จีนเร่งพัฒนา X-rail gun อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้า รับศึกใหม่ในเอเชีย ขณะที่สหรัฐฯ พับโปรเจกต์ ญี่ปุ่นเดินสายทดลอง

26-7-2025

   Asia Timews รายงานว่า "X-rail gun" อาวุธใหม่ของจีน ที่ล้ำสมัย มีเป้าหมายที่จะยิงกระสุนหนัก 60 กิโลกรัมด้วยความเร็ว Mach 7 (มัค 7) ซึ่งเป็นการเพิ่มเดิมพันในการแข่งขันปืนรางแม่เหล็ก (railgun race) ที่กรุงปักกิ่ง  กำลังทุ่มเทอย่างหนัก ขณะที่กรุงโตเกียว กำลังประเมินความเสี่ยง และกรุงวอชิงตัน กำลังถอนตัว

จีนแผ่บารมีใหม่ในวงการอาวุธทำลายล้างระยะไกล ด้วยแผนพัฒนา "X-rail gun" ระบบปืนรางแม่เหล็กไฟฟ้าเจเนอเรชันล่าสุด ท่ามกลางยุทธศาสตร์ที่แต่ละชาติมหาอำนาจเลือกวิถีไม่เหมือนกัน: จีนเดินหน้าต่อเต็มกำลัง ญี่ปุ่นยังปั้นต้นแบบ สหรัฐอเมริกากลับยุติโครงการไปแล้ว

รายละเอียดเทคโนโลยี X-rail gun

รายงานโดย South China Morning Post ระบุว่าทีมวิจัยของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) นำโดยศาสตราจารย์ลู่ ฉิงอ้าว (Lyu Qingao) จาก Army Engineering University เสนอต้นแบบ "X-rail gun" ซึ่งใช้ระบบ U-armature สองขดในลำกล้องสี่เหลี่ยมขนาด 200 มม. วางซ้อนแนวดิ่ง เพื่อสร้างวงจรไฟฟ้าคู่ที่ช่วยลดปัญหาการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) ซ้อนทับกัน

เป้าหมายของต้นแบบนี้คือ เร่งกระสุนหนัก 60 กิโลกรัม ให้ความเร็ว Mach 7 (ประมาณ 8,600 กม./ชม.) ด้วย "พลังงานกล" ที่เหนือกว่าเรือรบต้นแบบรุ่นแรกของกองทัพเรือจีนซึ่งเคยติดตั้งบนเรือพิฆาต Type 072 ในปี 2018 ที่มีข้อจำกัดด้านกระสุน (เพียง 15 กก.) และเสียหายจากกระแสไฟสูง ปืนใหม่นี้ถูกออกแบบให้ลดข้อจำกัดเดิมทั้งด้านความดันท่อ การผุพังลำกล้อง และขนาดกระสุน

X-rail gun ประเมินว่าหากยิงจริงจะโจมตีเป้าหมายไกล 400 กิโลเมตรได้ภายใน 6 นาที แม้ยังไม่มีการยิงทดสอบจริงก็ตาม

ญี่ปุ่น – สายทดลองค่อยเป็นค่อยไป

ด้านญี่ปุ่น กระทรวงกลาโหม โดย ATLA (Acquisition, Technology and Logistics Agency) ได้ติดตั้งต้นแบบ railgun น้ำหนักกระสุน 300 กรัม บนเรือทดสอบ JS Asuka ยิงได้ความเร็วสูงสุด Mach 6.5 เน้นทดลองระบบหลากหลายแบบ แต่ยังต้องเร่งแก้ปัญหาการกัดกร่อนลำกล้อง ขนาดแหล่งจ่ายไฟ และระบบควบคุมการยิงให้สัมพันธ์กับระบบป้องกันภัยทางอากาศหลายชั้นของญี่ปุ่น

เป้าหมายของญี่ปุ่นคือบูรณาการ railgun เข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุดป้องกันขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (hypersonic missile) และใช้งานจริงกับเป้าหมายทางทะเลหรือภาคพื้นดินที่ต้องการความเร็วสูงและหลบหลีกได้ยาก

