แอฟริกา'ตัวแปรสำคัญในสงครามชิประหว่างสหรัฐฯ-จีน

20-2-2025

    แร่ธาตุหายาก (Rare earth elements) ซึ่งประกอบด้วยธาตุโลหะ 17 ชนิดที่มีความสำคัญยิ่งต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พลังงานหมุนเวียน และเทคโนโลยีทางการทหารกำลังกลายเป็นทรัพยากรที่มหาอำนาจโลกแย่งชิงกัน โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา

   ผู้เชี่ยวชาญ โธมัส พอคเคน ที่ 2 (Thomas Pauken II) ชี้ว่าการแข่งขันด้านเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกจะขึ้นอยู่กับว่าประเทศใดสามารถควบคุมทรัพยากรในแอฟริกาได้ ทวีปนี้ครอบครองแหล่งสำรองแร่ธาตุหายากประมาณ 15% ของโลก และมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2572 เหมืองแร่ในแอฟริกาจะสามารถผลิตแร่ธาตุหายากได้ถึง 10% ของการผลิตทั่วโลก ตามรายงานของบริษัทวิจัย Benchmark Mineral Intelligence

    ประเทศสำคัญในแอฟริกาที่มีการทำเหมืองแร่ธาตุหายาก ได้แก่ แทนซาเนีย แองโกลา แอฟริกาใต้ มาลาวี และยูกันดา โดยปัจจุบันโครงการสำรวจจำนวนมากกำลังดำเนินการอยู่ และมหาอำนาจระดับโลกกำลังเร่งเข้าไปช่วงชิงส่วนแบ่ง

    ปัจจุบันจีนยังคงครองอำนาจเหนือตลาดแร่ธาตุหายาก โดยควบคุมการผลิตและห่วงโซ่อุปทานประมาณ 70% ของโลก ทำให้เมื่อใดก็ตามที่ปักกิ่งประกาศจำกัดการส่งออก ราคาแร่ธาตุหายากในตลาดโลกจะพุ่งสูงขึ้นทันที เห็นได้ชัดจากเหตุการณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อจีนเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมแร่ธาตุสำคัญ 5 ชนิด หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้า 10%

    พอคเคนเน้นย้ำว่าจีนได้สร้างฐานที่มั่นอย่างแข็งแกร่งในแอฟริกาผ่านโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) แต่ในทางกลับกัน สหรัฐอเมริกาก็มองว่าการครอบครองแร่ธาตุหายากและการเป็นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นประเด็นสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจดำเนินนโยบายตอบโต้ด้วยการเสนอข้อตกลงการทำเหมืองที่เป็นประโยชน์มากกว่าและมาตรการจูงใจทางภาษีให้แก่ประเทศในแอฟริกา

    ขณะนี้ ทรัมป์กำลังดำเนินการตอบโต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว โดยผลักดันระเบียงเศรษฐกิจอินเดีย-ตะวันออกกลาง (India-Middle East Economic Corridor: IMEC) พร้อมทั้งเสริมความเข้มแข็งให้กับพันธมิตร I2U2 ซึ่งประกอบด้วยอินเดีย อิสราเอล สหรัฐอเมริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

    การแข่งขันเพื่อควบคุมทรัพยากรในแอฟริกากำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยในขณะนี้มีการคาดการณ์ว่า 37% ของแร่ธาตุหายากที่จะผลิตได้ในอนาคตของแอฟริกามีจุดหมายปลายทางอยู่ที่จีน ส่วนที่เหลืออีก 63% ยังคงเป็นที่หมายปองของชาติมหาอำนาจอื่นๆ โดยสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และพันธมิตรกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ครอบครองทรัพยากรที่มีความสำคัญยิ่งต่ออนาคตของเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้

---

IMCT NEWS

ที่มา https://t.co/pKz6wMRMUU

https://x.com/SputnikInt/status/1892204582651998671