รัสเซีย'ขยายเครือข่ายกลาโหมในแอฟริกาตะวันตก

รัสเซีย'ขยายเครือข่ายกลาโหมในแอฟริกาตะวันตก ท่ามกลางการลดบทบาทของฝรั่งเศสในแอฟริกา
24-7-2025
RT รายงานว่า รัสเซียเดินหน้าข้อตกลงกลาโหมกับโตโก เสริมบทบาทในแอฟริกาตะวันตก
– รัฐบาลรัสเซียได้อนุมัติร่างกฎหมายสำหรับให้สัตยาบันข้อตกลงความร่วมมือทางทหารฉบับใหม่กับประเทศโตโก ตามรายงานของสำนักข่าว TASS โดยการรับรองดังกล่าวเกิดขึ้นจากคณะกรรมาธิการด้านนิติบัญญัติของรัฐบาล ซึ่งชี้ให้เห็นถึงบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ที่รัสเซียกำลังขยายผลในแอฟริกาตะวันตก ขณะที่อิทธิพลของฝรั่งเศสในภูมิภาคเริ่มลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
วลาดิเมียร์ กรุซเดฟ (Vladimir Gruzdev) สมาชิกของคณะกรรมาธิการและประธานสมาคมทนายความแห่งรัสเซีย เปิดเผยต่อ TASS ว่า ข้อตกลงฉบับนี้ประกอบด้วยความร่วมมือในการฝึกอบรมกำลังพล การเข้าร่วมการฝึกร่วมทางทหาร รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ
กรูซเดฟระบุว่า โตโกถือเป็น “พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ทะเลทราย” และเป็นหนึ่งในประเทศที่มี “การจัดการด้านการทหารดีที่สุด” ในภูมิภาค อีกทั้งยังตั้งอยู่บนตำแหน่งภูมิศาสตร์สำคัญ เนื่องจากมี “ท่าเรือที่พลุกพล่านที่สุดในแอฟริกาตะวันตก” ซึ่งตั้งอยู่บนดินแดนของประเทศโตโก
การลงนามข้อตกลงฉบับนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่รัสเซียเร่งขยายบทบาททางการทหารในทวีปแอฟริกาอย่างมีนัยสำคัญ โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ระบุเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า หลายประเทศในทวีปเริ่มหันมาขอความร่วมมือด้านความมั่นคงจากมอสโกในฐานะพันธมิตรที่ไว้วางใจได้
ประเทศบูร์กินาฟาโซ (Burkina Faso), มาลี (Mali) และไนเจอร์ (Niger) ซึ่งอยู่ใกล้โตโก ต่างยกเลิกความร่วมมือด้านความมั่นคงกับฝรั่งเศส อดีตเจ้าอาณานิคม พร้อมขับไล่กองกำลังฝรั่งเศสออกจากประเทศ ท่ามกลางคำวิจารณ์ถึงความล้มเหลวของฝรั่งเศสในการสกัดการขยายตัวของกลุ่มหัวรุนแรงในภูมิภาคซาเฮล
ทั้งสามประเทศได้ก่อตั้งพันธมิตรแห่งรัฐซาเฮล (Alliance of Sahel States – AES) และหันมาร่วมมือกับรัสเซีย โดยผู้นำหลายรายในภูมิภาคยกย่องให้มอสโกเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงรายใหม่ ที่มีประสิทธิภาพในการตอบโต้ความรุนแรงจากกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนกว่า 10,400 คนในปี 2024 เพียงปีเดียว
สำหรับโตโก ประเทศนี้ก็เริ่มเผชิญกับความรุนแรงข้ามพรมแดนมากขึ้น โดยในปี 2024 ได้บันทึกเหตุความไม่สงบ 10 ครั้ง และมีรายงานผู้เสียชีวิต 52 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่มีการจัดเก็บข้อมูลตามรายงานของ Global Terrorism Index
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน กลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ (al-Qaeda) ในนาม “กลุ่มสนับสนุนอิสลามและมุสลิม” (Group for Support of Islam and Muslims – GSIM) ได้นำกำลังประมาณ 100 นาย เปิดฉากโจมตีฐานทหารของโตโกใกล้ชายแดนกับบูร์กินาฟาโซ ส่งผลให้มีทหารโตโกเสียชีวิตหลายราย
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ยืนยันอีกครั้งในที่ประชุมร่วมกับผู้นำ AES ว่ามอสโกพร้อมสนับสนุนการยกระดับขีดความสามารถทางทหารของกลุ่มพันธมิตรซาเฮล ไม่ว่าจะเป็นการเสริมกำลังรบ เพิ่มความพร้อมตามยุทธวิธี รวมถึงช่วยฝึกอบรมเจ้าหน้าที่กองทัพและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
การลงนามในความร่วมมือกับโตโกจึงเป็นอีกก้าวสำคัญของแผนยุทธศาสตร์รัสเซียในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งต้องการสร้างเครือข่ายพันธมิตรด้านความมั่นคงที่ไม่พึ่งพาตะวันตก ในขณะเดียวกันก็ขยายบทบาททางยุทธศาสตร์จากทะเลดำสู่อ่าวกินีและชายฝั่งแอตแลนติกของแอฟริกาอย่างเป็นรูปธรรม
---
IMCT NEWS
ที่มา https://www.rt.com/africa/621846-moscow-approves-draft-defense-deal-togo/