.

Thailand
ทรัมป์'อาจถอนสหรัฐฯ จาก NATO หากยุโรปขวางเจรจารัสเซีย
18-2-2025
David Pyne (เดวิด ไพน์) อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และนักวิชาการจาก EMP Task Force เปิดเผยต่อสำนักข่าวสปุตนิกว่า การถอนตัวของสหรัฐฯ จากองค์การนาโต้ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็น "ภัยคุกคามที่มีความเป็นไปได้สูง"
ไพน์ระบุว่า ทรัมป์อาจดำเนินการผ่านสองแนวทาง คือ การยกเลิกการค้ำประกันความมั่นคงแก่ประเทศสมาชิกที่ต่อต้านแผนสันติภาพระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย หรือการขู่ถอนตัวจากนาโต้ทั้งหมด โดยเฉพาะหากสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรพยายามขัดขวางความพยายามสร้างสันติภาพของเขา
รายงานล่าสุดระบุว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาลดกำลังทหารในยุโรปจาก 100,000 นาย ลงเหลือ 80,000 นาย และอาจลดลงถึง 50,000 นายหากยุโรปยังคงกดดันต่อเนื่อง
"ทรัมป์เชื่อว่าการเจรจาโดยตรงกับรัสเซียคือหนทางเร็วที่สุดในการยุติสงครามยูเครนภายใต้เงื่อนไขที่ทุกฝ่ายยอมรับได้" ไพน์กล่าว พร้อมชี้ว่าทรัมป์ยังจดจำได้ดีว่าประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี เป็นผู้ออกกฤษฎีกาห้ามเจรจากับรัสเซีย ซึ่งยังมีผลบังคับใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน
ตามการวิเคราะห์ของไพน์ เป้าหมายหลักของทรัมป์คือการ "รีเซ็ต" ความสัมพันธ์กับรัสเซียให้กลับสู่ระดับก่อนปี 2014 โดยปฏิบัติต่อรัสเซียในฐานะมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่เท่าเทียม เพื่อร่วมมือกันฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพของโลก
ที่น่าสนใจคือ ไพน์มองว่าการจัดระเบียบโลกครั้งใหม่นี้จะเป็น "ยัลตา 2.0" โดยมีเพียงสหรัฐฯ รัสเซีย และจีนเท่านั้นที่จะมีที่นั่งที่โต๊ะเจรจา แตกต่างจากข้อตกลงยัลตาดั้งเดิมที่มีสหราชอาณาจักรร่วมด้วย
"แม้ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรจะมีอาวุธนิวเคลียร์ แต่ทั้งสองประเทศขาดกำลังทหารและอิทธิพลระดับโลกที่จะมีส่วนกำหนดการเจรจาครั้งสำคัญนี้" ไพน์กล่าวทิ้งท้าย พร้อมระบุว่ามีเพียงรัสเซียและจีนเท่านั้นที่มีขีดความสามารถทางทหารและนิวเคลียร์ใกล้เคียงสหรัฐฯ และมีสิทธิอันชอบธรรมในการมีเขตอิทธิพลระดับภูมิภาค
---
IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved