แวนซ์'วิจารณ์เดนมาร์กล้มเหลวในการปกป้องดินแดนจากจีน-รัสเซีย ทรัมป์ย้ำ "สหรัฐฯต้องมีกรีนแลนด์"

30-3-2025

    รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจ.ดี. แวนซ์ ได้กล่าวโจมตีเดนมาร์กระหว่างการเยือนกรีนแลนด์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเดนมาร์กไม่ได้ทำหน้าที่ได้ดีในการปกป้องดินแดนกึ่งปกครองตนเองและประชาชนของกรีนแลนด์ให้ปลอดภัยจากการรุกล้ำของจีนและรัสเซีย พร้อมกับให้คำมั่นเคารพอธิปไตยของกรีนแลนด์และขอให้ประชาชนในพื้นที่พิจารณาร่วมมือกับสหรัฐฯ

## สหรัฐฯ ต้องการขยายบทบาทในอาร์กติก

แวนซ์กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่มีแผนเร่งด่วนที่จะขยายกำลังทหารบนพื้นดินในกรีนแลนด์ แต่จะเพิ่มการลงทุนในทรัพยากรต่างๆ รวมถึงเรือรบเพิ่มเติม

"เดนมาร์กไม่ได้ก้าวให้ทันและไม่ได้ทุ่มเททรัพยากรที่จำเป็นเพื่อรักษาฐานทัพนี้ เพื่อดูแลกำลังทหารของเรา และในความเห็นของผม เพื่อปกป้องประชาชนของกรีนแลนด์จากการรุกล้ำที่ก้าวร้าวอย่างมากของรัสเซีย จีน และประเทศอื่นๆ" แวนซ์กล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรุกล้ำที่กล่าวถึง

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวว่ารัสเซีย จีน และประเทศอื่นๆ กำลัง "ให้ความสนใจเป็นพิเศษ" ในเส้นทางผ่านอาร์กติก เส้นทางเดินเรือ และแร่ธาตุในภูมิภาคนี้ และสหรัฐฯ จะเพิ่มการลงทุนในทรัพยากรต่างๆ รวมถึงเรือรบและเรือตัดน้ำแข็งทางทหาร ซึ่งจะมีการปรากฏตัวมากขึ้นในพื้นที่

## ปฏิกิริยาจากกรีนแลนด์และเดนมาร์ก

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีนแลนด์กล่าวว่าการเยือนของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณถึง "การขาดความเคารพ" และเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีท่ามกลาง "แรงกดดันจากภายนอก"

ด้านกษัตริย์เฟรเดอริกแห่งเดนมาร์ก ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า "เราอยู่ในความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความรักที่ผมมีต่อกรีนแลนด์และความผูกพันของผมที่มีต่อประชาชนกรีนแลนด์ยังคงเหมือนเดิม"

รองประธานาธิบดีแวนซ์ได้กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการเยือนฐานทัพทหารสหรัฐที่พิตุฟฟิก ทางตอนเหนือของเกาะอาร์กติก ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีการนำเสนอรัฐบาลผสมชุดใหม่ที่มีเป้าหมายรักษาความสัมพันธ์กับเดนมาร์กไว้ในเมืองหลวงนุก

ไม่นานหลังจากเดินทางมาถึง เขาได้ทักทายสมาชิกกองกำลังสหรัฐฯ พร้อมขอบคุณพวกเขาสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ที่ฐานทัพห่างไกลซึ่งตั้งอยู่ห่างจากวงกลมอาร์กติกไปทางเหนือ 1,200 กิโลเมตร (750 ไมล์) โดยอุณหภูมิภายนอกที่พิตุฟฟิกในขณะนั้นอยู่ที่ -19 องศาเซลเซียส (-3 องศาฟาเรนไฮต์)

แวนซ์ยังให้คำมั่นว่าประชาชนของกรีนแลนด์จะมี "สิทธิในการกำหนดชะตากรรมของตนเอง" และสหรัฐฯ จะเคารพในอธิปไตยของกรีนแลนด์

"เราหวังว่าพวกเขาจะเลือกเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา เพราะเราเป็นประเทศเดียวในโลกที่จะเคารพอธิปไตยและความมั่นคงของพวกเขา เพราะความมั่นคงของพวกเขาคือความมั่นคงของเรา" แวนซ์กล่าว

## ทรัมป์ย้ำความสำคัญของกรีนแลนด์

ในขณะที่การเยือนของแวนซ์กำลังดำเนินไป ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า สหรัฐฯ ต้องการกรีนแลนด์เพื่อให้มั่นใจว่า "ทั้งโลกจะมีสันติภาพ"

"เราต้องการกรีนแลนด์ ซึ่งสำคัญมากเพื่อความมั่นคงระหว่างประเทศ เราต้องมีกรีนแลนด์ ไม่ใช่คำถามว่า 'คุณคิดว่าเราจะอยู่ได้โดยไม่มีมันหรือไม่' เราทำไม่ได้" ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์ยังกล่าวว่า น่านน้ำของกรีนแลนด์มี "เรือของจีนและรัสเซียอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง" และสหรัฐฯ จะไม่พึ่งพาเดนมาร์กหรือประเทศอื่นใดในการจัดการกับสถานการณ์นี้

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเสริมว่า เดนมาร์กและสหภาพยุโรปเข้าใจดีว่าเหตุใดกรีนแลนด์จึงมีความสำคัญต่อสันติภาพทั่วโลก "และหากพวกเขาไม่เข้าใจ เราจะต้องอธิบายให้พวกเขาเข้าใจ"

## การเปลี่ยนแปลงแผนการเยือนและปฏิกิริยาจากประชาชน

คณะผู้แทนสหรัฐฯ ได้เดินทางมาพร้อมกับอุชา แวนซ์ ภริยาของรองประธานาธิบดี ไมค์ วอลท์ซ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ และคริส ไรท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

