.

อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้ฐานทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์และอิรัก กาตาร์ประณามละเมิดอธิปไตย
24-6-2025
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อิหร่านได้เปิดปฏิบัติการตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธหลายลูกโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์และอิรัก ภายใต้ชื่อปฏิบัติการว่า “ข่าวดีแห่งชัยชนะ” (Good News of Victory) ตามรายงานจากสำนักข่าวของอิหร่าน ได้แก่ Tasnim, IRNA และสถานีโทรทัศน์รัฐ IRIB
มีรายงานจากสื่ออิสราเอล Kan ว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 6 ลูก โดยมากกว่า 5 ลูกถูกยิงไปยังฐานทัพอัล-อูเดด (Al Udeid Air Base) ซึ่งเป็นฐานทัพสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ส่วนอีก 1 ลูกถูกยิงไปยังฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก
ผู้สื่อข่าว Sputnik รายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ตอนเหนือของกรุงโดฮา เมืองหลวงกาตาร์ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในบ้านเรือน พร้อมได้ยินเสียงระเบิดดังคล้ายกับการโจมตีด้วยอาวุธ
ทางด้าน CNN รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่า กำลังติดตามขีปนาวุธหลายลูกที่ยิงมาจากอิหร่านไปยังฐานทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์และอิรักอย่างใกล้ชิด
สื่อ N12 ของอิสราเอลรายงานเพิ่มเติมว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธหนึ่งลูกไปยังฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของฐานทัพอัล-อาซัด (Al-Asad Airbase) ในอิรักถูกเปิดใช้งานเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากการโจมตีของอิหร่าน
กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีฐานทัพอัล-อูเดดโดยกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) โดยระบุว่าเป็นการละเมิดอธิปไตย น่านฟ้า และกฎหมายระหว่างประเทศของกาตาร์อย่างชัดเจน
แถลงการณ์ระบุว่า กาตาร์ขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้โดยตรงอย่างเหมาะสมกับลักษณะและขนาดของการรุกรานครั้งนี้ และยืนยันจะปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
ก่อนหน้านี้ กาตาร์ได้ปิดน่านฟ้าชั่วคราวเพื่อป้องกันความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ขณะที่สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และจีนได้ออกคำเตือนให้พลเมืองในกาตาร์อยู่ในที่ปลอดภัย
ฐานทัพอัล-อูเดดตั้งอยู่ในกาตาร์ เป็นฐานทัพสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีทหารประจำการประมาณ 10,000 นาย และเป็นสำนักงานใหญ่ของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (US Central Command หรือ CENTCOM) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติการทางทหารในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายนิวเคลียร์ของอิหร่านในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคและทำให้หลายประเทศในอ่าวเปอร์เซียเตรียมพร้อมรับมือกับความขัดแย้งที่อาจขยายวงกว้างขึ้น
---
IMCT NEWS
ที่มา https://sputnikglobe.com/20250623/explosions-reported-in-qatars-capital-1122326864.html
-----------------------
อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ที่กาตาร์ ตอบโต้การโจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์สหรัฐฯ
24-6-2025
Al Jazeera รายงานว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้ฐานทัพอัล-อูเดดในกาตาร์ กองทัพสหรัฐฯ ไม่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฐานทัพอากาศอัล-อูเดด (Al Udeid Air Base) ในกาตาร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำลังสหรัฐฯ ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตอบโต้จากอิหร่าน หลังจากที่เตหะรานประกาศจะตอบโต้การโจมตีเป้าหมายนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ โดยทางการกาตาร์ระบุว่าขีปนาวุธถูกสกัดกั้นได้สำเร็จ
กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (Islamic Revolutionary Guard Corps หรือ IRGC) ยืนยันอย่างเป็นทางการผ่านสำนักข่าว Tasnim ว่าเป็นผู้ยิงขีปนาวุธตอบโต้ฐานทัพอัล-อูเดดในปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า “Annunciation of Victory
เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ เปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters ว่าฐานทัพอัล-อูเดดเป็นฐานทัพสหรัฐฯ แห่งเดียวที่ถูกโจมตีในครั้งนี้ และไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นใดๆ ที่ฐานทัพซึ่งตั้งอยู่ใกล้กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า “ฐานทัพอัล-อูเดดถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธระยะสั้นและระยะกลางที่ยิงมาจากอิหร่านในวันนี้”
“ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อมีความชัดเจน”
ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ มีการมองเห็นกระสวยไฟ (flares) ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งในตอนแรกยังไม่แน่ชัดว่านี่เป็นการทำงานของระบบตรวจจับและสกัดขีปนาวุธ หรือเป็นขีปนาวุธที่ยิงขึ้น นอกจากนี้ยังได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ กระทรวงกลาโหมกาตาร์ออกแถลงการณ์ว่า ระบบป้องกันทางอากาศของกาตาร์สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธที่ยิงมายังฐานทัพอัล-อูเดดได้สำเร็จ
กระทรวงกลาโหมกาตาร์ระบุว่า “เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บใดๆ เกิดขึ้น และเป็นผลจากความระมัดระวังของกองกำลังติดอาวุธและมาตรการป้องกันที่เข้มงวด”
อาลี ฮาชิม (Ali Hashem) ผู้สื่อข่าว Al Jazeera รายงานจากกรุงเตหะรานว่า “ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการตอบโต้ของอิหร่านต่อฐานทัพสหรัฐฯ ในอ่าวเปอร์เซีย”
“ในขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าการโจมตีจะดำเนินต่อเนื่องนานแค่ไหน หรือเป็นเพียงการโจมตีครั้งเดียว” ฮาชิมกล่าว พร้อมเสริมว่า “ไม่มีใครรู้ว่านี่จะเป็นข้ออ้างให้สหรัฐฯ ตอบโต้หรือขยายความขัดแย้งหรือไม่”
ฮาชิมยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่านี่อาจเป็นการโจมตีที่มีการวางแผนล่วงหน้า โดยสหรัฐฯ ได้รับแจ้งล่วงหน้าเหมือนกรณีปี 2020 ที่อิหร่านตอบโต้การสังหารนายพลกัสเซ็ม โซไลมานี (Qassem Soleimani) และอิหร่านก็ทราบล่วงหน้าถึงการโจมตีที่ฟอร์โด (Fordow) แต่ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงการคาดเดา และถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านออกแถลงการณ์ว่า การยิงขีปนาวุธตอบโต้ฐานทัพอัล-อูเดดเกิดขึ้นห่างไกลจากพื้นที่อยู่อาศัยในกาตาร์
“การปฏิบัติการนี้ไม่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศมิตรและพี่น้องอย่างกาตาร์และประชาชนผู้มีเกียรติของกาตาร์ และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านยังคงยึดมั่นในการรักษาความสัมพันธ์อันอบอุ่นและประวัติศาสตร์กับกาตาร์” แถลงการณ์ระบุ
อิหร่านและกาตาร์มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นในฐานะประเทศพี่น้อง รัฐบาลกาตาร์ได้ประณามการโจมตีของอิสราเอลและสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน แต่ก็ประณามการโจมตีฐานทัพในกาตาร์ว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน
ดอร์ซา จับบารี (Dorsa Jabbari) ผู้สื่อข่าว Al Jazeera รายงานจากกรุงโดฮาว่า “ประชาชนที่นี่ไม่เคยประสบกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน จึงเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและน่าตกใจมาก”
“แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่านี่ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายประชาชนพลเรือน แต่เป็นข้อความชัดเจนถึงรัฐบาลและกองทัพสหรัฐฯ ว่าอิหร่านมีความสามารถในการโจมตีโดยตรงต่อกำลังทหารสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง” จับบารีกล่าว
“ตอนนี้ขึ้นอยู่กับสหรัฐฯ ว่าจะเลือกเดินหน้าความขัดแย้งนี้ต่อไปหรือไม่ หรือจะใช้โอกาสนี้เป็นทางออกในการลดความตึงเครียด” เธอกล่าวเสริม
