สหรัฐฯ รุกเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ในแปซิฟิก

สหรัฐฯ รุกเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ในแปซิฟิก ชูออสเตรเลียเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์
29-7-2025
Newsweek รายงานว่า สหรัฐอเมริกา ยังคงส่งเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ไปยังออสเตรเลีย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในแปซิฟิกใต้ แม้ว่ารัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังทบทวนความร่วมมือทางเรือของทั้งสองประเทศก็ตาม
สหรัฐอเมริกาเดินหน้าเสริมบทบาททางทหารในแปซิฟิก ด้วยการส่งเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ USS Ohio (SSGN 726) เข้าเทียบท่า ณ เมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27-28 กรกฎาคม 2025) โดยถือเป็นครั้งแรกที่เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอได้มาเยือนเมืองนี้ และสอดคล้องกับโอกาสครบรอบ 80 ปีวัน Victory in the Pacific ที่ระลึกถึงการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
เรือ USS Ohio มีขีดความสามารถบรรทุกขีปนาวุธร่อน Tomahawk ได้สูงสุด 154 ลูก และรองรับปฏิบัติการร่วมกับหน่วยรบพิเศษกว่า 60 นาย พร้อมระบบอาวุธและข่าวกรองขั้นสูง ถือเป็นหนึ่งในสี่เรือดำน้ำในกลุ่ม Ohio-class ที่เคยถูกออกแบบเพื่ออาวุธนิวเคลียร์แต่ปรับให้ใช้อาวุธโจมตีภาคพื้นดินแทน
เรือลำนี้เข้าจอดคู่กับเรือสนับสนุน USS Frank Cable ซึ่งเป็นเรือซ่อมบำรุง-ลอจิสติกส์สำคัญในภูมิภาค โดย Frank Cable มาถึงเมืองบริสเบนก่อนหน้าในวันที่ 26 กรกฎาคม และเตรียมมอบการสนับสนุนซ่อมบำรุงให้กับกำลังเรือดำน้ำสหรัฐฯ ในพื้นที่
### AUKUS: ความร่วมมือปรับทิศ หรือตอกย้ำพันธมิตร
การเคลื่อนกำลังทหารครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) กำลังทบทวนความตกลง AUKUS ซึ่งประกอบด้วยสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย เพื่อตรวจสอบว่าสอดคล้องกับนโยบาย “America First” หรือไม่ โดย AUKUS เป็นข้อตกลงที่ริเริ่มในยุค Biden ให้สหรัฐฯ ส่งมอบเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Virginia ให้แก่ออสเตรเลีย 3-5 ลำ ในช่วงต้นทศวรรษ 2030
กระบวนการทบทวนนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในหมู่ชาติพันธมิตร ขณะที่จีนเดินหน้าสะสมกำลังทางเรือจนเป็นกองเรือใหญ่ที่สุดในโลกตามจำนวนลำ AUKUS ถูกมองว่าเป็นหมากสำคัญของตะวันตกเพื่อถ่วงสมดุลในภูมิภาค
### สัญญาณความร่วมมือยังไม่เปลี่ยน
แม้จะมีการทบทวน AUKUS โดยรัฐบาลทรัมป์ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และออสเตรเลียยังคงเน้นย้ำภารกิจสร้างความร่วมมือและบทบาทป้องกันสันติภาพในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ขณะเดียวกัน เรือดำน้ำ USS Ohio ยังเข้าร่วมกับการซ้อมรบร่วมขนาดยักษ์ “Talisman Sabre 2025” ที่จัดขึ้นในออสเตรเลีย โดยมีชาติตะวันตกเข้าร่วมแสดงแสนยานุภาพสูงสุดเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากจีน
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังส่งเรือดำน้ำโจมตีรุ่นใหม่ USS Toledo และ USS Indiana ประจำการที่ฮาวายในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ตอกย้ำยุทธศาสตร์ “ปรากฏตัว-ป้องกัน-พันธมิตร” อย่างต่อเนื่อง
### มุมมองและท่าทีพันธมิตร
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และออสเตรเลียยังเน้นย้ำความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างสองชาติ พร้อมระลึกประวัติศาสตร์ร่วมตั้งแต่สมัยสงครามโลก ผ่านทั้งการฝึกซ้อม การซ่อมบำรุง และการมีส่วนร่วมในชุมชนท้องถิ่นบริสเบน
ศูนย์บัญชาการเรือดำน้ำสหรัฐฯ (Submarine Group Seven) ระบุ “บริสเบนคือเมืองประวัติศาสตร์ของกองเรือดำน้ำสหรัฐฯ และยังคงมีความหมายลึกซึ้งต่อความสัมพันธ์สองประเทศ” ขณะที่กัปตันไมค์ ทอมป์สัน (Mike Thompson) ผู้บังคับการ USS Frank Cable ย้ำว่า “เราภูมิใจที่ได้เสริมสร้างสัมพันธ์กับพันธมิตรที่มีค่านิยมร่วมกันด้านเสรีภาพและประชาธิปไตย”
สถานการณ์ข้างหน้า
บทสรุปในภาพรวม ยังไม่มีข้อยุติว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จะเลือกแนวทางใดต่อการหมุนเวียนหรือประจำการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ในออสเตรเลีย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดอาวุธ, เงื่อนไขนโยบาย America First และแรงกดดันจากสภาคองเกรส รวมถึงเสียงวิจารณ์ในออสเตรเลียเอง แม้กระแสเคร่งครัดจะปรากฏ แต่ภารกิจล่าสุดของ USS Ohio สะท้อนว่ายุทธศาสตร์เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางเรือในแปซิฟิกยังไม่เปลี่ยนแปลงในเชิงปฏิบัติ
----
IMCT NEWS
ที่มา https://www.newsweek.com/us-doubles-down-nuclear-submarine-plans-south-pacific-australia-2105052
Photo: Mass Communication Specialist 3rd Class Haley Wilson/U.S. Navy