ข้อตกลงการค้าของทรัมป์พิสูจน์ว่า "การเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ" ยังคงสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด

29-7-2025

   ในเศรษฐกิจโลกที่ถูกครอบงำโดยทรัมป์ สหรัฐฯ ได้รับผลประโยชน์มากมาย แต่แทบไม่ให้สิ่งใดตอบแทน นี่คือความเป็นจริงของข้อตกลงทางการค้าที่ไม่สมดุลซึ่งทำเนียบขาวภาคภูมิใจ โดยสะท้อนให้เห็นว่าผู้นำต่างประเทศยอมไปไกลแค่ไหนเพื่อรักษาการเข้าถึงตลาดของสหรัฐฯ

   ทรัมป์ประกาศข้อตกลงกับยุโรปและญี่ปุ่น โดยทั้งสองตกลงที่จะลดอัตราภาษีนำเข้าเหลือศูนย์ สัญญาว่าจะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่ามหาศาล และเปิดตลาดของตนให้ผู้ผลิตอเมริกัน

  ในทางกลับกัน ประเทศเหล่านั้นได้รับการรับประกันในเรื่องอัตราภาษี — ทั้งสองอยู่ที่ 15% ซึ่งแม้จะเสียเปรียบต่ออุตสาหกรรมของตน แต่ก็ยังดีกว่าทางเลือกอื่นที่อาจต้องเจอกับภาษีที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอน และการตอบโต้

“ทั้งโตเกียวและบรัสเซลส์ดูเหมือนจะมองว่าอัตราภาษี 15% เป็นราคาที่คุ้มค่าที่จะจ่าย เมื่อเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นที่เลวร้ายกว่า” เวนดี้ คัตเลอร์ อดีตรักษาการผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลโอบามา กล่าวกับ Axios

ทำเนียบขาวยังกล่าวว่า ประเทศขนาดเล็ก เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ก็จะลดภาษีและเปิดตลาดให้กับผู้ผลิตของสหรัฐฯ ด้วย

เหตุการณ์ล่าสุด:

ทรัมป์ประกาศข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรปในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่สกอตแลนด์ เพียงไม่กี่วันก่อนที่ทำเนียบขาวจะเก็บภาษี 30% กับสินค้าในยุโรป

อูร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะนำมาซึ่งเสถียรภาพและความคาดการณ์ล่วงหน้าที่ธุรกิจทั่วโลกต้องการ

เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่า สหรัฐฯ ยอมอะไรบ้างในข้อตกลงครั้งนี้ ฟอน แดร์ ไลเอิน ไม่ได้ให้คำตอบโดยตรง

“ฉันคิดว่าเราบรรลุตรงจุดที่เราต้องการ — สร้างความสมดุลใหม่แต่ยังเปิดโอกาสให้การค้าเดินหน้าทั้งสองฝ่าย” ฟอน แดร์ ไลเอิน ตอบคำถามดังกล่าว

   ในมุมมองของยุโรป ข้อตกลงนี้ให้ผลตอบแทนเป็น “การไม่เกิดสงครามการค้า” กอร์ดอน ซอนด์แลนด์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหภาพยุโรป ให้สัมภาษณ์กับ Axios

   สิ่งนี้ช่วยลดโอกาสที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันจะหลีกเลี่ยงสินค้ายุโรป ซึ่งอาจต้องเผชิญกับภาษีในอัตราที่สูงขึ้นได้

“ถ้าไม่มีตลาดของเรา อุตสาหกรรมหลายแห่งแทบจะอยู่ไม่ได้” ซอนด์แลนด์กล่าว

“ไม่มีใครประเมินค่าพลังของตลาดสหรัฐฯ อย่างแท้จริงในการเจรจาการค้าจนกระทั่งทรัมป์เข้ามา”

   ยังไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงการค้าที่ไม่สมดุลเหล่านี้จะให้ประโยชน์กับสหรัฐฯ อย่างไรในระยะยาว การเปิดตลาดจะส่งผลดีต่อผู้ผลิตในประเทศ ก็ต่อเมื่อ ผู้บริโภคต่างชาติเต็มใจซื้อสินค้า — ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่รับประกันได้เสมอ เช่น กรณีรถยนต์สหรัฐฯ ในญี่ปุ่น

   การลงทุนที่สหภาพยุโรปและญี่ปุ่นให้คำมั่น ก็มีแนวโน้มว่าจะค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างในระยะยาวเช่นกัน

ที่มา Axios