คิมเบอร์ลี ฮัลเก็ตต์ (Kimberly Halkett) ผู้สื่อข่าว Al Jazeera รายงานจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อยู่ในห้องสถานการณ์ (Situation Room) ของทำเนียบขาวในขณะนี้
เดิมทีมีแผนให้รับฟังบรรยายสรุปด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) แต่ต้องเปลี่ยนสถานที่เนื่องจากเหตุการณ์โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในกาตาร์
“เราทราบว่าสหรัฐฯ ได้รับแจ้งล่วงหน้าถึงการโจมตีนี้ จึงสามารถแจ้งเตือนประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ฐานทัพอัล-อูเดดได้ทันเวลา ทำให้สามารถเปลี่ยนเส้นทางการบินและลดความสูญเสียได้” ฮัลเก็ตต์กล่าว
รายงานจากทำเนียบขาวระบุว่า การโจมตีฐานทัพครั้งนี้ถูกออกแบบให้มีจำนวนขีปนาวุธเทียบเท่ากับการโจมตีของสหรัฐฯ
“อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เตือนอิหร่านไม่ให้ดำเนินการนี้ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว” ฮัลเก็ตต์กล่าว
สถานทูตสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรในกาตาร์ได้ออกแถลงการณ์แนะนำให้ประชาชนในกาตาร์อยู่ในที่ปลอดภัยจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม ขณะที่กาตาร์ได้ปิดน่านฟ้าชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยว
ประเทศที่มีทหารสหรัฐฯ ประจำการมากที่สุด ได้แก่ กาตาร์ บาห์เรน คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย ฐานทัพเหล่านี้เป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับปฏิบัติการทางอากาศและทางทะเล การขนส่งในภูมิภาค การรวบรวมข่าวกรอง และการแสดงกำลัง
ประเทศในอ่าวเปอร์เซียหลายแห่ง เช่น กาตาร์ คูเวต บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศปิดน่านฟ้าของตนเอง
ฐานทัพอัล-อูเดดเป็นฐานทัพสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ก่อตั้งขึ้นในปี 1996 มีพื้นที่กว่า 24 เฮกตาร์ (60 เอเคอร์) รองรับเครื่องบินรบเกือบ 100 ลำ รวมถึงโดรน ฐานทัพนี้มีทหารประมาณ 10,000 นาย และเป็นสำนักงานใหญ่ของกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (US Central Command หรือ CENTCOM) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน
---
IMCT NEWS
ที่มา https://aje.io/626cbc
----------------------------------------
ทรัมป์ประกาศกรอบเวลาหยุดยิง ยุติสงครามอิสราเอล-อิหร่าน
24-6-2025
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกรอบเวลาหยุดยิงซึ่งเขาระบุว่าจะยุติสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านได้ “โดยตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผน—ซึ่งจะเป็นไปตามนั้น —ผมขอแสดงความยินดีกับทั้งสองประเทศ อิสราเอลและอิหร่าน ที่มีทั้งความอดทน ความกล้าหาญ และสติปัญญาในการยุติสงคราม ซึ่งควรถูกเรียกว่า ‘สงคราม 12 วัน’” ทรัมป์เขียนบน Truth Social
ทรัมป์ยังได้ขอบคุณอิหร่านที่แจ้งเตือนล่วงหน้าถึงการโจมตีฐานทัพอากาศอัลอุเดดของสหรัฐฯ ในกาตาร์ “การแจ้งเตือนล่วงหน้านี้ทำให้ไม่มีใครเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ” เขาเขียนในโซเชียลมีเดีย
การวิเคราะห์ดังกล่าวมีส่วนช่วยให้สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงโดฮาตัดสินใจยกเลิกคำสั่งให้อยู่ในที่ปลอดภัย (shelter-in-place) ซึ่งได้ออกไว้ก่อนการโจมตี
กาตาร์เปิดน่านฟ้าพลเรือนอีกครั้งเพียง 6 ชั่วโมงหลังการโจมตี ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความหวังว่าอิหร่านจะจำกัดการตอบโต้ต่อการโจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของตนโดยสหรัฐฯ ไว้เพียงแค่การยิงขีปนาวุธเท่านั้น
ในทำนองเดียวกัน ราคาน้ำมันลดลง เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลหลังจากหลายวันที่มีความเสี่ยงว่าสงครามอาจขยายวงกว้างจนส่งผลให้เรือบรรทุกน้ำมันหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินเรือสำคัญอย่างช่องแคบฮอร์มุซ
กองทัพอิหร่านได้อวดอ้างผ่านสื่อของรัฐเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า การยิงขีปนาวุธครั้งนี้เป็น “การโจมตีที่ทรงพลังและสร้างความเสียหายอย่างหนัก” ต่อฐานทัพอัลอุเดด ซึ่งมีทหารประจำการราว 10,000 นาย
ที่มา ซีเอ็นบีซี