สหรัฐฯ ถอดบทเรียนรับมือขีปนาวุธอิหร่าน เสริมสมรรถนะ Patriot เตรียมรับศึกอินโด-แปซิฟิก

26-7-2025

    Newsweek รายงานว่า  การโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านต่อตำแหน่งทางทหารสหรัฐที่ฐานทัพอากาศ Al Udeid ในกาตาร์ ซึ่งเป็นการตอบโต้การระเบิดสิ่งอำนวยความสะดวกนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยอเมริกาก่อนหน้านี้ ได้กระตุ้นการปฏิบัติการป้องกันทางอากาศที่ไม่เคยมีมาก่อนบนพื้นดิน ตามผู้นำทางทหารสหรัฐที่เปิดเผยต่อมาว่าหน่วย Patriot ได้รับการปรับใช้จากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

### ประสบการณ์สนามรบตัวจริงจากอิหร่าน

ปีนี้ หน่วยป้องกันภัยทางอากาศ Patriot ของกองทัพบกสหรัฐฯ ที่ประจำการในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ได้รับการเสริมสร้างขีดความสามารถอย่างมีนัยสำคัญอันเป็นผลจากประสบการณ์รับมือการโจมตีด้วยขีปนาวุธจากอิหร่านในตะวันออกกลาง

เมื่ออิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้ฐานทัพสหรัฐฯ ที่ Al Udeid ในกาตาร์ หลังจากที่สหรัฐฯ โจมตีโครงสร้างนิวเคลียร์ของอิหร่าน กองทัพสหรัฐฯ จำเป็นต้องดึงกำลัง Patriot จากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มาช่วยปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อป้องกันฐานทัพดังกล่าว

จากข้อมูลของ พลเอกแดน เคน (Dan Caine) ประธานคณะเสนาธิการร่วม ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่เพียง 44 นายที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมแบตเตอรี Patriot ทั้งสองชุด ร่วมกับกำลังของกาตาร์ สามารถยิงสกัดขีปนาวุธอิหร่านได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความพร้อมและทักษะที่ได้จากการฝึกจริงในสนามรบ

แม้จำนวนขีปนาวุธ Patriot ที่ยิงออกไปจะถูกปกปิด แต่แหล่งวิเคราะห์ภายนอก เช่น Jewish Institute for National Security of America ประเมินว่ามีประมาณ 30 ลูกที่ปล่อยสกัดเป้าหมายทั้งหมด 14 ลูก เป็นปฏิบัติการที่ใช้เงินกว่า 111 ล้านดอลลาร์ในหนึ่งคืน

### ยกระดับขีดความสามารถสู่เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

บทเรียนและประสบการณ์เหล่านี้ถูกถ่ายทอดกลับไปยังหน่วย 38th Air Defense Artillery Brigade ที่ญี่ปุ่นและ 35th Air Defense Artillery Brigade ที่เกาหลีใต้ ซึ่งทั้งสองแบตเตอรีประกอบด้วยระบบตรวจจับ เรดาร์-ศูนย์ควบคุม-จุดยิงและขีปนาวุธแบบนำวิถี รองรับการยิงขีปนาวุธ 4–16 ลูกต่อแท่นยิง ขึ้นอยู่กับชนิดกระสุนที่ใช้

ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเผชิญภัยคุกคามจากขีปนาวุธเกาหลีเหนือและการสั่งสมอาวุธพิสัยไกลของจีน ซึ่งสามารถยิงถึงฐานทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ได้ การได้สัมผัสประสบการณ์รับมือขีปนาวุธจริง ทำให้หน่วยงาน Patriot ของสหรัฐฯ เข้าใจรูปแบบการสู้รบ การวางระบบสู้กลางคืน การตอบสนองกับภัยคุกคามพร้อมกันหลายเป้า การปรับปรุงแผนยุทธวิธี ต้นแบบการสื่อสารกับพันธมิตรประเทศที่เป็นเจ้าบ้าน และการประสานงานกับระบบป้องกันระดับชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

### การเสริมกำลังและวิวัฒนาการอาวุธ

กองทัพสหรัฐฯ อยู่ระหว่างขยายจำนวนแบตเตอรี Patriot ในเอเชียควบคู่กับการนำเทคโนโลยี Indirect Fire Protection Capability (IFPC) รวมทั้งระบบตรวจจับและตอบโต้ภัยทางอากาศรุ่นใหม่หลายชนิดเข้าสู่การใช้งาน เช่นเดียวกับกำลัง THAAD ที่ประจำการในเกาหลีใต้และกวม เพื่อรับมือขีปนาวุธข้ามทวีปจากจีนและเกาหลีเหนือ

Timothy Walton นักวิจัยด้านยุทธศาสตร์ของ Hudson Institute ระบุว่าประสบการณ์เหล่านี้จะช่วยให้ทหารสหรัฐฯ พร้อมปรับแนวยุทธวิธีให้ตอบสนองภัยคุกคามยุคใหม่จากจีนและเกาหลีเหนือได้รัดกุมและรวดเร็วยิ่งขึ้น

### บริบทภูมิรัฐศาสตร์: สงครามจิตวิทยา–การถ่ายโอนองค์ความรู้

ปฏิบัติการจริงในตะวันออกกลางไม่เพียงช่วยปรับปรุงเทคนิคป้องกันภัยคุกคามอย่างเป็นรูปธรรม ยังเสริมความมั่นใจทางยุทธศาสตร์ให้กับพันธมิตรสหรัฐฯ ในอินโด-แปซิฟิก ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในช่วงสหรัฐฯ กำลังปรับยุทธศาสตร์ประจำการและเน้นให้พันธมิตรมีบทบาทมากขึ้นในการดูแลความมั่นคงภูมิภาค

การย้ายกำลังหน่วย Patriot เพื่อรับมือสงครามขีปนาวุธจากอิหร่านกลายเป็นทั้งเครื่องมือทดสอบองค์ความรู้และเครื่องประกันขีดความพร้อมเชิงรุก หากต้องเผชิญหน้ากับปฏิบัติการรบจริงในเอเชียเหนือ

----

IMCT NEWS

ที่มา https://www.newsweek.com/iran-war-experience-helps-us-patriot-missile-units-pacific-china-north-korea-2103854