สหรัฐฯ – พับโปรเจกต์ railgun ด้วยปัญหาเทคนิคและคุ้มค่า

ฝั่งสหรัฐฯ ตัดสินใจยุติโครงการ Electromagnetic Railgun (EMRG) ในปี 2021 หลังพัฒนาและทดสอบมานาน เหตุผลหลักคือความทนทานต่ำ (ลำกล้องใช้งานได้ไม่เกิน 100 ครั้งเทียบกับปืนใหญ่เดิมที่ทนหลักพันครั้ง) ขนาดแหล่งพลังงานใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับติดตั้งบนแพลตฟอร์มเคลื่อนที่ ความแม่นยำต่ำ (ขาดเกลียวปืน) ระบบไฟฟ้าเปราะบางต่อการถูกรบกวน และต้นทุนประสิทธิภาพยังต่ำกว่าระบบขีปนาวุธ–อาร์ทิลเลอรีเดิม

แม้ railgun จะมีข้อดีอย่างยิงราคา “ถูกกว่าขีปนาวุธ” เช่น การยิงกระสุนละ 25,000 ดอลลาร์เทียบกับขีปนาวุธต่อต้านเรือที่ต้องลงทุนหลักล้าน แต่ข้อท้าทายด้านระบบสนับสนุน พลังงาน และความเปราะบางของระบบชิ้นสำคัญยังเป็นข้อจำกัด

มุมวิจัย/ยุทธศาสตร์: Railgun เปลี่ยนสมดุลสงครามจริงหรือ?

บทความใน Asia Times และ STI Magazine ชี้ว่า แม้ railgun ที่เร่งความเร็วเหนือเสียงโดยไม่ต้องติดหัวรบคู่แรงระเบิดอาจเจาะเรือศัตรูจนทะลุถึงอีกฝั่ง และในทางทฤษฎีจะเปลี่ยนสมการ “ต้นทุนกับยุทธศาสตร์” แต่ความสำเร็จจริงยังต้องรอความก้าวหน้าด้านวิศวกรรมโดยเฉพาะเรื่องความทนทาน พลังงาน และระบบควบคุมยิง

James Stavridis ระบุทิศทางใหม่ว่า ควรพิจารณาความเสี่ยงแพลตฟอร์มขนาดใหญ่จากภัยโดรน เช่นเรือรบรัสเซียที่ถูกยูเครนโจมตีด้วยโดรนราคาต่ำ สะท้อนว่าแม้ railgun หรือขีปนาวุธจะล้ำหน้า แต่ระบบยุทธศาสตร์สมัยใหม่ต้องรับมือกับ “ฝูงอาวุธไร้คนขับราคาถูก” ที่สร้างช่องว่างต้นทุนไม่หยุดยั้ง

Sidharth Kaushal ระบุว่ากองเรือยุคใหม่ยังมีมาตรการป้องกันทันสมัย เช่น Aegis, ระบบสกัดหลายชั้น, อิเล็กทรอนิกส์วอร์แฟร์ และ railgun หากเทคโนโลยีสุกงอม อาจเป็นหมัดเด็ดอีกทางหนึ่ง แม้ระบบขีปนาวุธรุกคืบขึ้นมากก็ตาม

บทสรุป: บททดสอบ railgun – อนาคตำแหน่งเกมพลิก หรือแค่ของเล่นในห้องแล็บ

อนาคตของ railgun จึงเป็นโจทย์เปิด: จีนเดินหน้าเสี่ยง–ลงทุนกับ X-rail gun ในขณะที่ญี่ปุ่นมั่นใจหลักการทดลองต่อยอดจากป้องกัน ขณะที่สหรัฐฯ เลือก “ถอย” ไปเน้นขีปนาวุธและอาวุธเลเซอร์ชั่วคราว แทบไม่เหลือการลงทุน railgun ในชั้นปฏิบัติการจริง

คำถามใหญ่คือ railgun จะกลายเป็นอาวุธเกมเปลี่ยนสงคราม หรือจะถูกจำกัดไว้ในห้องวิจัยเมื่อเทียบกับคลื่นเทคโนโลยีโดรน–ขีปนาวุธยุคใหม่

---

IMCT NEWS

ที่มา https://asiatimes.com/2025/07/china-reloads-railgun-ambitions-as-japan-tests-and-us-powers-down/