ลีลาทรัมป์: บอมบ์แล้วถอย แล้วประกาศชัยชนะ

ลีลาทรัมป์: บอมบ์แล้วถอย แล้วประกาศชัยชนะ
23/6/2025
ในที่สุดโดัลด์ ทรัมป์ก็เปิดศึกสงครามกับอิหร่านแล้ว ด้วยการสั่งการให้กองทัพอากาศสหรัฐบอมบ์โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านท้ังสามแห่งคือFordo, Natanz และIsfahanในช่วงเช้าวันอาทิตย์นี้ (22 มิถุนายน) ทรัมป์บอกว่าปฏิบัติการนี้เสร็จสิ้นแล้ว โดยไม่ให้รายละเอียดว่าโรงงานนิวเคลียร์ทั้งสามแห่งเสียหายมากน้อยเพียงใด แต่เน้นย้ำในถ้อยแถลงตอนท้ายว่าได้เวลาของสันติภาพแล้ว ท่างฝ่ายอิหร่านก็ยังไม่รายงานข่าวอย่างทันทีถึงความเสียหายของโรงงานนิวเคลียร์จากการโจมตีของสหรัฐ
ขอต้ังข้อสังเกตุเกมสงครามของทรัมป์กับอิหร่านดังนี้:
1. ทรัมป์สั่งบอมอิหร่านแบบขอไปทีก่อนกำหนดสองสัปดาห์ที่ขีดเส้นตาย ท่ามกลางแรงกดดันของเบนจามิน เนทันยาฮู และพวกนีโอคอนที่บ้าสงคราม ที่ต้องการให้ทรัมป์บอมบ์อิหร่านให้ราบคาบจนกลับไปสู่ยุคหิน และล้มล้างระบอบการปกครองของอิหร่านอย่างเร่งด่วน เพราะทรัมป์รู้ดีกว่า การทำสงครามกับอิหร่านอย่างเต็มรูปแบบจะนำไปสู่หายนะของความเป็นประธานาธิบดีของเขา และการสิ้นสุดของจักรวรรดิสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสหรัฐไม่มีทางเอาชนะสงครามกับอิหร่าน ซึ่งเป็นมหาอำนาจภูมิภาค และมีมหามิตรอย่างรัสเซีย และจีนที่จะคอยให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ได้ สหรัฐไม่ได้เข้มแข็งทางทหารเหมือนในอดีต ทรัมป์จึงเลือกที่จะทำสงครามในวงจำกัด (limited war) โดยเลือกเป้าที่จะบอมบ์คือโรงงานนิวเคลียร์ที่สำคัญท้ังสามแห่งของอิหร่าน โดยเป็นปฏิบัติการที่รวดเร็วฉับพลันแล้วจบเกมแค่นี้ไปเลย เหมือนกับจะบอกกับเนทันยาฮูว่าคุณอยากได้สงครามใช่ไหม เดี๋ยวจัดให้ ในขณะที่อิสราเอลต้ังรับขีปนาวุธกับโดรนของอิหร่านไม่ไหว ประเทศกำลังล่มสลาย หลังจากคำนวนผิดไปเปิดฉากถล่มอิหร่านก่อนในวันที่ 13มิถุนายน
2. ทรัมป์สั่งโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านแบบเซอร์ไพรซ์ก่อนในเช้าตรู่ของวันอาทิตย์นี้ก่อนเวลา เพราะว่าเขาประกาศในวันที่ 19มิถุนายนว่า ขอเวลา2สัปดาห์เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเจรจากับอิหร่านให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ท้ังหมด หากอิหร่านไม่ยอม จะส่งเครื่องบินB-2ปบอมบ์โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน แถมขู่ให้ประชาชนชาวอิหร่าน10ล้านคนอพยพออกจากกรุงเตหะราน ในขณะเดียวกันกองเรือรบ พร้อมเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐได้ไปประจำการที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ทะเลแดง และทะเลอาราเบียเพื่อเตรียมความพร้อม ในขณะที่มีรายงานว่าเพนตากอนทะยอยขนย้ายอุปกรณ์ทางทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ตะวันออกกลาง ส่งกลิ่นโชยของสงครามอาร์มาเกดดอนคลุ้งไปทั่ว ทรัมป์เล่นเซอร์ไพรซ์ตลอดเวลาสำหรับคำพูดกับการกระทำที่สวนทางกัน อย่างไรก็ดี ทรัมป์น่าที่จะมีการส่งสัญญานให้ตุรกีที่เป็นประเทศเป็นตัวเชื่อมให้แจ้งให้อิหร่านได้รับทราบว่าการโจมตีของสหรัฐจะเป็นสงครามที่จำกัดวง เพื่อบรรลุเป้าหมายของจุดยืนหรือข้ออ้างของทรัมป์ว่าอิหร่านต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในการครอบครอง ความจริงมีความพยายามจากทีมทรัมป์ที่จะติดต่อเจรจากับอิหร่านผ่านตุรกีที่เป็นตัวกลางในระหว่างการประชุมจี7ที่แคนาดา แต่เนื่องจากอายาตอเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านหลบซ่อนตัวในสถานที่ปลอดภัยจึงไม่สามารถติดต่อ หรือขออนุมัติให้มีการเปิดการเจรจาได้
