EU ตกลงคว่ำบาตรรัสเซียระลอกใหม่

20-2-2025

    สหภาพยุโรปตกลงใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 16 ซึ่งเป็นชุดใหม่ ต่อกรณีความขัดแย้งในยูเครน ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวที่ได้รับการต้อนรับจากคาจา คัลลาส หัวหน้านักการทูตของสหภาพยุโรป เกิดขึ้นหลังวอชิงตันและมอสโกเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนเมื่อไม่นานมานี้

    ทั้งสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรหลายรายการเพื่อแบ่งแยกรัสเซีย นับตั้งแต่ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 โดยมาตรการดังกล่าวรวมถึงการตัดประเทศออกจากระบบการเงินของชาติตะวันตก การตัดขาดการค้าและพลังงานเกือบทั้งหมด รวมถึงการอายัดเงินสำรองต่างประเทศของมอสโกว์ ซึ่งเครมลินระบุว่าเป็น "การขโมย"

    สำหรับการประชุมครั้งแรกของเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ในรอบ 3 ปี ได้จุดชนวนให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ภายในสหภาพยุโรป เนื่องจากประเทศสมาชิกกล่าวหาว่าวอชิงตันเปิดการเจรจากับมอสโกอีกครั้งโดยไม่ปรึกษาหารือล่วงหน้า และกีดกันบรัสเซลส์ออกจากการเจรจา ซึ่งแม้มาตรการดังกล่าวซึ่งได้รับการอนุมัติจากตัวแทนถาวรของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศแล้ว แต่ก็ถือว่ายังไม่เสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปเตรียมที่จะให้การรับรองในวันจันทร์นี้ (24 ก.พ.)

อัวร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปแสดงความยินดีกับการเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ โดยกล่าวบนโซเชียลมีเดียว่า บรัสเซลส์กำลัง "ปราบปรามการหลีกเลี่ยงมาตรการที่นำมาใช้ก่อนหน้านี้ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น" โดยกำหนดเป้าหมายไปที่เรือที่บรรทุกน้ำมันดิบของรัสเซียมากขึ้น และ "กำหนดห้ามการนำเข้าและส่งออกใหม่"

     Financial Times รายงานว่ามาตรการคว่ำบาตรใหม่นี้รวมถึงการห้าม "แบบค่อยเป็นค่อยไป" สำหรับสมาชิกสหภาพยุโรปในการนำเข้าผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมบางประเภทจากรัสเซีย

     นอกจากนี้ก็ยังมีรายงานว่า มาตรการคว่ำบาตรฉบับใหม่นี้กำหนดเป้าหมายไปที่ธนาคารอีก 13 แห่งและเรือบรรทุกน้ำมันอีก 73 ลำที่ใช้ในการขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซีย รวมถึงระงับใบอนุญาตออกอากาศของสื่อรัสเซีย 8 แห่ง

    เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา (2025) บรัสเซลส์ได้ขยายการคว่ำบาตรรัสเซียที่มีอยู่ออกไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม โดยข้อจำกัดเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่หลายภาคส่วน รวมถึงการคว่ำบาตรทางการค้า การห้ามเดินทาง และการคว่ำบาตรรายบุคคลต่อนักธุรกิจและเจ้าหน้าที่รัฐชาวรัสเซีย

     ขณะที่เครมลินประณามการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกว่าผิดกฎหมาย โดยโต้แย้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าข้อจำกัดเหล่านี้ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียไม่มั่นคงหรือแยกรัสเซียออกจากระบบการเงินโลกได้

IMCT News

ที่มา https://www.rt.com/news/613000-eu-sanctions-russia-aluminum-tankers/

-----------------------------------
EU เตรียมช่วยเหลือทางทหารยูเครนอีก 6,000 ล้าน USD!

