.

อนาคตอาเซียน'เส้นทางสู่ระเบียบโลกใหม่ระหว่างการถดถอยของสหรัฐฯ-โอกาสจากจีน
18-2-2025
SCMP รายงานจาก China Conference: Southeast Asia 2025 ว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของบทบาทสหรัฐอเมริกาในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบโลกใหม่ หากจีนสามารถบริหารจัดการความสัมพันธ์กับภูมิภาคได้อย่างเหมาะสม
ในการประชุม China Conference: Southeast Asia 2025 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติได้วิเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจโลกที่ส่งผลต่ออาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่เพียงมุ่งเป้าที่จีน แต่ยังรวมถึงประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ
ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ให้เห็นว่า แม้อาเซียนจะมีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับจีนในฐานะคู่ค้าหลักและสหรัฐฯ ในฐานะผู้ค้ำประกันความมั่นคง แต่การที่ทรัมป์เน้นนโยบายชาตินิยมทางเศรษฐกิจสร้างความกังวลว่าวอชิงตันอาจถอนตัวจากภูมิภาค ซึ่งจะทำให้อาเซียนต้องจัดการปัญหาต่างๆ ด้วยตนเอง
ความกังวลนี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นหลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แม้จะระงับคำสั่งชั่วคราว 30 วันหลังทั้งสองประเทศยอมเข้มงวดการควบคุมชายแดนมากขึ้น แต่เหตุการณ์นี้สร้างความหวั่นวิตกให้กับประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ
ชาน เฮง ชี เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ เปิดเผยว่าประเทศสมาชิกอาเซียนได้เตรียมการ "ป้องกันทรัมป์" มาตั้งแต่วาระแรก ด้วยการขยายความร่วมมือทางการค้าผ่านข้อตกลงใหม่ๆ และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่มีอยู่ผ่านกรอบความร่วมมือ CPTPP และ RCEP
นาซีร์ ราซัค ประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน มองว่าภูมิภาคได้เปรียบจากเสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์และการมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ อาทิ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมแห่งมาเลเซีย ที่ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia, Microsoft และ Google ประธานาธิบดีปราโบโว สุเบียนโตแห่งอินโดนีเซีย ที่เร่งแสวงหาเงินทุนต่างชาติ และนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรแห่งไทย
อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคยังจำเป็นต้องเร่งบูรณาการทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการลงทุนภายในอาเซียนปี 2023 มีเพียง 21,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่ถึง 10% ของการลงทุนทั้งหมดในภูมิภาคที่มีมูลค่า 229,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เฟรเดอริก หม่า ประธานกรรมการ FWD Group มองว่าจีนเห็นโอกาสในการสร้างความเจริญร่วมกับอาเซียน โดยเน้นนโยบายเป็นมิตรกับทุกประเทศ รวมถึงประเทศที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ อย่างญี่ปุ่นและอินเดีย แทนที่จะใช้แนวทาง "ข้อตกลงธุรกิจ" แบบทรัมป์
อย่างไรก็ดี ศาสตราจารย์ธิตินันท์เตือนว่า หากจีนใช้อำนาจมากเกินไป เช่น การสร้างเกาะเทียมและติดตั้งอาวุธในทะเลจีนใต้ หรือการควบคุมทรัพยากรน้ำในแม่น้ำโขงที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในเมียนมาร์ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม อาจสร้างความขุ่นเคืองและทำให้อาเซียนต้องมองหา "ผู้เล่นที่สาม"
"แต่หากจีนใช้แนวทางที่เป็นมิตรมากขึ้น เราอาจได้เห็นระเบียบเอเชียใหม่ที่นำไปสู่ระเบียบระหว่างประเทศรูปแบบใหม่" ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ กล่าวทิ้งท้าย สะท้อนให้เห็นว่าอนาคตของภูมิภาคขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของจีนเป็นสำคัญ
---
IMCT NEWS : Photo SCMP - Photo: Nora Tam