3. ข้ออ้างเรื่องอิหร่านเป็นภัยต่ออิสราเอลและภูมิภาคเพราะว่ากำลังจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว ไม่ได้แตกต่างจากข้อกล่าวหาของสหรัฐหลังเหตุการณ์911 ที่ปั้นน้ำเป็นตัวว่าซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำของอิรักมีอาวุธมหาประลัย (weapons of mass destruction) ในการครอบครอง ประธานาธิบดีบุชสั่งบอมบ์และส่งทหารเข้าไปทำสงครามกับอิรักในปี2003 และสามารถล้มล้างระบอบการเมืองของซัดดัม และจับซัดดัมแขวนคอได้ ปรากฎว่ากองทัพสหรัฐไม่พบอาวุธมหาประชัยของซัดดัมแต่ประการใด แต่ได้ขนย้ายทองคำมหาศาล รวมท้ังเทวรูปและวัตถุโบราณที่ล้ำค่าจากคลังสมบัติของอิรักไป ในตอนน้ันสหรัฐเป็นมหาอำนาจแต่ผู้เดียว ท้ังทางเศรษฐกิจ การเงินและการทหารจึงไม่มีใครมาทัดทานหรือท้วงติงได้ การล้มล้างอิรักให้เป็นรัฐล้มเหลวโดยใช้ข้ออ้างเรื่องการครอบครองอาวุธมหาประชัยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพวกนีโอคอนในสหรัฐที่ต้องการก่อสงครามกับ7ประเทศคืออิรัก ซีเรีย เลบานอน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ก่อนที่จะปิดเกมกับอิหร่าน เพื่อที่จะล้มล้างระบอบการปกครอง จะได้ไม่เป็นภัยต่ออิสราเอล อิสราเอลจะได้เป็นใหญ่แต่ผู้เดียวในตะวันออกกลาง ทรัมป์รู้เรื่องนี้ดี จึงไม่ต้องการตกหลุมพราง เพราะว่าหากทรัมป์เปิดศึกกับอิหร่าน เขาจะติดหล่มสงครามที่จะยืดเยื้อเหมือนสงครามเวียดนาม สงครามอัฟกานิสถาน หรือสงครามอิรักที่ท้ายที่สุด ไม่รู้ว่าเป้าหมายของชัยชนะคืออะไร หากเปิดสงครามใหญ่กับอิหร่าน ทรัมป์ต้องส่งทหารหลายแสนนายเข้าไปยึดครองดินแดนของอิหร่าน ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ กับพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลของอิหร่านที่เกือบจะเท่ากับยุโรปตะวันตก ทหารอเมริกันจะล้มตายเป็นจำนวนมาก ฐานทัพสหรัฐ และกองเรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐจะตกเป็นเป้าของขีปนาวุธที่ต้านทานไม่ได้ของอิหร่าน
4. เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวหามาตลอดระยะเวลากว่า30ปีว่าอิหร่านใกล้ที่จะมีอาวุธนิวเคลียร์แล้ว พูดจาโกหกซ้ำซากและมีสื่อกระแสหลักของสหรัฐและตะวันตกคอยโฆษณาชสวนเชื่อคำโกหกของเนทันยาฮูให้ดูเหมือนว่าเป็นความจริง เนทันยาฮูมีอิทธิพลมากในการเมืองสหรัฐมากกว่าทรัมป์เสียอีก เพราะอย่างที่ทราบกันนายธนาคารยิวควบคุมการเงิน การเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคงของสหรัฐอย่างเบ็ดเสร็จ อิหร่านตกเป็นเป้าของอิสราเอลเป้าสุดท้ายที่ต้องโค่นล้มให้ได้ เพื่อว่าอิสราเอลจะสามารถบรรลุจุดหมายอันสุงสุดในการสร้างGreater Israel เพื่อควบคุมตะวันออกกลางท้ังหมด การเปิดฉากโจมตีอิหร่านในวันศุกร์ที่ 13มิถุนายนที่ผ่านมาจึงเป็นการเดินตามสกริ๊ปที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วกว่าครึ่งศตวรรษ หลังจากที่สหรัฐ และอังกฤษ รวมท้ังนาโต้ช่วยอิสราเอลกำจัดศัตรู หรือล้มล้างประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเกือบหมด รวมท้ังสร้างความแตกแยกในหมุ่ประเทศอาหรับ การตั้งฐานทัพของสหรัฐในกลุ่มประเทศอาหรับไม่ว่าจะในยูเออี คูเวต กาต้าร์ บาห์เรน ซาอุเป็นการป้องปรามไม่ให้รวมตัวกันติดในการเป็นศัตรูกับอิสราเอล ในขณะที่จอร์แดนยังคงเป็นบริวารประเทศของอังกฤษ และอิยิปต์ถูกสหรัฐสยบด้วยเม็ดเงินช่วยเหลือทางทหาร อัฟกานิสถานถูกสหรัฐทำลาย ตามมาด้วยอิรัก ลิเบีย ซีเรีย เลบานอน โซมาเลีย ซูดาน คงเหลือแต่อิหร่านที่ถูกแช่แข็งด้วยมาตรการแซงชั่นที่ดำเนินมาเป็นเวลากว่า50ปี เพื่อให้อิหร่านอ่อนแอที่สุด ก่อนที่สหรัฐภายใต้การบงการของอิสราเอลจะเปิดเกมสงครามอาร์มาเกดดอนกับเพื่อเป้าหมายของGreater Israel
5. เนทันยาฮูคำนวนผิดพลาด คิดว่าจะเปิดศึกกับอิหร่านในสงครามวันที่ 13แล้วให้ทรัมป์เข้ามาปิดเกมด้วยการส่งทหารอเมริกันไปตายแทนอิสราเอล ทรัมป์รู้แผนการก่อศึกนี้ทั้งหมด และต้องเล่นตามเกมของเนทันยาอูไปก่อน อย่าลืมว่าทรัมป์ขึ้นมามีอำนาจได้เพราะได้รับการสนับสนุนจากนายทุนยิวเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Marian Wright Edelman แม่หม้ายยิวอเมริกันที่ทรงอิทธิพลที่ให้เงินช่วยเหลือแคมเปญทรัมป์$600ล้าน ทรัมป์ต้องถ่วงดุลลประโยชน์ของแนวร่วมMake America Great Again ที่ต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐและไม่ต้องการให้สหรัฐไปทำสงครามนอกประเทศที่ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้ง กับพวกนีโอคอนหรือกลุ่มล็อบบี้อีสต์ยิวที่ต้องการใช้สหรัฐให้ไปตายแทนอิสราเอล ปรากฎว่าแผนการของเนทันยาฮูในการบอมบ์อิหร่านให้กลับไปสู่ยุคหินไม่สำเร็จ อิหร่านตั้งหลักได้ หันกลับมาใช้ขีปนาวุธและโดรนโจมตีตอบโต้อิสราเอลอย่างทันควัน โดยที่ทรัมป์รีๆรอๆไม่เข้าไปปิดเกมสงครามกับอิหร่าน ทรัมป์อ้างว่าแค่นี้ก็ช่วยอิสราเอลมากพอแล้ว ในการเล่นละครให้อิหร่านตายใจว่าอิสราเอลจะไม่โจมตีในขณะที่การเจรจาโครงการนิวเคลียร์ยังคงดำเนินอยู่ อิหร่านได้ที เดินหน้าถล่อิสราเอลอย่างเต็มที่โดยที่ระบบไอรอนโดมของอิสราเอลไม่สามารถต้านทานได้ ผ่านมาวันที่8ของสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ปรากฎว่าอิสราเอลบอบช้ำอย่างหนัก ขีปนาวุธป้องกันภัยกำลังหมดสต็อค บ้านเรือน สนามบิน ศูนย์บัญชาการทางทหาร ฐานทัพ และจุดยุทธศาสตร์ต่างๆตกเป็นเป้าที่แม่นยำของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของอิหร่าน เมืองท่าไฮฟา และเมืองหลวงเทล อาวิฟตกเป็นเป้าของการทำลายของขีปนาวุธอิหร่าน The Wall Street Journal รายงานว่าหากสงครามยังคงดำเนินต่อไป อิสราเอลจะถึงกับกาลวิบัติกับเศรษฐกิจ ส่วนอิหร่านไม่ได้รับความบอบช้ำจากการดจมตีของอิสราเอลที่จำเป็นต้องใช้เครื่องบินรบเพื่อไปทิ้งบอมบ์ ทำให้ทำศึกสงครามได้ไม่ถนัดมือ ไม่เหมือนอิหร่านที่ใช้โดรนและขีปนาวุธลูกยาวเป็นหลัก
6. อิหร่านตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับรัสเซียที่ถูกยูเครนภาใต้การสนับสนุนของนาโต้รุกรานลึกเข้าไปในแคว้นเคิร์กซ์ ซึ่งเป็นดินแดนของรัสเซีย และโจมตีเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ในฐานทัพรัสเซียภายใต้การบงการของMI6 ของอังกฤษ และการสมรู้ร่วมคิดของCIA แต่ประธานาธิบดีปูตินยอมอดกลั้นไม่ตอบโต้อังกฤษ สหรัฐ หรือนาโต้ แต่มุ่งทำสงครามยึดครองดินแดนของยูเครนเพิ่ม และทำลายกองทัพของยูเครนให้สิ้นซาก จะได้ไม่เป็นภัยต่อรัสเซียต่อไปในอนาคต ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นปูตินไม่ยอมเฉไฉจากยุทธศาสตร์หรือภาพรวมของสงครามในการทำลายกองทัพยูเครน เมื่อทำลายได้แล้ว ปูตินจะยึดกรุงเคียฟ ถึงเวลานั้นนาโต้จะทำอะไรไม่ได้
อิหร่านก็เหมือนกัน หากอิหร่านตอบโต้สหรัฐด้วยการบอมบ์ฐานทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง หรือเรือบรรทุกเครื่องบิน กองเรือรบสหรัฐในทะเลใกล้เคียง อิหร่านจะนำพาสหรัฐเข้าสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอิหร่านอาจจะไม่แพ้ แต่จะบอบช้ำจนเสี่ยงจะกลายเป็นรัฐล้มเหลวได้ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของอิหร่านคือต้องเดินหน้าถล่มอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง หรือเพิ่มจำนวนขีปนาวุธ จนกระทั่งอิสราเอลกลายเป็นรัฐล้มเหลวแทน เพราะว่าตราบใดที่อิสราเอลยังดำรงอยู่ ตราบนั้นอิสราเอลจะเป็นภัยต่อความอยู่รอดของอิหร่าน ช่วงจังหวะเวลานี้ อิหร่านต้องโฟกัสไปที่สงครามกับอิสราเอลอย่างเดียวให้เสร็จภาระกิจ ในขณะที่การเจรจากับทรัมป์สามารถดำเนินไปได้แบบลูบหน้าปะจูมก
7. มองไปข้างหน้า อิสราเอลน่าที่จะกลายเป็นรัฐล้มเหลว เพราะว่าไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากอิหร่านได้ จะเป็นการผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงหากอิหร่านยอมเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล เพราะว่าจะถูกอิสราเอลเอาคืนอย่างเจ็บปวดในวันข้างหน้า หากอิสราเอลถูกทำลาย ภูมิทัศน์ในตะวันออกกลางจะเปลี่ยนแปลงอย่างนิ้นเชิง สันติภาพ ความเจริญกับความมั่งคั่งจะกลับคืนมาจากการฟื้นฟู ปาเลสไตน์จะถูกปลดแอก ส่วนเนทันยาฮูกำลังตกที่นั่งลำบาก ในขณะที่ทรัมป์ต้องการทำสงครามที่จำกัดวง ไม่ต้องการทำสงครามใหญ่ แค่ต้องการถล่มโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านแก้เกี้ยวหรือลดแรงกดดันของพวกนีโอคอน เพื่อมุ่งเน้นนโบายMAGAเพื่อให้สหรัฐกลับมายิ่งใหญ่อีกคร้ังทางเศรษฐกิจ และแข่งขันกับจีนที่เป็นเป้าที่ใหญ่กว่า ไม่ใช่การเปลืองตัวกับสงครามขูเครนที่ทรัมป์อยากเลิก หรือสงครามอิหร่านที่ทรัมป์ไม่อยากเข้าไปยุ่ง ส่วนรัสเซีย จีน และประเทศต่างๆคอยคุมเชิงหรือจับตาเผ้าดูสถานการณ์ที่ามารถพลิกผันไปมาได้ตลอดเวลา ต้องดูว่าทรัมป์จะเล่นละคร"ชวนมาแต่ไม่มา หรือมาแล้วแบบไม่เต็มใจ"ได้นานเท่าใด ก่อนที่มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะถูกล้มจากอำนาจเพื่อเปิดทางให้ประธานาธิบดีคนใหม่ก่อสงครามอาร์มาเกดดอนกับอิหร่าน ซึ่งจะเป็นสงครามคร้ังสุดท้ายเพื่อตัดสินชะตากรรมของโลก
By Thanong Khanthong