ไต้หวันกำลังพิจารณาซื้ออาวุธหลายพันล้าน USD

ไต้หวันกำลังพิจารณาซื้ออาวุธหลายพันล้าน USD จากสหรัฐฯ
ขอบคุณภาพจาก The Straits Times
19-2-2025
ไต้หวันกำลังพิจารณาซื้ออาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ ขณะที่จีนยังคงใช้แรงกดดันทางทหารกับไต้หวัน ตามที่แหล่งข่าว 3 รายที่ทราบสถานการณ์นี้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สโดยขอไม่เปิดเผยชื่อ เนื่องจากสถานการณ์มีความละเอียดอ่อน โดยบอกกับรอยเตอร์สว่า ไต้หวันกำลังเจรจากับวอชิงตันอยู่
ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า แพ็กเกจดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อแสดงให้สหรัฐฯ เห็นว่าไต้หวันมีความมุ่งมั่นในการป้องกันประเทศ ซึ่งแหล่งข่าวรายที่สองกล่าวว่า แพ็กเกจดังกล่าวจะรวมถึงขีปนาวุธร่อนป้องกันชายฝั่งและจรวด Himars ด้วย
“ผมจะแปลกใจมากหากมันมีมูลค่าต่ำกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้มูลค่าจะอยู่ระหว่าง 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ตาม”
ด้านไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า เขาต้องการเร่งส่งมอบอาวุธให้ไต้หวัน ขณะที่กระทรวงกลาโหมของไต้หวันปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการซื้อที่เฉพาะเจาะจง โดยระบุเพียงว่า จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบป้องกันประเทศ
“อาวุธและอุปกรณ์ใดๆ ที่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในการสร้างกองทัพจะถูกระบุเป็นเป้าหมายในการประมูล”
ความเคลื่อนไหวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทำให้ไต้หวันซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตชิปรายใหญ่เกิดความกังวลในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง หลังทรัมป์กล่าวว่า ไต้หวันขโมยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ รวมถึงการขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าชิป แต่รัฐบาลทรัมป์ก็ยังคงให้การสนับสนุนทางการทูตต่อไต้หวัน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ลบข้อความบนเว็บไซต์ที่ระบุว่าไม่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลไต้หวันยกย่องการกระทำดังกล่าว ขณะที่จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ "แก้ไขข้อผิดพลาด" ดังกล่าว
ไต้หวันมีแผนจะเสนอแผนงบประมาณพิเศษด้านกลาโหม ที่ให้ความสำคัญกับกระสุนแม่นยำ การอัพเกรดระบบป้องกันภัยทางอากาศ ระบบบังคับบัญชาและควบคุม อุปกรณ์สำหรับกองกำลังสำรอง และเทคโนโลยีต่อต้านโดรน ซึ่งในช่วงดำรงตำแหน่งปี 2017-2021 ทรัมป์ได้จัดตั้งการขายอาวุธให้กับไต้หวันเป็นประจำ รวมถึงข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับเครื่องบินรบ F-16 ซึ่งรัฐบาลของไบเดนยังคงดำเนินการขายเหล่านี้ต่อไป แม้ว่าจะมักจะมีราคาที่ถูกกว่าก็ตาม
เจ้าหน้าที่ไต้หวันมองเห็นสัญญาณที่ดีจากรัฐบาลของทรัมป์ แม้ว่าภัยคุกคามด้านภาษีศุลกากรจะส่งผล ขณะเดียวกัน ไต้หวันก็ไม่เชื่อว่าทรัมป์กำลังมองหา "ข้อตกลงใหญ่" กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเพื่อขายผลประโยชน์ของไต้หวัน จากการที่ทรัมป์น่าจะกังวลการเก็บภาษีเซมิคอนดักเตอร์มากกว่า
ขณะที่เรย์มอนด์ กรีน นักการทูตชั้นนำของสหรัฐฯ ในไต้หวัน จะยังคงดำรงตำแหน่งต่อ แม้ว่าตำแหน่งนักการทูตสหรัฐฯ ตำแหน่งอื่นๆ จะมีการสับเปลี่ยนตำแหน่งกันอย่างมากก็ตาม ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า กรีนยังคงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันอเมริกันในไต้หวัน ซึ่งเป็นสถานทูตสหรัฐฯ ประจำไทเปอย่างไม่เป็นทางการ
IMCT News