อินเดียสวนกลับ EU  ปมคว่ำบาตรนำเข้า 'น้ำมันรัสเซีย'  เดินหน้าซื้อต่อ ยืนยัน “ความมั่นคงพลังงานต้องมาก่อน”

24-7-2025

  RT รายงานว่า รัฐบาลอินเดียออกแถลงการณ์แสดงความไม่พอใจต่อแรงกดดันจากสหภาพยุโรป (EU) กรณีการนำเข้าและกลั่นน้ำมันดิบจากรัสเซีย โดยยืนกรานว่าความมั่นคงด้านพลังงานเป็น “ภารกิจลำดับแรก” ของรัฐ และไม่มีแผนยุติการพึ่งพาน้ำมันรัสเซียในระยะสั้น แม้จะเผชิญแรงเสียดทานทางการเมืองจากตะวันตกที่ยกระดับมาตรการลงโทษมอสโก

  ในแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ 23 กรกฎาคม วิก รัม มิสรี (Vikram Misri) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย แสดงความคิดเห็นต่อมาตรการคว่ำบาตรรอบที่ 18 ของอียูต่อรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งในรอบนี้ได้ระบุถึงโรงกลั่นน้ำมันของอินเดียโดยตรง โดยกล่าวว่าอียูจำเป็นต้องมีมุมมองที่ชัดเจนต่อพลวัตในตลาดพลังงานระดับโลก และไม่ควรใช้มาตรฐานซ้อนในการประเมินสถานการณ์เหล่านี้

  มิสรีกล่าวว่า ความมั่นคงด้านพลังงานเป็นสิ่งที่รัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญสูงสุด และอินเดียจะดำเนินมาตรการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ความต้องการพลังงานของประชาชนในประเทศได้รับการตอบสนองอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งระบุว่า “เราตระหนักดีถึงบรรยากาศด้านความมั่นคงที่ยุโรปต้องเผชิญ แต่โลกไม่ได้มีแค่ยุโรป ประเทศอื่น ๆ ก็ต้องบริหารจัดการความจำเป็นในบริบทของตนเองเช่นกัน จึงจำเป็นต้องมีมุมมองที่สมดุลและเป็นธรรม”

  คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสำนักข่าว Reuters รายงานว่า เรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำที่มีกำหนดการรับน้ำมันออกจากโรงกลั่นของอินเดีย ได้ยกเลิกการขนส่ง โดยสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับแรงกดดันจากอียูที่ใช้มาตรการจำกัดโรงกลั่นซึ่งมีความเชื่อมโยงกับสินค้าน้ำมันดิบรัสเซียในทางอ้อม

  รัสเซียได้กลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของอินเดีย นับตั้งแต่การรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยปัจจุบันมีสัดส่วนสูงถึง 40% ของการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดของอินเดีย ขณะเดียวกัน นิวเดลีได้เพิ่มบทบาทเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป เช่น น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาไปยังยุโรปนับตั้งแต่ปี 2023

  หนึ่งในโรงกลั่นที่ถูกอียูพุ่งเป้า คือ Nayara Energy ในรัฐคุชราต ซึ่งมีบริษัท Rosneft ของรัสเซียถือหุ้นใหญ่ ขณะที่โรงกลั่นของ Reliance Industries ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย ก็มีส่วนในห่วงโซ่ที่เชื่อมโยงกับตลาดน้ำมันโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อียูได้แสดงความวิตกว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจผ่านกระบวนการ “ล้างแหล่งที่มา” (origin laundering) ด้วยการกลั่นในประเทศที่ไม่ได้ร่วมคว่ำบาตรรัสเซีย ก่อนนำกลับขายในยุโรป

  อินเดียตอบโต้ว่า การค้าขายน้ำมันดิบกับรัสเซียไม่ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และรัฐบาลนิวเดลีย้ำชัดว่า “ไม่ยอมรับมาตรการลงโทษฝ่ายเดียว” (unilateral sanctions) ที่ไม่ได้ผ่านฉันทามติขององค์กรระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ

  กระทรวงต่างประเทศอินเดียยังกล่าวด้วยว่า ประเทศจะยังคงรักษาเส้นทางจัดหาน้ำมันดิบที่หลากหลาย และดำเนินความร่วมมือกับซัพพลายเออร์จากทั่วโลกเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านพลังงานภายในประเทศ โดยปัจจุบันอินเดียมีแหล่งนำเข้าน้ำมันจากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก

  นอกจากการนำเข้าน้ำมันแล้ว อินเดียยังเติบโตขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โดยเฉพาะไปยังยุโรป อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกจากอินเดียไปยังสหภาพยุโรปในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเริ่มลดลง เนื่องจากยุโรปใช้มาตรการควบคุมผู้นำเข้าและเพิ่มภาษีต่อสินค้าน้ำมันที่อาจมีความเกี่ยวพันทางอ้อมกับรัสเซีย

  อีกหนึ่งสัญญาณของความตึงเครียดคือการที่อียูปรับลดเงื่อนไขเพดานราคาสำหรับการขนส่งน้ำมันรัสเซีย รวมถึงความพยายามยับยั้งบริษัทประกันและบริษัทเรือขนส่งที่มีฐานในยุโรปจากการร่วมดำเนินธุรกรรมกับโลจิสติกส์ด้านน้ำมันรัสเซียผ่านเส้นทางประเทศที่สาม

  สำหรับอินเดีย เรื่องน้ำมันไม่ใช่แค่การค้า แต่เป็นประเด็นด้านเสถียรภาพแห่งรัฐและความอยู่รอดของมนุษย์ในประเทศที่มีประชากรเกิน 1.4 พันล้านคน และรัฐบาลนิวเดลียืนกรานว่าจะไม่ให้บริบททางภูมิรัฐศาสตร์มาลดทอนความสามารถในการจัดหาพลังงานขั้นพื้นฐานให้กับประชาชน

---

IMCT NEWS

ที่มา https://www.rt.com/india/621866-india-counters-eu-pressure-on/