แผนเบื้องต้นสำหรับการเดินทางครั้งนี้คือให้ภริยาของแวนซ์ไปเยี่ยมชมการแข่งขันสุนัขลากเลื่อนบนเกาะพร้อมกับวอลท์ซ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับเชิญจากทางการในกรีนแลนด์หรือเดนมาร์กก็ตาม

การประท้วงของประชาชนและปฏิกิริยาโกรธเคืองจากทางการทั้งในกรีนแลนด์และเดนมาร์กทำให้คณะผู้แทนสหรัฐฯ ต้องเปลี่ยนแผน โดยบินไปที่ฐานทัพทหารเท่านั้นและไม่พบปะกับประชาชนทั่วไป

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงปี 1951 สหรัฐฯ มีสิทธิที่จะเยี่ยมชมฐานทัพเมื่อใดก็ได้ ตราบใดที่แจ้งให้กรีนแลนด์และกรุงโคเปนเฮเกนทราบ ฐานพิตุฟฟิกตั้งอยู่บนเส้นทางที่สั้นที่สุดจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเตือนภัยขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ

## ทรัพยากรสำคัญและท่าทีของรัฐบาลใหม่

กรีนแลนด์ซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ใกล้นิวยอร์กมากกว่ากรุงโคเปนเฮเกนเมืองหลวงของเดนมาร์ก มีทรัพยากรแร่ธาตุ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ แต่การพัฒนาเป็นไปอย่างช้าๆ และภาคการทำเหมืองได้รับการลงทุนจากสหรัฐฯ เพียงเล็กน้อย โดยบริษัทเหมืองแร่ที่ดำเนินการในกรีนแลนด์ส่วนใหญ่เป็นของออสเตรเลีย แคนาดา หรืออังกฤษ

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่ากรีนแลนด์มีแร่ธาตุหายากในปริมาณมาก ซึ่งจะมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ รุ่นต่อไป

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีนแลนด์ เยนส์-เฟรเดอริก นีลเซน ได้เรียกร้องให้เกิดความสามัคคีทางการเมืองในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า "ในช่วงเวลาที่พวกเราในฐานะประชาชนอยู่ภายใต้แรงกดดัน เราต้องยืนหยัดร่วมกัน"

พรรคเดโมแครตของเขาซึ่งเป็นพรรคที่สนับสนุนธุรกิจและสนับสนุนเอกราชจากเดนมาร์กอย่างค่อยเป็นค่อยไป ได้กลายเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม

นายกรัฐมนตรีเมตเตอ เฟรเดอริกเซน ของเดนมาร์ก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยกล่าวว่าแผนการเริ่มแรกสำหรับการเยือนสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ "ยอมรับไม่ได้" ได้แสดงความยินดีกับกรีนแลนด์สำหรับรัฐบาลชุดใหม่ในโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า "ฉันหวังว่าจะได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น"

## อนาคตของความสัมพันธ์และการตอบโต้จากประชาชน

คำถามสำคัญในตอนนี้คือ ทรัมป์จะผลักดันแนวคิดของเขาในการยึดครองเกาะนี้ไปไกลแค่ไหน อันเดรียส โอเอสทาเกน นักวิจัยอาวุโสด้านการเมืองและความมั่นคงในอาร์กติกจากสถาบันฟริดจอฟ นันเซน ในกรุงออสโล กล่าว

"ยังไม่น่าเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะใช้กำลังทหาร" เขากล่าว "แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าประธานาธิบดีทรัมป์และรองประธานาธิบดีแวนซ์จะยังคงใช้แรงกดดันในรูปแบบอื่นต่อไป เช่น แถลงการณ์ที่คลุมเครือ การเยือนกรีนแลนด์กึ่งทางการ และเครื่องมือทางเศรษฐกิจ"

แคเธอรีน เซนดัค หัวหน้าโครงการป้องกันและความมั่นคงข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกของศูนย์วิเคราะห์นโยบายยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยที่ตั้งอยู่ในวอชิงตัน กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนการเดินทางครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลทรัมป์กำลังพยายามเปลี่ยนจุดสนใจของการอภิปรายไปที่หัวข้อที่สนใจ ได้แก่ การปรากฏตัวของสหรัฐฯ ในกรีนแลนด์ ศักยภาพทางทหารที่มีอยู่ และความมั่นคงในวงกว้างของอาร์กติก

"จำเป็นต้องเปลี่ยนแนวทาง" เซนดัคกล่าว

อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองนุกบางส่วนยังคงแสดงความโกรธแค้นต่อรัฐบาลทรัมป์ก่อนที่แวนซ์จะมาเยือน

"ฉันเป็นมนุษย์ มนุษย์ไม่ได้มีไว้ขาย เราไม่ได้มีไว้ขาย" ตุงกูตัก ลาร์เซน ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวกรีนแลนด์กล่าว

ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าชาวกรีนแลนด์เกือบทั้งหมดคัดค้านการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ผู้ประท้วงต่อต้านอเมริกาหลายคนสวมหมวกที่มีข้อความ "Make America Go Away" และถือป้าย "Yankees Go Home" ร่วมกันจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์กรีนแลนด์

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ชาวเมืองนุกได้ปักธงกรีนแลนด์บนหิมะและติดป้ายกระดาษแข็งเป็นภาษาอังกฤษที่มีข้อความว่า "Our Land. Our Future" (แผ่นดินของเรา อนาคตของเรา)

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.scmp.com/news/world/united-states-canada/article/3304377/jd-vance-and-wife-tour-us-base-greenland-after-diplomatic-row-over-uninvited-visit?module=top_story&pgtype=section