรส่งมอบปาเลสไตน์ให้แก่ไซออนิสต์ สหรัฐฯ ก็กำลังทำซ้ำรูปแบบนี้ในตอนนี้

    เขายังเน้นย้ำว่า การที่ทรัมป์รับรอง “อัลกุดส์” เป็น “เมืองหลวง” ของระบอบอิสราเอลนั้นถือเป็นหนึ่งในอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์และชาติอิสลามโดยรวม

   เขายังเตือนว่าสหรัฐฯ กำลังพยายามให้ประเทศอาหรับเข้าร่วมในโครงการรักษาความมั่นคงของระบอบอิสราเอล

“ทรัมป์เรียกร้องอย่างชัดเจนให้ประเทศอาหรับรับผิดชอบในการปลดอาวุธกองกำลังต่อต้านของปาเลสไตน์ และภารกิจที่น่าอับอายนี้ถือเป็นการทรยศต่อชาวปาเลสไตน์” ฮูธีเตือน

   ในการกล่าวถึงการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในกาซาซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 ผู้นำเยเมนย้ำว่า แม้การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งที่ 80 จะจบลงแล้ว และมีการประณามทั่วโลก แต่ระบอบอิสราเอลยังคงดำเนินแคมเปญความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์

   เขาเสริมว่าการกระทำโหดร้ายเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสหรัฐฯ พร้อมกับความ “เงียบงันอันน่าอับอาย” จากรัฐบาลอาหรับและอิสลาม

“เด็ก ๆ ในกาซาได้กลายเป็นวีรชน หรือกำลังทนทุกข์จากความอดอยาก หรือถูกคุกคามท่ามกลางเพลิงระเบิด ศัตรูไซออนิสต์ภูมิใจในการโจมตีผู้หญิงและเด็ก เหตุการณ์อันป่าเถื่อนเหล่านี้คือทั้งความสุขและการแสดงอำนาจของพวกเขา” เขากล่าวเพิ่มเติม

“สิ่งที่เกิดขึ้นในกาซานั้นเกินกว่าจะบรรยายได้ และต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความรับผิดชอบยังคงมีอยู่ในโลก” ฮูธีเน้นย้ำ พร้อมกล่าวว่าการเพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในกาซาคือการทรยศต่อมนุษยชาติและความเป็นจริงของภูมิภาคนี้ พร้อมผลร้ายแรงต่อชาติอิสลาม

    อ้างถึงกองเรือช่วยกาซาที่มุ่งหน้าไปยังกาซา ฮูธีอธิบายว่าการเคลื่อนไหวนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของความเป็นเอกภาพระดับโลกกับปาเลสไตน์

“นี่คือความพยายามครั้งที่ 38 ของนักเคลื่อนไหวในการทำลายการล้อมกาซา แม้จะมีอันตราย พวกเขาก็ออกเดินทางด้วยเป้าหมายที่จะส่งความช่วยเหลือไปยังประชาชนผู้ถูกกดขี่ในกาซา แต่เหมือนครั้งก่อน ๆ ระบอบอิสราเอลโจมตีเรือ จับกุมนักเคลื่อนไหว และยึดความช่วยเหลือทั้งหมด”

   หัวหน้าขบวนการอันซารุลลอฮ์กล่าวว่า กองเรือช่วยกาซาได้ประสบความสำเร็จในการเปิดเผยหน้าตาที่แท้จริงของระบอบอิสราเอลและดึงความสนใจของโลกไปสู่ความทุกข์ทรมานของชาวปาเลสไตน์

    “ผ่านการกระทำของพวกเขา นักเคลื่อนไหวเหล่านี้ได้ทิ้งข้อแก้ตัวใด ๆ ไว้ให้แก่ชาติอิสลามและโลกไม่ได้” ฮูธีเสริม

   กองกำลังเยเมนได้ดำเนินปฏิบัติการยิงขีปนาวุธและโดรนหลายร้อยครั้งต่อระบอบอิสราเอลจนถึงปัจจุบัน เป็นข้อความโดยตรงถึงเทลอาวีฟว่า พวกเขาจะยังคงดำเนินการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนจนกว่าสงครามในกาซาจะยุติลงและการล้อมจะถูกยกเลิก

   พวกเขาเน้นว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญที่กว้างขึ้นเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ซึ่งต้องเผชิญกับการทิ้งระเบิดอย่างไม่หยุดหย่อนหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งคร่าชีวิตผู้คนหลายพัน รวมถึงผู้หญิงและเด็กด้วย

ที่มา Press TV