20-2-2025

    อียูเตรียมมอบเงินช่วยเหลือทางการทหาร 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ยูเครน ขณะที่รัสเซียและสหรัฐฯ เตรียมหารือเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง โดย Politico รายงานว่าเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ พบกันที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 ก.พ.) เพื่อหารือแนวทางฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีและหารือการเจรจาในอนาคตเพื่อยุติวิกฤตยูเครน ซึ่งการเจรจาดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่พอใจภายในอียู ทำให้ประเทศสมาชิกอียูออกมาวิพากษ์วิจารณ์วอชิงตันที่ไม่ปรึกษาหารือกับพวกเขาก่อนที่จะเปิดการเจรจากับมอสโกอีกครั้ง และไม่รวมพวกเขาเข้าร่วมการเจรจา

   เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้จัดการประชุมสุดยอดฉุกเฉินที่กรุงปารีส โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อถ่วงดุลความพยายามรักษาสันติภาพระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ รายงานระบุว่าอียูพร้อมที่จะรับประกันความปลอดภัยแก่ยูเครน และคัดค้านที่เคียฟจะประกาศหยุดยิงกับรัสเซีย ก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพฉบับสมบูรณ์

    สำหรับแพ็กเกจดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะประกอบด้วยกระสุนปืนใหญ่ 1.5 ล้านนัด และระบบป้องกันภัยทางอากาศ ถือเป็นการให้ความช่วยเหลือทางการทหารครั้งใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในปี 2022 โดยอาจมีการประกาศให้ทราบล่วงหน้าก่อนที่คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปจะเยือนกรุงเคียฟในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ (2025) ซึ่งตัวเลข 6 พันล้านยูโรอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยอาจเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านยูโร (10,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือมากกว่านั้น

     นักการทูต 2 คนบอก Politico ว่า สมาชิกสหภาพยุโรปจะมีทางเลือกในการบริจาคอุปกรณ์ทางทหารหรือความช่วยเหลือทางการเงิน โดยเงินบริจาคจะคิดเป็นสัดส่วนตามรายได้รวมของประเทศ

    ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ยังไม่ชัดเจนว่าสหภาพยุโรปโดยรวมจะอนุมัติแพ็กเกจดังกล่าวหรือไม่ หรือความช่วยเหลือจะจัดโครงสร้างเป็นพันธมิตรของประเทศที่เต็มใจหรือไม่ ซึ่งนักการทูตคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ไม่น่าจะได้รับการอนุมัติเป็นเอกฉันท์ เนื่องจากฮังการีซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ความช่วยเหลือทางทหารของสหภาพยุโรปที่ให้แก่กรุงเคียฟอย่างเปิดเผยอาจคัดค้าน

   สหภาพยุโรปอาจใช้แพ็คเกจดังกล่าวเป็นแรงผลักดันในการเข้าร่วมการเจรจา หลังจากที่ถูกกีดกันจากความพยายามสร้างสันติภาพในยูเครนที่ริเริ่มโดยสหรัฐฯ การเจรจาทวิภาคีรอบแรกระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียสิ้นสุดลงที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย โดยทั้งยูเครนและสหภาพยุโรปไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม

    เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปหลายคนวิพากษ์วิจารณ์แนวทางฝ่ายเดียวของวอชิงตันในการสร้างสันติภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่คีธ เคลล็อกก์ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประจำยูเครน ส่งสัญญาณว่าสหภาพยุโรปจะไม่เข้าร่วมโต๊ะเจรจา เมื่อสหรัฐฯ และรัสเซียหารือเรื่องสันติภาพ เช่นเดียวกับที่เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ตัดความเป็นไปได้ที่สหภาพยุโรปจะเข้าร่วมการเจรจา โดยระบุว่าสหภาพยุโรปจะใช้การหยุดยิงในยูเครนอีกครั้งเพื่อเสริมกำลังเคียฟ

ขณะที่อเล็กซานเดอร์ กรุชโก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย โต้แย้งว่าบรัสเซลส์สามารถช่วยคลี่คลายความขัดแย้งได้ ด้วยการหยุดการสนับสนุนทางทหารและการสนับสนุนอื่นๆ แก่เคียฟ

IMCT News

ที่มา https://www.rt.com/news/612997-eu-military-aid-ukraine/