.

Thailand
สหรัฐฯ ท้าชิง 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง' ดัน IMEC ความร่วมมืออินเดีย-ตะวันออกกลาง-ยุโรป ถ่วงดุลจีน
17-2-2025
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงความมุ่งมั่นในการผลักดันระเบียงเศรษฐกิจอินเดีย-ตะวันออกกลาง-ยุโรป (IMEC-India-Middle East-Europe Economic Corridor หรือระเบียงเศรษฐกิจอินเดีย-ตะวันออกกลาง-ยุโรป ) ระหว่างการประชุมกับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย โดยมองว่าโครงการนี้เป็นกลไกสำคัญในการลดทอนอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ของจีน
IMEC ซึ่งเปิดตัวในปี 2023 มีเป้าหมายสำคัญสามประการ ประการแรกคือการกระจายเส้นทางการค้าระหว่างประเทศ โดยมุ่งสร้างเส้นทางใหม่เชื่อมโยงอินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป เพื่อลดการพึ่งพาเส้นทางการค้าดั้งเดิมที่จีนมีอิทธิพล ประการที่สองคือการดึงดูดการลงทุนขนาดใหญ่ โดยทรัมป์ยืนยันว่าสหรัฐฯ พร้อมเพิ่มการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ และประการที่สามคือการสร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการค้า พลังงาน และเทคโนโลยี
อย่างไรก็ตาม แม้ทรัมป์จะยกย่อง IMEC ว่าเป็น "หนึ่งในเส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์" แต่การที่จะก้าวขึ้นมาเป็นทางเลือกทดแทนโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) ของจีนนั้น ยังมีความท้าทายหลายประการ
ความแตกต่างที่สำคัญคือขนาดและขอบเขตของโครงการ BRI ครอบคลุมมากกว่า 140 ประเทศทั่วยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ในขณะที่ IMEC มีสมาชิกจำกัดเพียง 9 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย สหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย อิสราเอล ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ ในขณะที่ BRI ได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน IMEC กลับต้องเผชิญกับอุปสรรคจากความขัดแย้งในภูมิภาค โดยเฉพาะสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ซึ่งส่งผลให้โครงการต้องชะลอตัว แม้จะมีแผนฟื้นฟูโครงการอยู่ในระหว่างการพิจารณา
การผลักดัน IMEC สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของสหรัฐฯ ในการสร้างทางเลือกใหม่ทางการค้าและเศรษฐกิจที่ไม่ต้องพึ่งพาจีน แต่ความสำเร็จของโครงการจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคทั้งด้านการเมืองระหว่างประเทศและการระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น
---
IMCT NEWS
© Copyright 2020, All Rights Reserved