เปิดคลังนิวเคลียร์ของ 4 มหาอำนาจโลก หลังมาครงเสนอใช้อาวุธฝรั่งเศสเพื่อป้องกันยุโรป รัสเซีย มากสุด-สหรัฐฯ ตามติด

9-3-2025

     ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสประกาศเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ว่าต้องการริเริ่มการอภิปรายเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสเพื่อการป้องกันยุโรป ข้อเสนอดังกล่าวได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยนักวิเคราะห์หลายรายเห็นว่าแนวคิดนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดกับรัสเซียซึ่งครอบครองคลังอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และอาจบั่นทอนยุทธศาสตร์การยับยั้งของพันธมิตรนาโตที่นำโดยสหรัฐอเมริกา

นัยสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์

การที่ประธานาธิบดีมาครงเสนอให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสเพื่อการป้องกันยุโรปนั้น เกิดขึ้นในบริบทที่ยุโรปกำลังทบทวนยุทธศาสตร์ความมั่นคงและการป้องกันของตนเอง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ความสัมพันธ์กับรัสเซียมีความตึงเครียด

เมื่อพิจารณาตัวเลขคลังอาวุธนิวเคลียร์ จะเห็นได้ชัดว่ารัสเซียและสหรัฐอเมริกายังคงครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ที่มากกว่าฝรั่งเศสประมาณ 20 เท่า การอภิปรายเกี่ยวกับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสเพื่อการป้องกันยุโรปจึงอาจมีผลกระทบต่อดุลอำนาจในภูมิภาคและความสัมพันธ์ภายในพันธมิตรนาโต รวมถึงอาจสร้างความตึงเครียดเพิ่มเติมในความสัมพันธ์กับรัสเซีย

ข้อมูลในอินโฟกราฟิกนี้อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลหลายแห่ง ได้แก่ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม สถาบันวิจัยพลังงานรัสเซีย และสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน

ข้อมูลจากอินโฟกราฟิกที่เผยแพร่โดยสำนักข่าว Sputnik แสดงให้เห็นการเปรียบเทียบคลังอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศมหาอำนาจสำคัญ ซึ่งชี้ให้เห็นว่ารัสเซียและสหรัฐอเมริกายังคงครอบครองอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมากกว่าฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

คลังอาวุธนิวเคลียร์ของมหาอำนาจโลก

รัสเซีย: 5,580 หัวรบนิวเคลียร์

รัสเซียครองอันดับหนึ่งด้วยจำนวนหัวรบนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก โดยมีระบบการส่งอาวุธหลากหลายรูปแบบ ได้แก่:

- ภาคพื้นดิน ขีปนาวุธข้ามทวีป RS-20 Voevoda, Topol-M, RS-24 Yars, RS-28 Sarmat และ UR-100N UTTKH จำนวน 326-372 ลูก

- ทางทะเล: เรือดำน้ำชั้น Delfin 6 ลำ และชั้น Borei/Borei-A 8 ลำ พร้อมขีปนาวุธ RSM-54 Sineva/Layner และ RSM-56 Bulava รวม 208 ลูก

- ทางอากาศ: เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS/M จำนวน 60 ลำ และ Tu-160M/M2 จำนวน 17 ลำ พร้อมขีปนาวุธร่อน Kh-55 และ Kh-102 รวมทั้งระเบิดนิวเคลียร์

สหรัฐอเมริกา: 5,044 หัวรบนิวเคลียร์

สหรัฐอเมริกาครองอันดับสองด้วยจำนวนหัวรบที่ใกล้เคียงกับรัสเซีย มีระบบการส่งอาวุธดังนี้:

- ภาคพื้นดิน: ขีปนาวุธข้ามทวีป LGM-30G Minuteman III จำนวน 400 ลูก

- ทางทะเล: เรือดำน้ำชั้น Ohio 14 ลำ พร้อมขีปนาวุธ UGM-133A Trident II D5LE จำนวน 280 ลูก

- ทางอากาศ: เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52H Stratofortress 58 ลำ และ B-2A Spirit 19 ลำ พร้อมขีปนาวุธร่อน AGM-86B และระเบิด B61-7, B61-11, B61-12 และ B83-1

ฝรั่งเศส: 290 หัวรบนิวเคลียร์

ฝรั่งเศสมีคลังอาวุธนิวเคลียร์ที่เล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับสองมหาอำนาจข้างต้น แต่ก็ถือเป็นกำลังนิวเคลียร์ที่สำคัญในยุโรป ประกอบด้วย:

- ทางทะเล: เรือดำน้ำชั้น Triomphant 4 ลำ พร้อมขีปนาวุธ M51.1, M51.2 และ M51.3 จำนวน 64 ลูก

- ทางอากาศ: เครื่องบินรบ Rafale BF3/4 จำนวน 50 ลำ และ Rafale MF3-R/4 จำนวน 42 ลำ พร้อมขีปนาวุธร่อน ASMP-A

สหราชอาณาจักร: 225 หัวรบนิวเคลียร์

สหราชอาณาจักรมีจำนวนหัวรบน้อยที่สุดในบรรดาสี่มหาอำนาจนิวเคลียร์นี้ โดยจำกัดระบบการส่งอาวุธเฉพาะทางทะเลเท่านั้น:

- ทางทะเล: เรือดำน้ำชั้น Vanguard 4 ลำ พร้อมขีปนาวุธ Trident II D5 จำนวน 64 ลูก

---

IMCT NEWS

ที่มา https://sputnikglobe.com/20250307/nuclear-arsenals-overview-who-holds-the-key-to-deterrence-in-europe-1121624033.html